ความคืบหน้ากรณีจ่าสิบเอกอรรคพงษ์ โพนพันธุ์ ทหารสังกัดกรมทหารม้าที่ 6 ค่ายศรีพัชรินทร จังหวัดขอนแก่น ใช้อาวุธปืนยิงน.ส.นภาพร นาคเกี้ยว อายุ 34 ปี อดีตภรรยา ซึ่งเป็นพยาบาล ประจำที่ รพ.ศูนย์ขอนแก่นเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันจ่อขมับยิงตัวเอง เสียชีวิตเมื่อเวลา 05.00 น. วันเดียวกัน
อ่านข่าว
- ทหารบุกยิงภรรยาที่เป็นพยาบาลใน รพ.ขอนแก่น กลางดึก
- เผยชนวน เหตุสลด ทหารบุกยิงแฟนพยาบาลสาวดับ กลางรพ. ก่อนยิงตัวตายตาม
ล่าสุด พ่อของพยาบาลสาวเข้าให้ปากคำกับตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมเผยมูลเหตุการณ์ฆาตกรรมในครั้งนี้ หลังทั้งคู่หย่ากันก็มีปากเสียงกันมาตลอด ลูกสาวถูกข่มขู่คุกคามจนสุดท้ายช่วยลูกไม่ได้ต้องเสียลูกไปในครั้งนี้ โดยนายประสุทธิ์ แซ่ดาวส่วน อายุ 65 ปี บิดาของ น.ส.นภาพร พยาบาลที่ถูก จ่าสิบเอก อรรคพงษ์ ยิงเสียชีวิต เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.บุญมาก เครือแวงมน สว.(สอบสวน) สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อให้การในกรณีที่ลูกสาวถูกอดีตลูกเขยยิงตาย และขอรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี
หลังให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว นายประสุทธิ์ เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันเป็นเรื่องสะสมระหว่างลูกสาวกับอดีตลูกเขยมานานแล้ว เพราะลูกเขยเป็นคนไม่ใส่ใจดูแลครอบครัว วันหยุดของภรรยาก็ไม่เคยพาไปพักผ่อน ทำให้ลูกสาวและหลานไม่มีความสุข อีกทั้งลูกเขย เคยนอกใจไปติดพันหญิงอื่น และลูกสาวจับได้ ทำให้ระหองระแหง มีปากเสียงกันเรื่อยมา
ช่วงปลายปี 2564 หน่วยงานได้ส่งลูกสาวไปอบรมเฉพาะทางที่จังหวัดพะเยา จำนวน 4 เดือน และไปเรียนที่จังหวัดเชียงใหม่อีก 2 เดือน ทำให้ลูกสาวมีเพื่อนใหม่ซึ่งเป็นเพื่อนสาว ที่มีความสนิทสนมกัน ติดต่อกันเรื่อยมา เมื่อสามีรู้เรื่องก็เกิดความหึงหวง หาว่าภรรยานอกใจจะคบกับผู้หญิงด้วยกัน ซึ่งภรรยาก็บอกให้ทราบว่า คุยกับเพื่อนผู้หญิงเท่านั้น แต่สามีไม่เชื่อ บังคับให้ภรรยาไปจดทะเบียนหย่า ลูกสาวก็หย่าให้ แต่หลังจากหย่ากันแล้ว ลูกเขยก็ยังมาที่บ้านมาขอคืนดี ทำให้ลูกสาวของตนเองยอมคืนดี แต่สุดท้ายลูกเขยก็ทำใจไม่ได้ยังตามคุกคามหาเรื่อง และได้ใช้ปืนยิงข่มขู่ จนต้องแจ้งตำรวจให้จับกุมตัวพร้อมอาวุธปืน ส่งศาลทหาร ซึ่งครอบครัวยอมไกล่เกลี่ยในเรื่องของบุกรุก แต่เรื่องยิงปืนและเรื่องอาวุธปืนนั้น ให้เป็นเรื่องของศาล รวมถึงได้ทำเรื่องขอความคุ้มครองกรณีความรุนแรงในครอบครัวด้วย แต่จนขณะนี้ก็ไม่ได้รับสิทธิคุ้มครองแต่อย่างใด ส่วนตัวตนเองกับลูกเขยหลังจากที่ทั้งคู่หย่ากันไปแล้ว ลูกเขยก็เคยหาเรื่องตนเองหลายครั้งไม่เคารพใช้ถ้อยคำด่าหยาบคาย ข่มขู่คุกคามทั้งตนเองและลูกสาวมาตลอด
นายประสุทธิ์ กล่าวอีกว่า ในวันเกิดเหตุนั้น ช่วงกลางวัน ลูกสาวโทรศัพท์บอกว่าไม่ต้องไปรับหลานที่โรงเรียน เพราะจะรับลูกมาเล่นกับเพื่อนที่โรงพยาบาล กระทั่งช่วงเที่ยงคืนหลานสาวโทรศัพท์มาแจ้งว่า ตาพ่อมาหาแม่ แล้วกอดคอแม่ ยิงแม่ ตาช่วยมาดูด้วย จึงรีบขับรถจักรยานยนต์ไปที่รพ.ศูนย์ขอนแก่น เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุก็พบเจ้าหน้าที่ เข็นร่างลูกสาวออกจากจุดเกิดเหตุ ห่างกันไม่นานก็เข็นร่างลูกเขยตามออกไป ส่วนหลานสาวกับหลานชาย นั่งกอดกันร้องไห้ ด้วยความตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนศพลูกสาวนั้น รับออกจากโรงพยาบาลไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดศรีจันทร์ ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น และจะมีพิธีฌาปนกิจในวันที่ 12 มิถุนายน โดยขณะนี้หลานสองคน ยังไม่รู้ว่าแม่เสียชีวิต ตาย ตอนนี้อยากจะฝากไปยังหน่วยงานราชการต่างๆว่า ควรจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลช่วยเหลือครอบครัวของบุคลากร ที่มีปัญหาในครอบครัว ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายขึ้น โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ ผู้ที่ต้องดูแลรักษาคนเจ็บป่วย เมื่อสูญเสียแล้ว ครอบครัวก็เสียใจ องค์กรก็ต้องสูญเสียบุคลากรที่มีฝีมือไปด้วย จึงอยากให้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมา