เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. พ.ต.ท.รณวิทย์ ชูช่วย สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสงขลา รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายวิ่งราวทรัพย์ร้านทอง เหตุเกิดที่ร้านทองทวีทรัพย์ สาขาห้าแยกเกาะยอ ตั้งอยู่ริมถนนกาญจนวนิช หมู่ 2 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา ฝั่งเข้าเมืองสงขลา รุดตรวจสอบจุดเกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ภูวรา แก้วพารัตน์ ผกก.สภเมืองสงขลา และกำลังของตำรวจกองปราบนำโดย พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ท.วริศร มัจฉา รอง ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ท.ทศพล กิติลาภ สว.กก.6 บก.ป. และเป็นชุดที่เพิ่งสำเร็จการฝึกอบรมหลักสูตรสืบสวนฯ 5G ของผบ.ตร.ด้วย
จากการสอบสวนและตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าคนร้ายลงมือเพียงคนเดียวเป็นชายวัยกลางคนอายุประมาณ 40 ปีสวมเสื้อแจ๊กเก็ตสีแดงเสื้อยืดสีขาวกางเกงยีนส์สีดำ สวมแมสก์ทำทีเข้ามาขอซื้อทองภายในร้านทองทวีทรัพย์ โดยทำทีขอดูสร้อยคอทองคำเส้นละ 5 บาท และ 4 บาท จากพนักงานขายของร้านซึ่งเป็นผู้หญิงสองคน แต่พนักงานซึ่งผิดสังเกตอยู่แล้วได้ขอให้ถอดแมสก์ก่อนและหยิบสร้อยคอทองคำเส้นทาง 1 บาทไปให้ดูแทน และชายพยายามดึงสร้อยคอทองคำจากมือพนักงานขายไปกำและขยำเอาไว้
ก่อนที่จะขอดูอีกเส้นและขอสร้อยที่กำในมือคืน ซึ่งชายส่งให้คืนและดึงสร้อยอีกเส้นไปและชูขึ้นดูพร้อมกับยกมือไหว้พนักงานและพูดว่าขอนะแล้วเดินออกขึ้นรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีน้ำเงินคาดขาว ไม่ทราบป้ายทะเบียน หนีไปตามเส้นทางเกาะยอพร้อมสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 1 เส้น ทั้งนี้ขณะก่อเหตุคนร้ายไม่ได้พกพาอาวุธหรือมีท่าทีที่จะทำร้ายพนักงานร้านทองแต่อย่างใด
ต่อมาเมื่อเวลา 14.10 น. ตำรวจกองปราบกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม ร่วมกับตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองสงขลา ได้ลงพื้นที่แกะรอยติดตามจับกุมคนร้าย ตามเส้นทางที่หลบหนีเข้าไปในพื้นที่ ต.เกาะยอ อ.เมืองสงขลา สอบถามรูปพรรณสัณฐานจากชาวบ้านในพื้นที่ต.เกาะยอ จนกระทั่งรู้ตัวคนร้ายรายนี้และตามไปจับกุมได้ที่บ้านพักในพื้นที่ ต.เกาะยอ ทราบชื่อ นายจีรศักดิ์ พันธ์สิน อายุ 29 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช พร้อมสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ที่ยังสวมอยู่ที่คอ และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีน้ำเงินคาดขาว ทะเบียน กตค 382 พังงา
ลักษณะการพูดของชายคนนี้ไม่เหมือนกับคนปกติ โดยบอกว่า ที่ก่อเหตุชิงทองทำไปเพื่อประเทศไทยให้โควิดหายไป เนื่องจากได้ไปขอจากหลวงปู่ทวดเรื่องโควิด และทำงานตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ส่วนที่ไปชิงทรัพย์ร้านทองก็บอกว่าจะเข้าไปขอแลกทองและยกมือไหว้ขอเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าแกล้งหรือสติฟั่นเฟือนจริงหรือไม่
ก่อนที่จะควบคุมตัวไปสอบสวนดำเนินคดีที่สภ.เมืองสงขลาและพาลงพื้นที่ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่เกิดเหตุซึ่งผ่านพ้นไปด้วยดีและนำไปดำเนินคดีที่สภ.เมืองสงขลาข้อหาชิงทรัพย์ต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.ภูวรา แก้วพารัตน์ ผกก.สภ.เมืองสงขลา เปิดเผยว่าตำรวจ สภ.เมืองสงขลาและตำรวจกองปราบติดตามจับกุมได้อย่างรวดเร็วเพราะพนักงานขายมีไหวพริบดีให้ถอดแมสก์และเลือกที่จะหยิบทองเส้นละ 1 บาทให้ดูจากที่คนร้ายขอดูทองเส้นละ 5 บาทกับ 4 บาท และหลังเกิดเหตุคนร้ายได้ขับรถจักรยานยนต์หนีไปทางเกาะยอจึงได้ลงพื้นที่ไปหาเบาะแสจนรู้ตัวและจับกุมได้ ส่วนแรงจูงใจนั้นไม่มีอะไรซับซ้อนมาจากความคึกคะนอง
ด้านเจ้าของร้านก็ขอขอบคุณตำรวจที่สามารถติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้ได้อย่างรวดเร็วไม่ทันข้ามวัน
