อ้วน แสงโรจน์ เครียดนอนเรือนจำ ตร.ตามจับแม่เล้าได้อีก 1 บิ๊กโจ๊กเตรียมลง พท.อีกรอบพรุ่งนี้
ความคืบหน้าการจับกุมผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ของศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย. 2564 ถึงปัจจุบัน ศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหา 30 คน รวม 42 หมาย และจับกุมได้ 29 คน ยังเหลือผู้ซื้อบริการ 1 ราย โดยมีผู้ต้องหาบางส่วนได้รับการประกันตัวไปต่อสู้คดี และล่าสุดนายแสงโรจน์ หรืออ้วน กาญจนะ อายุ 48 ปี บุตรชายอดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี และนาย ภ (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี อาชีพแพทย์ ศาลได้สั่งเพิกถอนประกันและส่งเข้าฝากขังเรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 9 พ.ค.65 แล้วนั้น
เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 11 พ.ค. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) จะเดินทางลงพื้นที่มาประชุมติดตามความคืบหน้าการขยายผลในคดีกับผู้เกี่ยวข้องที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ภายหลังจากการมาประชุมเมื่อวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา และเปิดเผยมีข้าราชการระดับสูงเป็นรองอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กับเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวสุราษฎร์ธานี รวม 2 ราย มีการกระทำที่ขัดขวางการสอบสวนในคดี โดยจะให้ดำเนินการเอาผิดมาตรา 157 และเสนอสำนวนต่อ ป.ป.ช.
วันเดียวกัน พ.ต.อ.กิตติพงศ์ ทองทิพย์ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี หัวหน้าชุด ศพดส.ภาค 8 และ หน.ชุดปฏิบัติการปราบปรามการล่วงละเมิดต่อเด็กทางอินเตอร์เน็ต ภาค 8 ได้เรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวน และชุดสืบสวนขยายผล ในคดีค้ามนุษย์ (ซื้อบริการทางเพศเด็ก) เพื่อเตรียมสรุปสำนวนรายงานความคืบหน้าให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร.ที่จะมาตรวจสอบความคืบหน้าคดีและตรวจสอบสำนวน ก่อนส่งให้พนักงานอัยการคดีค้ามนุษย์ สำนักงานอัยการสูงสุด พิจารณาสั่งคดี โดยได้นำผลพยานหลักฐานทางเทคโนโลยีมาวิเคราะห์ประกอบสรุปผลและสอบสวนปากคำพยานแวดล้อมเพิ่มเติม
มีรายงานว่า พ.ต.อ.วัฒนา เบ้าศรี ผกก.สส.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเร่งออกติดตามตัวแม่เล้าได้อีก 1 ราย รวมจับได้ทั้งหมด 29 คน ยังเหลือผู้ซื้อบริการยังหลบหนีการจับกุมอีก 1 ราย ส่วนนายแสงโรจน์ หรืออ้วน กาญจนะ 1 ในผู้ต้องหาซื้อบริการทางเพศเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี ที่ถูกศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพิกถอนคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราว พร้อมนาย ภ ผู้ต้องหาอีก 1 ราย ที่มีอาชีพแพทย์ หลังพบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย เข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน จึงให้นำตัวเข้าฝากขังที่เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี
แหล่งข่าวจากเรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี ระบุว่า นายแสงโรจน์มีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่นาย ภ มีสีหน้าเรียบเฉย ซึ่งเจ้าหน้าที่เรือนจำได้จัดให้ทั้งคู่เข้าพักในส่วนของผู้ต้องขังเข้าใหม่และจัดให้ผู้ช่วยผู้คุมเข้าดูแลอย่างใกล้ชิดและเหตุการณ์ทั่วไปยังปกติ
ด้านนายโชคดี ศรัทธากาล ศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาเคยรับทราบกระแสข่าวเกี่ยวกับการใช้บริการทางเพศจากกลุ่มนักเรียนนักศึกษาในพื้นที่อยู่บ้าง เนื่องจากต้องยอมรับ จ.สุราษฎร์ธานี เป็นศูนย์กลางทางการศึกษา มีสถานศึกษาในทุกระดับชั้น โดยเฉพาะเยาวชนในอายุระหว่าง 13-18 ปี ตามข้อมูลของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด มีมากกว่า 90,000 คน และยังไม่เคยปรากฏข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งหลังจากเกิดเหตุนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มีคำสั่งเพื่อบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมกันหาทางแก้ไขปัญหาเป็นการเร่งด่วนแล้ว
นายโชคดีกล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการขณะนี้เรากำลังดำเนินการโครงการพาน้องกลับมาเรียน หลังจากเกิดภาวะวิกฤตด้านโรคระบาดโควิด-19 และทำให้เด็กและเยาวชนบางส่วนของสุราษฎร์ธานีประมาณ 1,200 คน ออกจากระบบการศึกษา และพบว่าปัญหาการค้าประเวณีเด็กบางส่วนมาจากเด็กในส่วนนี้ ซึ่งได้กำชับไปยังหัวหน้าสถานศึกษาทุกแห่ง ทุกระดับในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ทั้งภาครัฐและเอกชน เร่งสำรวจนักเรียน และนำเด็กให้เข้าสู่ระบบการศึกษาให้ได้ทั้งหมด
“อย่างไรก็ตาม ในส่วนการป้องกันในอนาคต จะใช้กลไกของเจ้าหน้าที่ส่งเสริมความประพฤตินักเรียนนักศึกษา ซึ่งมีอยู่จำนวน 700 คน ในการเพิ่มความเข้มในการสอดส่องดูแลความประพฤตินักเรียนจากปกติที่จะเน้นเฉพาะช่วงเทศกาลให้มาเป็นการตรวจสอบตามสถานบันเทิง แหล่งมั่วสุมของเด็กและเยาวชน หอพัก และห้องแถว นอกจากนั้นจะได้ประสานขอข้อมูลเยาวชนกลุ่มเสี่ยงที่เข้าข่ายมีพฤติการณ์ค้าประเวณี มาเพื่อติดตามตรวจสอบหรือพบปะพูดคุยกับผู้ปกครองเพื่อร่วมกันแก้ปัญหา” นายโชคดีกล่าว
