จบที่ครึ่งทาง! ‘ชาวบ้าน-การไฟฟ้า’ จับมือเคลียร์ ปมขยายถนน 4 เลน ปักเสากลางบ้าน
เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา ส.ส.ราชบุรี เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย นายอัสนี สุภานัย ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงราชบุรี นายพินิจ ร่มโพรีย์ นายก อบต.บ้านบึง อ.บ้านคา จ.ราชบุรี และเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้เข้ารับฟังปัญหาความเดือดร้อนจากชาวบ้านในหมู่ 2 ต.บ้านบึง อ.บ้านคา
เนื่องจากชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณริมถนน ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรม จ.ราชบุรี และนางบุญยิ่ง นิติกาญจนา ส.ส.ราชบุรี ว่าได้รับความเดือดร้อนจากการขยายถนนสาย ราชบุรี – บ้านคา จากสองเลนขยายเป็น 4 เลน และมีการขยายเขตเสาไฟฟ้าจากเดิมลึกเข้าไปจากถนน บางบ้านถูกปักเสาไฟฟ้ากลางบ้าน และต้องรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทำให้ได้รับความเดือดร้อนมาก
ภายหลังได้รับการร้องเรียน นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา ส.ส.ราชบุรี เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ ได้ประสานหน่วยงานเข้ามาพูดคุยและรับเรื่องจากชาวบ้าน โดยมีตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจำนวน 30 ครอบครัว มาร่วมพูดคุยเพื่อหาข้อยุติปัญหาดังกล่าว
นายอัสนี สุภานัย ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงราชบุรี กล่าวว่า หลังรับทราบปัญหา และได้พูดคุยกับตัวแทนชาวบ้านแล้ว ทราบว่าชาวบ้านต้องการให้เขตของเสาไฟฟ้า นั้นอยู่ที่เดิม เพราะการขยับเสาไฟฟ้าเข้าไปด้านใน ทำให้ชาวบ้านนั้นต้องรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง บางบ้านก็ต้องรื้อบ้านทั้งหลัง เพราะปลูกรุกล้ำในเขตทางหลวง ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ผิด แต่ชาวบ้านก็อ้างว่าอยู่มามากกว่า 40 – 50 ปี และไม่มีที่จะอยู่อาศัย
วันนี้จึงต้องมาหาทางออกร่วมกัน โดยชาวบ้านเสนอขอให้มีการลดพื้นที่เกาะกลางถนนตามแบบเดิมที่มีความกว้าง 5 เมตรลง ซึ่งหากลดพื้นที่เกาะกลางถนนลง ก็จะไม่ต้องมีการขยายเสาไฟฟ้าเข้าไปอีก ซึ่งในเรื่องนี้ก็จะต้องนำไปเข้าที่ประชุมคณะกรรมการทางหลวง เนื่องจากจะต้องผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการก่อน ถึงจะมีการแก้ปรับแบบได้ตามความต้องการของชาวบ้าน แต่ชาวบ้านก็จะต้องรับได้กับการจราจรที่อาจจะเกิดปัญหา โดยเฉพาะในช่วงช่องทางการกลับรถที่จะแคบลงและอาจจะเกิดอันตรายขึ้นได้ ซึ่งชาวบ้านนั้นก็จะต้องมีการระวังตัวมากขึ้น พบกันครึ่งทางจะได้แก้ปัญหาร่วมกันได้
ทางด้าน นายพงษ์วิชญ์ คำเกตุ อายุ 47 ปี ตัวแทนชาวบ้านในหมู่ 2 ต.บ้านบึง ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการขยายเขตเสาไฟฟ้า ทำให้ต้องรื้อร้านขายกาแฟไปครึ่งร้าน กล่าวว่า มีชาวบ้านหลายหลังคาเรือนที่ต้องรื้อถอนบ้านของตนเองออกจากพื้นที่ไป ทำให้ได้รับความเดือดร้อนเพราะไม่มีที่อยู่อาศัย บางส่วนก็ไม่มีเงินที่จะรื้อถอนและไปสร้างใหม่ จึงได้รวมกันไปขอความเห็นใจจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และทำให้เกิดการมาพูดคุยกันในวันนี้ ซึ่งทางแขวงทางหลวงราชบุรีก็รับข้อเสนอของชาวบ้านไปแล้ว ส่วนตนเองก็จะนำเรื่องนี้ไปแจ้งให้กับชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนให้ได้รับทราบ และพอใจกับการมาพูดคุยตกลงกันในเบื้องต้นวันนี้
