เขาใหญ่ ชี้แจง ปมปปช.ชี้มูล สุนทร-กนกวรรณ อัยการปราจีนฯสั่งไม่ฟ้อง ขณะนี้อยู่ขั้นอัยการสูงสุด

เขาใหญ่ ชี้แจง กรณี ข่าว ปปช.ชี้มูล สุนทร-กนกวรรณ คดีรุกป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ขณะนี้ยังไม่ทราบผลคดีชี้ขาดชั้นอัยการสูงสุด ส่วนกระบวนการที่อุทยานฯจบขั้นตอนแล้ว แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง กรณี มีการออกเอกสารสิทธิโฉนดที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติ

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 10 มิถุนายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี กรณีการออกโฉนดที่ดิน เลขที่ 41158, 41159 และ 41160 ตำบลเนินหอม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งตั้งอยู่ ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และเขตป่าไม้ถาวร โดยมิชอบ มีผู้เกี่ยวข้องกับคดี รวม 10 ราย ปัจจุบันอัยการสูงสุด (อสส.) ได้มีคำสั่งดำเนินคดีอาญาฟ้องผู้ถูกกล่าวหาที่ 1-5 และที่ 10 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 83 และมีคำสั่งดำเนินคดีอาญาฟ้องผู้ถูกกล่าวหาที่ 6-9 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2565 และให้แจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 10 ราย ไปรายงานตัวต่อพนักงานอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 2 ในวันที่ 9 มิถุนายน 2565 เวลา 09.30 น. เพื่อยื่นฟ้องคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ต่อไป ความคืบหน้าล่าสุด ศาลฯได้อนุมัติออกหมายจับผู้ถูกกล่าวหาแล้ว 4 ราย คือ นางสุรางค์ คัณฑารมย์ นายสมศักดิ์ หีบเงิน นายสุนทร วิลาวัลย์ และนายคณิต เพชรประดับ ส่วนนางสาวน้อย ตุ้มพันธ์ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ ไม่ถูกหมายจับ เหตุ เชื่อไม่มีพฤติการณ์หลบหนี โดยนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 7 ขณะออกโฉนดที่ดินมิได้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายสุนทร วิลาวัลย์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 8 ขณะออกโฉนดที่ดินดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี นั้น

นายชัยยา ห้วยหงษ์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กล่าวว่า ทางอุทยานฯกำลังระหว่างทำการ สรุปข้อมูลคดีนางกนกวรรณ ศรีจันทร์งาม ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนนามสกุลเป็น “วิลาวัลย์” รมช.ศธ. และนายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี แจ้งให้สื่อมวลชนในรายละเอียดผ่านในไลน์ ดังนี้

… เกี่ยวข้อง ด้วยวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๖๓ คณะเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ท้องที่หมู่ที่ ๑๔ ตำบลเนินหอม อำเภอ เมือง จังหวัดปราจีนบุรี ตามที่ได้รับแจ้งว่ามีการนำเครื่องจักรเข้าปรับสภาพพื้นที่

โดยพบบุคคลจำนวน ๓ ราย ซึ่งให้การว่า ได้เข้ามารับจ้างนายสุนทร วิลาวัลย์ ในการปรับสภาพพื้นที่ และมีตัวแทนเจ้าของที่ดิน ได้นำ เอกสารสำเนาโฉนดที่ดินทั้ง ๓ แปลง มาแสดง โดยเจ้าหน้าที่มีความเห็นว่า พื้นที่ดังกล่าวทับซ้อนกับพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

Advertisement

จึงนำส่งสำเนาโฉนดที่ดินทั้ง ๓ แปลง ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าทำการตรวจสอบ ต่อมา วันที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๖๓ คณะเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ พบว่า มีการปรับพื้นที่ใกล้ต้นไม้เข้ามา ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เนื้อที่ ๑๑-๓-๙๖ ไร่ และเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้วมีความเห็นว่า เป็นการกระทำ ผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช ๒๔๘๔ และพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๒

จึงได้ทำ การตรวจยึดพื้นที่และกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองปราจีนบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย ตาม ปจว.ข้อ ๑๕ ลงวันที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๖๓ เวลา ๒๓.๑๕ น. คดีอาญาที่ ๕๑/๒๕๖๓ สำหรับความคืบหน้า คดี อัยการจังหวัดปราจีนบุรีมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง แต่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๒ ไม่เห็นพ้องด้วยกับความเห็นไม่สั่งฟ้องของพนักงานอัยการ จึงได้ส่งความเห็นแย้งไปยังอัยการสูงสุด เพื่อพิจารณามีคำสั่งชี้ขาดแล้ว ขณะนี้ยังไม่ทราบผลคดีชี้ขาด

