ครูวิทยาลัยการอาชีพแห่งหนึ่ง วัย 51 ปี รมควันหวังฆ่าตัวตายในรถกลางป่าอ้อย อ.แคนดง บุรีรัมย์ ผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านเห็นเข้าไปทุบกระจกรถเข้าไปช่วยทัน หายใจรวยริน อาการสาหัส ตำรวจระบุป่วยซึมเศร้า ญาติไม่ให้ข้อมูล
เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ต.ท.ประยูร ฤทธิ์ตา สารวัตร (สอบสวน) สภ.แคนดง อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านโคกสว่าง ต.หัวฝาย อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ ว่ามีคนรมควันตัวเองหวังฆ่าตัวตายอยู่ภายในรถ จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมประสานหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมจุด อ.แคนดง
ที่เกิดเหตุเป็นบริเวณป่าอ้อย หมู่ 5 บ้านโคกสว่าง พบรถยี่ห้อมิตซูบิชิ ปาเจโร สีดำ ทะเบียน 1 กส 9256 กรุงเทพมหานคร จอดหันหัวเข้าป่าอ้อย ชาวบ้านกำลังปั๊มหัวใจ นายอนุชา (สงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี ชาว ต.หัวฝาย อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ เป็นอาจารย์สอนอยู่ที่วิทยาลัยการอาชีพแห่งหนึ่งใน อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เบื้องต้นพบว่ายังมีชีพจร หน่วยกู้ภัยเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลสตึก อาการสาหัส
สอบถามนายองอาจ จงพิรมย์พงศ์ ผู้ใหญ่บ้านโคกสว่าง เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 10 พฤษภาคม มีลูกบ้านแจ้งว่าพบคนจอดรถอยู่ข้างป่าอ้อย กำลังจุดไฟอยู่ท้ายรถ คิดว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องดี จึงพาชาวบ้านออกไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบว่ารถติดเครื่องไว้ แต่ล็อกประตู เห็นคนเอนเบาะรถนอนอยู่ที่เบาะคนขับ พยายามปลุกแล้วแต่ไม่ตื่น ตนกับตำรวจสายตรวจตำบลจึงตัดสินใจเอาก้อนหินทุบกระจกเข้าไป
ผู้ใหญ่บ้านโคกสว่างบอกว่า นายอนุชาหายใจรวยริน ตัวซีด จึงรีบนำตัวออกมาช่วยกันปั๊มหัวใจเพื่อช่วยชีวิต กระทั่งมีหน่วยกู้ภัยมาช่วยเหลือ จากการตรวจสอบท้ายรถมีการก่อไฟอยู่บนแผ่นกระเบื้องปูพื้นขนาด 60 X 60 ซม.วางไว้ บนเสื่อที่ปูอยู่ ไฟที่ก่อไว้เริ่มมอดลง คาดว่าน่าจะรมควันอยู่ในรถแล้วประมาณ 30-40 นาที
ผู้ใหญ่บ้านเล่าด้วยว่า ลูกบ้านบอกว่ารถปาเจโรคันดังกล่าวมาจอดบริเวณป่าอ้อยตั้งแต่เวลาประมาณ 13.00 น.วานนี้ แต่ไม่ได้สนใจ กระทั่งตอนค่ำมาพบว่ามีการก่อไฟภายในรถ จึงรีบมาแจ้งตน
สำหรับมูลเหตุยังไม่มีใครทราบ เนื่องจากญาติไม่ให้ข้อมูล แต่จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่านายอนุชาป่วยโรคซึมเศร้า ซึ่งจะต้องทำการสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง
