ตำรวจรวบตัวพ่อคลั่งยาอาละวาด ญาติเชื่อฤทธิ์ทำร้ายลูกวัย 2 ขวบดับ
เมื่อเวลา 02.55 น. วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 ร.ต.อ.อำไพ มีมัสสุ รอง สว.สอบสวน สภ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุมีคนคลุ้มคลั่งที่ หมู่ที่ 5 ต.ท่าขนอน พร้อม พ.ต.อ.เกรียงไกร ไกรแก้ว ผกก.สภ.คีรีรัฐนิคม นำกำลังไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบนายธนวัฒน์ อายุ 41 ปี เจ้าของบ้านอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งที่มือถือมีดพร้าปีนขึ้นอยู่ไปหลังคาบ้าน โดยก่อนนี้มีน้องกั๊ก อายุ 1 ขวบ 11 เดือน ลูกชายคนเล็กนายธนวัฒน์ ได้รับบาดเจ็บสาหัสนำส่งโรงพยาบาลคีรีรัฐนิคม และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ต่อมาเวลา 08.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้ยุทธวิธีเข้าควบคุมตัวไว้ได้สภาพลำตัวมีบาดแผลพูดจาวกวนไปมา
สอบสวน ภรรยานายธนวัฒน์ ทราบว่า สามีได้หายออกไปจากบ้าน 2 วัน โดยเชื่อว่าไปเสพยาเสพติดมาและมีอาการคล้ายเมายา ก่อนเกิดเหตุช่วงค่ำวันที่ 30 เม.ย. สามีได้รบเร้าให้ตนและแม่สามีให้พาไปที่วัดแห่งหนึ่งโดยอ้างว่าป่วย แต่ตนคิดว่าสาเหตุมาจากฤทธิ์ยาเสพติด และได้นำน้องกั๊กไปด้วย กลับมาถึงบ้านเวลา 23.00 น. เมื่อถึงบ้านสามีได้ไล่ตนกับแม่ลงจากรถจักรยานยนต์แล้วขับออกไปอย่างรวดเร็วโดยพาน้องกั๊ก ลูกชายไปด้วย
กระทั่งประมาณเที่ยงคืน สามีได้กลับมาที่บ้านพร้อมอุ้มร่างน้องกั๊กในสภาพไม่รู้สึกตัว ใบหน้าและลำตัวเปื้อนเลือด โดยสามีพูดซ้ำไปมาว่าเกิดเหตุรถล้ม แต่ไม่ยอมส่งตัวน้องกั๊กให้ ซึ่งตนพยายามแย่งตัวลูกจะนำส่งโรงพยาบาล และมีญาติๆ ออกมาช่วยจนเกิดเหตุชุลมุน ซึ่งลูกชายคนโต อายุ 15 ปี ได้เข้าไปห้ามไม่ให้นายธนวัฒน์ทำร้ายตน ทำให้ถูกมีดได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าและมือข้างขวา ซึ่งเมื่อญาติๆ แย่งตัวน้องกั๊กได้รีบนำส่งโรงพยาบาลคีรีรัฐนิคม ส่วนตนวิ่งเข้าไปแอบในบ้านของน้าชายทำให้นายธนวัฒน์คลุ้มคลั่งใช้มีดพร้าไล่ทำร้ายร่างกายญาติๆ แล้วขึ้นไปบนหลังคาบ้าน
นางภาวิณีกล่าวว่า ที่ร่างของน้องกั๊กลูกชายคนเล็กที่บริเวณศีรษะพบว่ามีอาการบวมนิ่มสามารถใช้นิ้วกดลงไปได้ และมีเลือดออกที่หูทั้งสองข้าง ส่วนใบหน้ามีรอยถลอก ซึ่งญาติติดใจและสงสัยว่าสามีน่าจะเกิดอาการหลอนยาจนทำร้ายร่างกายลูกจนเสียชีวิต แล้วอ้างว่าเกิดอุบัติเหตุจึงขอให้ตำรวจส่งศพชันสูตรที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี
พ.ต.อ.เกรียงไกรกล่าวว่า หลังควบคุมตัวธนวัฒน์ ได้นำตัวไปตรวจหาสารเสพติดในร่างกายพบมีสารเอมเฟตามีนในปริมาณมาก จึงได้แจ้งข้อหาเสพสารเสพติด ส่วนการชันสูตรศพน้องกั๊ก เบื้องต้นพบศีรษะได้รับการกระแทกอย่างรุนแรง ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 8 เข้าตรวจที่เกิดเหตุพบว่าจากบาดแผลน้องกั๊กและเสาไฟฟ้าที่ถูกรถชนเข้ากันได้ จึงเชื่อว่าการเสียชีวิตน้องกั๊กมาจากอุบัติเหตุมากกว่าฆาตกรรม ซึ่งพนักงานสอบสวนจะแจ้งข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต และขับรถขณะเสพสารเสพติดต่อไป
