เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หางน้ำสาคร พร้อมด้วยอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู แพทย์เวรโรงพยาบาลมโนรมย์ และตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดชัยนาท เข้าตรวจสอบศพนิรนามที่ถูกทิ้งไว้ในป่าละเมาะข้างทาง ทางเข้าหมู่บ้านหนองตาตน ต.อู่ตะเภา อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท หลังรับแจ้งจากพลเมืองดีที่ไปเลี้ยงวัวแล้วพบโดยบังเอิญ ในที่เกิดเหตุห่างจากถนนเข้าไปประมาณ 50 เมตร พบศพหญิงจำนวน 2 ราย อายุประมาณ 25-30 ปี สูงประมาณ 150 ซม.ทั้ง 2 ราย ไม่พบเอกสารติดตัว แพทย์จึงทำการชันสูตรเบื้องต้นซึ่งทั้ง 2 ศพ ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ หรือบาดแผลถูกทำร้ายแต่อย่างใด คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน โดยมีหลักฐานที่น่าจะเป็นเบาะแสสำคัญสาวไปถึงต้นตอของการตายและผู้รู้เห็นที่อยู่บนตัวผู้ตายคือเมล็ดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จำนวนหนึ่งที่อยู่ตามผมและเสื้อผ้า และบนพื้นดินที่คาดว่าเป็นจุดที่คนร้ายลากศพลงจากรถก็มีเมล็ดข้าวโพดตกอยู่ พร้อมทั้งมีรอยรถยนต์ขนาดใหญ่เข้ามายังจุดที่พบศพ ซึ่งจากร่องรอยและขนาดคาดว่าเป็นยางรถบรรทุก
โดย พ.ต.อ.ชัชพล สมแก้ว ผกก.สภ.หางน้ำสาครเปิดเผยว่า เบื้องต้นจากที่ชันสูตรศพและตรวจพื้นที่เกิดเหตุ และลักษณะรูปพรรณของผู้ตายสันนิษฐานได้ว่าทั้งคู่น่าจะตายมาจากที่อื่น แล้วถูกนำมาทิ้งเพื่ออำพรางการตาย ซึ่งยังไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่าตายเพราะเหตุใด และอาจจะเป็นไปได้ที่ทั้งคู่อาจจะเป็นแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้ามาทำงานในประเทศไทย โดยการแอบซุกซ่อนมาในรถขนข้าวโพดที่ดัดแปลงให้เป็นโพรง แล้วกลบด้วยเมล็ดข้าวโพดเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ แต่โชคร้ายที่ทั้งคู่เกิดขาดอากาศหายใจตายก่อนที่จะถึงจุดหมาย ซึ่งผู้ที่ลักลอบเข้ามาคงไม่มีแค่ผู้ตาย 2 คนนี้เท่านั้น คงมีคนอื่นที่ร่วมซุกมาในรถขนข้าวโพดด้วย ซึ่งประเด็นนี้ก็จะมีการสืบสวนขยายผลกันต่อไป
