‘แม่เหียะ’ พร้อมปรับโควิดโรคประจำถิ่น 1 ก.ค. ห่วงเรื่องนี้กระทบศูนย์ CI โดนปิด วอน ศบค.ผ่อนผัน

ธนวัฒน์ ยอดใจ นายกเทศมนตรีเมืองแม่เหียะ

‘แม่เหียะ’ พร้อมปรับโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น 1 ก.ค.นี้ ‘ธนวัฒน์’ ห่วงปิดศูนย์ CI กระทบผู้ป่วย-กลุ่มเสี่ยง 608 วอน ศบค.ผ่อนผันเปิดบริการต่อได้ เล็งจัดประเพณีเลี้ยงดง-ปู่แสะย่าแสะ ส่งเสริมท่องเที่ยวรับเปิดประเทศ หลังงดจัดงานมา 3 ปีแล้ว

เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม นายธนวัฒน์ ยอดใจ นายกเทศมนตรีเมืองแม่เหียะ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยกรณีศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เตรียมประกาศให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่น ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ว่าพร้อมสนองนโยบาย โดยปรับแผนและโครงการให้สอดคล้องกับแนวทางของ ศบค. เนื่องจากเชียงใหม่ถูกประกาศเป็นพื้นที่สีฟ้า หรือเป็น 1 ใน 10 จังหวัดเมืองท่องเที่ยวของประเทศแล้ว ทั้งนี้ ได้บูรณาการร่วมกับฝ่ายปกครอง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล (รพ.สต.) อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) 10 หมู่บ้าน เฝ้าระวังและคัดกรองผู้ติดเชื้อ และกลุ่มเสี่ยง 608 โดยใช้สิทธิรักษาของประกันสังคม บัตรทอง 30 บาท ประกันสุขภาพแรงงานข้ามชาติ หรือรักษาตัวที่บ้านตามระบบ HI ที่มีผู้นำชุมชนและ อสม.เข้าไปดูแลช่วยเหลือ

นายธนวัฒน์กล่าวว่า ปัจจุบันมีศูนย์แยกกักตัวในชุมชน หรือ CI สำหรับผู้ติดเชื้อและกลุ่มเสี่ยงสูงที่เทศบาลมีรองรับ 35 เตียง มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก หลังประกาศเป็นโรคประจำถิ่นแล้วต้องยุบ หรือปิดศูนย์ดังกล่าว ไม่สามารถให้บริการได้อีก อาจส่งผลกระทบต่อกลุ่มติดเชื้อและกลุ่มเสี่ยงดังกล่าวที่ไม่สามารถใช้บริการในระบบรักษาได้ เนื่องจากมีความจำเป็นบางประการ ดังนั้น อยากให้ ศบค.ผ่อนผันให้เปิดศูนย์ดังกล่าวได้เพื่อดูแลประชาชนอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม พร้อมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวด้วย

นายธนวัฒน์กล่าวต่อว่า ส่วนนโยบายเปิดประเทศ พร้อมกับประกาศโควิดเป็นโรคประจำถิ่นนั้นมีแผนและแนวทางใช้เศรษฐกิจนำโควิด เพื่อขับเคลื่อนพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยส่งเสริมท่องเที่ยวชุมชน โดยเฉพาะอุทยานหลวงราชพฤกษ์ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี วัดพระธาตุดอยคำ และวัดสำคัญในชุมชน เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และกิจกรรมท่องเที่ยวอื่นที่มีการชุมนุม หรือรวมคนไม่เกิน 1,500 คน เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในชุมชนมากขึ้น

“ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาได้ร่วมกับเครือข่ายสาธารณสุขรณรงค์ให้ประชาชนฉีดวัคซีนป้องกันโควิด และสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ เข็มที่ 3 ไปกว่า 80% จากประชากรกว่า 10,000 คน ไม่รวมประชากรแฝง เพื่อลดอัตราป่วยและเสียชีวิต พร้อมสร้างพื้นที่ปลอดภัยและความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยว ทั้งนี้ มีแผนจัดงานประเพณีเลี้ยงดง
และปู่แสะย่าแสะ เพื่อฟื้นฟูวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ พร้อมรับรองการเปิดประเทศตามนโยบายรัฐบาล หลังไม่ได้จัดงานดังกล่าวมา 3 ปีแล้ว” นายธนวัฒน์ระบุ

Advertisement
SONY DSC
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image