ไร้ร่องรอยสาวรับเงินโอนผิดบัญชีเกือบ 3 แสน สามีบอกติดต่อไม่ได้ ปิดบ้านไม่ต้อนรับแขก

น.ส.วิราวรรณ ผู้โอนเงินผิดบัญชี และ น.ส.เสาวณีย์ ผู้ได้รับเงินเกือบ 3 แสนบาท ปัจจุบันยังติดต่อไม่ได้

ไร้ร่องรอยสาวรับเงินโอนเกือบ 3 แสน สามีอยู่บ้านไม่รับแขก ใครมาปิดบ้านหนี

เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี น.ส.วิราวรรณ ชวดพงษ์ อายุ 40 ปี ชาว ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ร้องเรียนผู้สื่อข่าวว่าได้โอนเงิน จำนวน 293,439 บาท ผิดบัญชี โดยปกติต้องโอนให้ นายกฤษณะ บำเรอสงฆ์ คู่ค้า แต่กลับโอนผิดไปที่บัญชี น.ส.เสาวณีย์ (สงวนนามสกุล) อีกทั้งขั้นตอนการอายัดเงินธนาคารช้าเกินกว่าที่ น.ส.เสาวณีย์นำเงินไปใช้แล้ว อย่างไรก็ดี น.ส.เสาวณีย์บอกว่านำเงินไปใช้ส่วนตัวแล้ว ก่อนจะได้เงินกลับคืนมา 160,000 และยังคงค้างอีก จำนวน 133,439 บาท

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบบ้าน น.ส.เสาวณีย์ที่ ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ อีกครั้ง พบว่าบ้านยังปิดเงียบเหมือนเดิม มีเพียง นายบุญชู คำพาย อายุ 52 ปี สามีของ น.ส.เสาวณีย์ อยู่ภายในบ้าน เมื่อผู้สื่อข่าวเคาะประตูบ้าน สามีนางเสาวณีย์ได้ออกมาจากบ้าน แต่ไม่ยอมพูดกับผู้สื่อข่าว ตอบสั้นๆ ว่าภรรยาได้หนีไปอยู่ในเมืองแล้ว ไม่สามารถติดต่อได้ จากนั้นล็อกประตูบ้านเดินหนีไปทันที

ด้าน นางสุวรรณา วรรณโฆษิต อายุ 50 ปี แม่ค้าขายของชำในหมู่บ้าน ซึ่งอยู่ติดกับบ้าน น.ส.เสาวณีย์ เล่าว่า ปกติไม่ค่อยเห็นหน้า นานๆ จะมาซื้อของ โดย น.ส.เสาวณีย์ไม่ค่อยมาสุงสิงกับใคร รู้เพียงว่าทำงานอยู่ในห้างชื่อดังแห่งหนึ่งที่มีสาขาทั่ว จ.บุรีรัมย์ ในความรู้สึกส่วนตัว หากมีเงินเข้าบัญชีแบบนี้จะไม่กล้าใช้ และจะโอนคืนกลับไปให้เจ้าของ ถ้าติดต่อมา หรืออาจจะเข้าแจ้งความเอาไว้ เพราะเงินที่มาไม่รู้ว่ามาจากไหน คิดว่าเป็นเรื่องอันตรายหากเป็นเงินผิดกฎหมาย

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ADVERTISMENT
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image