น้าหลานไส้ติ่งแตก เล่าหมอบอก ‘วันหยุด’ ดูเอกสารไม่ได้ ด้าน รพ.เตรียมแถลงบ่ายนี้!
โรงพยาบาลเตรียมแถลง น้อง 12 ปีไส้ติ่งแตกบ่ายนี้ ขณะแม่-น้าสาว ยังคาใจถึงสาเหตุที่ไม่ยอมผ่าตัด ทั้งที่โรงพยาบาลต้นทางระบุชัดเจน ปล่อยให้เด็กทรมานถึง 2 วัน ช้ำใจมีลูกเพียงคนเดียว ขณะย่าเด็กวัย 86 คิดถึงหลานที่หาข้าวให้ย่าก่อนไปโรงเรียนทุกวัน
วันที่ 6 มิ.ย. 65 กรณี นายสมบูรณ์ อายุ 42 ปี และนางน้ำฝน อายุ 35 ปี สองสามีภรรยาชาวบุรีรัมย์ ร้องเรียนผ่านสื่อ ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังจากไม่ได้รับคำชี้แจงจากโรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ ถึงสาเหตุที่ไม่ยอมผ่าตัดไส้ติ่ง ด.ช.กิตติศักดิ์ หรือน้องต้นน้ำ อายุ 12 ปี นักเรียนชั้นม.1 ลูกชายคนเดียว จนทำให้เด็กเสียชีวิต
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ เพื่อต้องการสอบถามข้อเท็จจริงกรณีที่เกิดขึ้น ปรากฏว่า ผอ.โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ ไปประชุมสัมมนาที่ต่างจังหวัด จะกลับมาถึงและเตรียมแถลงถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นบ่ายวันนี้
ขณะที่ครอบครัวของ น้องต้นน้ำ ที่ อ.พุทไธสง ยังทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากฌาปนกิจน้องต้นน้ำ ไปเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยเฉพาะคำตอบจากโรงพยาบาลที่ครอบครัวทวงถามมาโดยตลอด
นางน้ำฝน อายุ 35 ปี แม่น้องต้นน้ำ บอกว่า ตอนนี้ยังติดใจที่หมอไม่ผ่าให้ลูกชาย ทำไมต้องให้ปล่อยให้นอนรอถึง 2 วัน เพราะอะไร ทำไมหมอไม่อธิบาย ทำไมถึงเงียบ ทำไมไม่ติดต่อมาหาผู้ปกครองเลย ทางเราต้องติดต่อไปถามเอง อยากได้คำตอบที่เราเข้าใจมากกว่านี้หน่อย การสูญเสียลูกไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะเรามีเขาแค่คนเดียว
น.ส.ปราณี อายุ 24 ปี น้าสาวน้องต้นน้ำ บอกว่า ตั้งแต่น้องเสียชีวิตเมื่อวันที่ 31 พ.ค.แล้วฌาปนกิจวันที่ 4 มิ.ย.และมาจนถึงวันนี้ มีเพียงหมออ้างว่าเป็นหมอ นายสมบูรณ์ เล่าว่าเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา น้องต้นน้ำมีอาการปวดท้องตลอดเวลา ตนเองจึงพาลูกไปที่โรงพยาบาลพุทไธสง ซึ่งเป็นโรงพยาบาลประจำอำเภอ มีหมออาวุโส แผนกศัลยกรรมโทรมาเพียงคนเดียว
เมื่อตนถามไปถึงเหตุผลที่ไม่ยอมผ่าหลาน หมอในสายบอกว่า “ญาติอย่าเพิ่งใจร้อน” ตอนนี้คุณพ่อของหมอเจ้าของไข้ที่จะผ่าตัด เสียชีวิต ประกอบกับติดวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ไม่สามารถไปดูเอกสารได้
ส่วนตัวยังไม่เชื่อคำอธิบาย เพราะน้องเสียชีวิตตั้งแต่วันจันทร์ ที่ 30 พ.ค.สิ่งที่ติดใจคือทำไมเข็นน้องเข้าไปผ่าแล้ว จึงเข็นออกมาคืน จนถึงขณะนี้ยังไม่มีคำตอบ ส่วนงานศพน้องไม่มีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลคนใดมาร่วมงานแม้แต่คนเดียว
ขณะที่ นางเรณู อายุ 86 ปี ย่าน้องต้นน้ำ บอกว่า ตอนนี้รู้สึกเหงา ไม่เห็นหลานมาพูดคุยด้วย คิดถึงทุกครั้งเวลากินข้าว เพราะก่อนไปโรงเรียนทุกวัน หลานจะหาข้าวมาให้กินทุกครั้ง
สำหรับความคืบหน้าทางโรงพยาบาล ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานมาว่า ในช่วงบ่าย วันนี้ จะมี นายแพทย์รักเกียรติ ประสงค์ดี รอง ผอ.ฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ มาเป็นคนแถลงข้อเท็จจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้น
ไทม์ไลน์น้องต้นน้ำ
ทั้งนี้ ไทม์ไลน์ของน้องต้นน้ำ มีดังนี้ น้องต้นน้ำ ป่วยด้วยอาการปวดท้อง เข้าไปรักษาที่โรงพยาบาลพุทไธสง เมื่อวันที่ 29 พ.ค. เวลา 13.00 น. หมอตรวจพบเป็นไส้ติ่งอักเสบ ส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ ในวันเดียวกัน
หมอบุรีรัมย์แจ้งได้คิวผ่าเวลา 24.00 น.คืนเดียวกัน เมื่อเข็นเข้าห้องผ่าตัด ไปประมาณ 5 นาที น้องถูกเข็นออกมาคืน เวรเปลแจ้งพ่อน้องว่า “หมอมีเคสพิเศษ 2 เคส”
30 พ.ค.เวลาประมาณ 15.00 น.น้องถูกเข็นเข้าห้องผ่าตัดแต่อาการหนักแล้ว 16.00 น.น้องออกจากห้องผ่าตัดแล้วถูกส่งตัวเข้าห้องไอซียู ทันที 01.00 น.คืนเดียวกัน (31 พ.ค.) น้องเสียชีวิต
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
-
แม่คาใจรพ.เข็นลูกออกห้องผ่าตัด บอกหมอผ่าคนไข้พิเศษก่อน สุดท้ายไส้ติ่งแตกเสียชีวิต
-
รพ.แถลงรับผิดรักษาล่าช้า เด็ก ม.1 ไส้ติ่งแตก ยันไม่มีวีไอพีลัดคิว เตรียมขอขมาพ่อแม่เร็วๆ นี้(มีคลิป)
