เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี ที่ น.ส.อัญชลี ภูษาภักดีนุภาพ ผู้เสียหายอ้างว่าได้เดินทางมาทำสัญญาซื้อขายน้ำมันดีเซลราคาถูกกับ บริษัท พี เอส ออย คอร์เปอเรชั่น จำกัด ที่ระบุว่านำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย และมีการจ่ายเงินมัดจำไปแล้วกว่า 400,000 บาท สุดท้ายถูกหลอก ไม่มีน้ำมันและเสียเงิน ซึ่งพบว่าเป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น ด้านหน้าเป็นประตูเหล็กถูกปิดล็อก มีการติดกล้องวงจรปิดไว้ที่หน้าบ้าน
สอบถามจากเพื่อนบ้านข้างเคียงบอกว่า รู้แต่เป็นบริษัท แต่ไม่ทราบว่าขายอะไร ไม่เคยคุยกัน แต่ช่วง 4-5 วันที่ผ่านมาไม่เห็นเปิดบ้านเลย และช่วง 1-2 วันที่ผ่านมาก็มีคนมาสอบถามหาเจ้าของบ้านหลังนี้หลายคนแล้ว แต่ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไร เพราะคนที่มาสอบถามก็ไม่ได้บอกอะไร
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
พ.ต.อ.ธานินทร์ ฉัตรเจริญพร รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี รักษาราชการแทน ผกก.สภ.เมืองราชบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังตรวจสอบว่าเจ้าของบริษัทเป็นคนเดียวกับที่ผู้เสียหายให้ข้อมูลมาหรือไม่ โดยทำหนังสือสอบถามไปยังกรมพัฒนาธุรกิจการค้าว่ามีการจดทะเบียนในชื่อบุคคลนี้หรือไม่ รวมทั้งจะทำการตรวจสอบประวัติของบุคคลตามรายชื่อที่ผู้เสียหายแจ้งมาด้วยว่าเคยมีประวัติในเรื่องของคดีต่างๆ หรือไม่ เมื่อตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดแล้วจะต้องออกหมายเรียกบุคคลที่เป็นเจ้าของบริษัท มาสอบปากคำด้วย ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบเอกสารทั้งหมด
พ.ต.อ.ธานินทร์กล่าวว่า ส่วนอาคารที่ใช้เป็นสถานตั้งของบริษัท ตามที่ผู้เสียหายกล่าวอ้าง ทางตำรวจได้ไปตรวจสอบแล้ว พบว่าเป็นอาคารให้เช่า โดยมีบุคคลมาเช่าเปิดบริษัท ซึ่งยังไม่หมดสัญญาเช่า
น.ส.อัญชลีกล่าวว่า ได้ไปทำเรื่องขอหนังสือปฏิเสธการจ่ายของธนาคารกรณีนำเช็คเงินสด จำนวน 406,500 บาท ที่บริษัท พีเอส ออยส์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ได้จ่ายไว้เป็นหลักประกัน กรณีไม่สามารถจัดส่งน้ำมันดีเซลราคาถูกตามที่ได้ทำสัญญาไว้ได้ ซึ่งเมื่อนำไปขึ้นเงิน ธนาคารอ้างว่าไม่มีลายเซ็นเจ้าของเช็ค ทำให้จ่ายเงินไม่ได้ โดยให้ทางธนาคารทำหนังสือชี้แจงมาเพื่อจะได้นำหนังสือจากธนาคารไปประกอบสำนวนคดี แต่ขณะนี้ทางธนาคารยังไม่ได้แจ้งมา ส่วนผู้เสียหายรายอื่นๆ ทราบว่ามี 2 ราย อยู่ที่ จ.พิษณุโลก และ จ.นครสวรรค์ กำลังจัดเตรียมเอกสารในการที่จะมาแจ้งความเพิ่มด้วย
