สั่งตรวจสอบทรัพย์สินวัดเพ็ญญาติ หลังกาโตะคืน 6 แสน พระคนกลางหายตัวไร้ร่องรอย

เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงาน กรณี อดีตพระกาโตะ หรือ นายพงศกร จันทร์แก้ว อายุ 23 ปี อดีตรักษาการเจ้าอาวาสวัดเพ็ญญาติ อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ได้แอบนำเงินวัด จำนวน 600,000 บาท ออกไป และนำมาคืนให้กับกรรมการวัด ท่ามกลางพยานทั้งฝ่ายสงฆ์และฆราวาสที่วัดมังคลาราม เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมานั้น ล่าสุด ได้รับการเปิดเผยจากกรรมการวัดท่านหนึ่งว่า ได้นำเงินเข้าฝากในบัญชีวัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนการเปลี่ยนชื่อกรรมการวัด ค่อยหารือกันอีกครั้งหลังจากนี้ เนื่องจากทางวัดกำลังมีการก่อสร้างโบสถ์ ที่จำเป็นจะต้องใช้เงิน การเบิกจ่ายก็จะต้องมีความรัดกุมมากยิ่งขึ้น

ต่อข้อถามว่า เกรงว่าการก่อสร้างอาคารต่างๆภายในวัดจะสำเร็จลุล่วงไปหรือไม่ว่า ก็หวั่นๆเช่นกันแม้ว่าท่านไม่อยู่ในวัดแล้ว แต่ก็ยังหารือได้ ท่านวางแผนการก่อสร้างไว้แล้ว แต่ก็คงต้องเป็นหน้าที่ของกรรมการและพระที่อยู่ในวัด หรือ พระผู้ใหญ่ที่จะเข้ามาดูแลวัดต่อไป ชาวบ้านไม่มีปัญหา ใครก็ได้ที่ช่วยกันสร้างวัดของเราให้สำเร็จ

“ผมคุยกับท่านแล้ว ท่านไม่ติดยึด ท่านน่ารัก ท่านพร้อมที่จะให้คำแนะนำเหมือนเดิม แต่หากกรรมการติดปัญหาอะไรก็โทร.หาได้ตลอด แต่ควรปรึกษาพระผู้ใหญ่ที่จะเข้ามาดูแลวัด ท่านพูดทุกคำ ท่านขอโทษทุกคำ พวกเรารู้สึกเสียดาย ท่านเป็นพระนักพัฒนา เป็นพระรุ่นใหม่จริงๆ อาจจะมีความคะนองบ้าง แต่ชาวบ้านรักและศรัทธา ให้เวลาผ่านไปสักนิด อะไรๆก็จะดีขึ้น ท่านบอกว่าจะพักที่บ้านญาติระยะหนึ่ง ก่อนที่จะเดินทางไปต่างจังหวัด แต่ไม่บอกว่าจะทำอะไร ยอมรับว่าท่านให้ชุมชนจริงๆ”

ต่อข้อถามเท่าที่พูดคุยกันในฐานะผู้ใหญ่กว่า อดีตพระกาโตะรู้สึกอย่างไร ท่านแมนๆนะ ผิดก็ยอมรับผิด ทำจริง ก็บอกมีทุกคำขอโทษ ที่ออกจากปากท่าน เวลาผ่านไปท่านอายุมากขึ้น ท่านจะเข้าใจชีวิตมากขึ้น มั่นใจว่า ผิดเรื่องสีกา ผิดเรื่องยืมเงินวัด ทุกอย่างจบแล้ว แต่ทางโลก จะใช้กฎหมายเอาผิดอดีตพระกาโตะก็ว่ากันไป ท่านบอกเราว่าน้อมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น และหากจะตรวจบัญชีวัด บัญชีกรรมการ หรือบัญชีอดีตพระกาโตะ ทุกคนพร้อม เราทำเพื่อวัดเพ็ญญาติจริงๆ

