หนุ่มวัย 48 ปี กระโดดสะพานเวฬุ จมหายนานกว่าชั่วโมง กู้ภัย, เจ้าหน้าที่ทหาร, ตำรวจ, ปภ.นำกำลังและอุปกรณ์ออกช่วยค้นหา ด้านแม่เผยลูกชายป่วยต้องพบจิตแพทย์และทานยาคลายเครียดมาเกือบปีแล้ว
เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 1 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารที่ประจำด่านท่าจอด ต.แสนตุ้ง อ.เขาสมิง จ.ตราด ได้รับแจ้งเหตุ มีคนกระโดดน้ำที่บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำเวฬุ อยู่ห่างจากด่านประมาณ 1 กิโลเมตร หลังรับแจ้งได้ประสานไปยังอาสาสมัครกู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือแสนตุ้งร่วมจัดกำลังค้นหา
ที่เกิดเหตุบริเวณใต้สะพานข้ามแม่น้ำเวฬุ พบชาวบ้าน อาสาสมัครกู้ภัย เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจร่วมกันนำเรือออกค้นหา นายวิเชียร วรรณแสง อายุ 48 ปี ลูกจ้างทำสวนของเทศบาลตำบลแสนตุ้ง
นายสุริยัน (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าให้ฟังว่า ตอนนั้นนั่งตกปลาอยู่ใต้สะพาน ได้ยินเสียงเหมือนมีของตกลงน้ำดังตูม จึงเดินไปถามคนที่อยู่ใกล้เคียงก็บอกว่ามีคนกระโดดลงแม่น้ำเวฬุ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร จึงเดินกลับมานั่งตกปลาต่อ ผ่านไปประมาณ 2-5 นาที ได้ยินเสียงคนตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ และเมื่อมองออกไปบริเวณกลางแม่น้ำใกล้ๆ ตอม่อ เห็นชายคนหนึ่งกำลังผลุบโผล่ ร้องว่าช่วยด้วย ตนจึงวิ่งไปหาเจ้าของเรือเพื่อขอให้นำเรือที่จอดอยู่ตรงริมตลิ่งนำเรือออกไปช่วย แต่เจ้าของเรือบอกมันไม่เป็นไรหรอก มันแกล้ง ตนจึงกลับมาที่เดิม และมองเห็นน้ำที่กำลังขึ้นและไหลเชี่ยวได้พัดร่างชายดังกล่าวลอยไปจนถึงโพงพางที่อยู่ห่างจากจุดที่กระโดดประมาณ 100 เมตร
นายสุริยันกล่าวว่า ตนสงสารจึงวิ่งไปหาเจ้าของเรืออีกรอบเพื่อขอให้ช่วย แต่เขาไม่ยอมออกไปช่วย ตนไม่รู้จะช่วยยังไง อยากจะลงไปช่วย แต่ด้วยตัวเองไม่มีความรู้เรื่องการช่วยเหลือผู้จมน้ำ จึงมองดูชายดังกล่าวผลุบโผล่อยู่ 3 ครั้ง และจมหายไป
นางสาวประไพ ดวงอุดมพงศ์ อายุ 65 ปี แม่ของนายวิเชียร ระบุว่า ก่อนหน้าที่จะทราบว่าลูกมากระโดดน้ำจนจมหายไปในแม่น้ำเวฬุ ในเวลา 17.30 น. ลูกชายยังนั่งสมาธิอยู่ในบ้าน ส่วนตนเตรียมอาหารให้นายวิเชียร เนื่องจากนายวิเชียรต้องกินยาหลังอาหาร เพราะมีอาการเครียด เข้ารับการรักษากับจิตแพทย์และทานยารักษามานานแล้ว โดยวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ก็จะครบ 1 ปี
นางสาวประไพกล่าวว่า เมื่อเตรียมอาหารเสร็จกลับไม่พบลูกชาย ได้เดินตามหา ขณะนั้นมีคนบอกว่ามีรถกู้ภัย รถตำรวจมาที่ใต้สะพานเพราะมีคนกระโดดน้ำ ตนจึงขี่รถจักรยานยนต์ออกมาดู เมื่อมีคนบอกว่ามีคนกระโดดน้ำและจมหายไป ตนได้สอบถามว่าใส่เสื้อสีอะไร ซึ่งคนที่พบบอกสีเสื้อตรงกันจึงมั่นใจว่าเป็นลูกชาย
ต่อมาญาติของนางสาวประไพได้เข้ามาหาและพานางสาวประไพไปไหว้เจ้าพ่อปากเกาะ เพื่อขอให้พบนายวิเชียรไม่ว่าจะมีชีวิต หรือเสียชีวิต ขออย่าให้ลอยไปที่อื่น
เบื้องต้นจากการใช้เรือหางยาวขับวนหานานกว่า 50 นาที ก็ไม่พบนายวิเชียร อาสาสมัครกู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือได้นำเรือและอุปกรณ์ดำน้ำออกค้นหา ขณะที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้นำเรือและอุปกรณ์ร่วมค้นหาด้วยเช่นกัน โดยเวลา 20.30 น.ที่ผ่านมา ทีมค้นหายังคงดำเนินการต่อไป