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงาน สำหรับวัดเพ็ญญาติ ตั้งอยู่บนเนินเขา หลังสถานีรถไฟกะเปียด อ.ฉวาง ท่ามกลางบรรยากาศที่สวยงาม มีโบสถ์หลังใหญ่สวยงาม มีศาลาการเปรียญไม้อายุกว่า 100 ปี มีวิหาร “หลวงปู่กล่อม” อันเป็นวิหารที่เก็บสังขารไม่เน่าเปื่อยของพระธรรมวราลังการ (หลวงปู่กล่อม) อดีตเจ้าคณะภาค 16, 17, 18 ธรรมยุติ อดีตเจ้าอาวาสวัดบุปผารามวรวิหาร ตามประวัติจากการบอกเล่า ทราบว่า หลวงปู่กล่อมเป็นคน ต.กะเปียด อ.ฉวาง ท่านบวชและจำพรรษาอยู่ที่ กทม. ท่านได้สร้างวัดแห่งนี้ขึ้นมาในพื้นที่ โดยยึดแบบอย่างวัดใน กทม. ทำให้ภายในวัดมีการวางแปลนการก่อสร้างอย่างสมบูรณ์ จนกระทั่งท่านมรณภาพ บอกญาติให้นำสังขารของท่านไปเก็บไว้ที่วัดเพ็ญญาติ และห้ามไม่ให้เผา ปรากฏว่า สังขารของท่านไม่เน่าเปื่อย ยังคงเก็บไว้ในวิหารจนถึงทุกวันนี้

ภายในวัดมีอุโบสถที่ค่อนข้างใหญ่สวยงาม (ถ่ายแบบไปจากพระอุโบสถวัดบุปผาราม ยกเว้นใต้อุโบสถวัดเพ็ญญาติสร้างเป็นถังเก็บน้ำฝนเต็มพื้นที่ของอุโบสถ) ศาลาการเปรียญกว้างใหญ่ 2 ชั้น กุฏิที่พระสงฆ์ 40 รูป อยู่จำพรรษาได้ โรงครัว การประปาเฉพาะภายในวัด และโรงเรียนประชาบาล ท่านก็สร้างขึ้นมาเอง
ผู้สื่อข่าวรายงาน ความคืบหน้าการรักษาการเจ้าอาวาสวัดเพ็ญญาติ ทางเจ้าคณะภาค จะต้องมีการประชุมหารือก่อนที่จะประกาศแต่งตั้งรักษาการเจ้าอาวาสเป็นการชั่วคราว โดยคาดว่าน่าจะเป็นวันจันทร์นี้

นอกจากนี้ทางพระครูสิริธรรมาภิรัตน์ เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช ธรรมยุติ ได้ออกคำสั่งให้พระครูอรรคธรรมโกวิท เจ้าคณะอำเภอฉวาง ธรรมยุติ ได้เข้าตรวจสอบทรัพย์สินภายในวัดอย่างละเอียด โดยติดตามการเบิกจ่ายบัญชีวัด รวมทั้งทรัพย์สินภายในวัดเพื่อความถูกต้อง และชัดเจน รวมทั้งพิจารณาว่ามีทรัพย์สินใดที่ถูกนำออกไป และเข้าข่ายเป็นทรัพย์สินวัดหรือไม่

Advertisement

ส่วนความคืบหน้าการติดตามคดีพระคนกลางที่ถือเงินอดีตพระกาโตะ จำนวน 3 แสนบาทนั้น ทราบว่าได้หายไปจากวัดอย่างไร้ร่องรอย ไม่สามารถติดต่อได้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานไปยังพระผู้ใหญ่ช่วยประสานให้พระคนกลางออกมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

มีรายงานข่าวว่า พระคนกลาง ต้องคดีหมายจับ ตั้งแต่ปี 2560 คดีเช็คเด้ง ซึ่งยังไม่ได้มีการดำเนินคดี โดยหมายฉบับนี้ออกมาตั้งแต่ปี 2560 และจะสิ้นอายุความในเดือนกันยายน 2565 ทำให้สร้างแรงกระเพื่อมอย่างรุนแรงขึ้นอีกครั้ง รวมทั้งการติดตามความเคลื่อนไหวของพระย้อยว่าจะเกี่ยวข้องกับคดีเงิน 3 แสนจ่ายสื่อเพื่อปิดข่าวด้วยหรือไม่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image