กรณีดังกล่าวกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีคำสั่งที่ ๔๐๕/๒๕๖๓ ลงวันที่ ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๓ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการออกเอกสารสิทธิโฉนดที่ดิน ทับพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเอกสารสิทธิโฉนดที่ดิน และคำสั่งที่ ๕๐๖/๒๕๖๓ ลงวันที่ ๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๓ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง กรณี มีการออกเอกสารสิทธิโฉนดที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติ สาเหตุมาจากการขีดเขตและรับรองแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ในระวางเดินสำรวจของกรมที่ดิน ผิดไปจากแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

Advertisement

และต่อมาสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ได้มีหนังสือด่วน ที่ ปช ๐๐๒๕/๐๖๖๗ ลงวันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๖๕ เรื่อง ขอความร่วมมือในการปฏิบัติราชการ โดยขอความร่วมมือในการอำนวยความสะดวกแก่คณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีการออกโฉนดที่ดินเลขที่ ๔๑๑๕๘, ๔๑๑๕๙, ๔๑๑๖๐, ๔๑๕๗๖, ๔๑๕๗๗, ๔๑๕๗๘ และ ๔๑๕๗๙ ตำบลเนินหอม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี โดยมิชอบด้วยกฎหมายและระเบียบของทางราชการ

ซึ่งเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้นำเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม พื้นที่ดังกล่าวนี้ แยกจากถนนสาย 3077 หรือ ปราจีนบุรี-เขาใหญ่ ต.เนินหอม อ.เมืองปราจีนบุรี แยกเข้าไป 5 กม.เศษ เข้าไปตามเส้นทางสู่อ่างเก็บน้ำเขาไม้ปล้องในพระราชดำริ พื้นที่ ค่อนข้างเปลี่ยว ด้านทิศเหนือติดกับอ่างเก็บน้ำเขาไม้ปล้องและเทือกเขาสมอปูนของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีทิวทัศน์สวยงาม ในฝั่งตรงข้ามกับกับพื้นที่พิพาทมีโรงแรมแห่งหนึ่งกำลังมีการก่อสร้างอาคาร และพร้อมเจดีย์ย่อมุมสวยงามตระการตา พบพื้นที่กรณีพิพาท มีการนำหลักปูนซีเมนต์ทาทับด้วยสีแดงปรากฏเด่นชัด

สำหรับ นายสุนทร วิลาวัลย์ อายุ 83 ปี เป็นนักการเมืองชาวไทยในฝ่ายบริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ปัจจุบัน ที่อายุมากที่สุด ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี ในปี พ.ศ.2563 เป็นอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในรัฐบาลพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดปราจีนบุรี 8 สมัย

สุนทร วิลาวัลย์ เป็นนักการเมืองชาวจังหวัดปราจีนบุรี ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรก ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ.2526 สังกัดพรรคชาติไทย ต่อมาย้ายไปสังกัดพรรคราษฎร ในการเลือกตั้ง พ.ศ.2529 จากนั้นจึงย้ายกลับมาสังกัดพรรคชาติไทยตามเดิม จนกระทั่งในปี พ.ศ.2539 จึงย้ายมาสังกัดพรรคความหวังใหม่ และได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในรัฐบาลพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ จากนั้นในปี พ.ศ.2544 ได้เข้าร่วมงานกับพรรคไทยรักไทย และสนับสนุนให้นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ ศรีจันทร์งาม (บุตรสาว) ลงสมัครรับเลือกตั้งในปี พ.ศ.2548
ในปี พ.ศ.2550 เขาลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคมัชฌิมาธิปไตย และได้รับเลือกตั้ง แต่ต่อมาถูกตัดสิทธิเลือกตั้ง (ใบแดง) เนื่องจากกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2550 และเป็นเหตุให้ยุบพรรคมัชฌิมาธิปไตย ในปี 2563 เขาได้รับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี

ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ ศรีจันทร์งาม (เกิด 27 มิถุนายน พ.ศ.2509) เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย รองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดปราจีนบุรี 1 สมัย กนกวรรณ เกิดเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ.2509 ที่อำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี มีชื่อเล่นว่า โอ๊ะ[4] เป็นบุตรีของนายสุนทร วิลาวัลย์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดปราจีนบุรีหลายสมัย และนางสุภาภร วิลาวัลย์ สำเร็จการศึกษาปริญญาตรี จากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปริญญาโท จากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง และปริญญาเอก จากคณะสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก

กนกวรรณ เริ่มสนใจการเมืองจากการที่ได้ช่วยพ่อแม่หาเสียงมาตลอด จนกระทั่งปี 2543 ได้ลงสมัครและได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี เขตอำเภอกบินทร์บุรี ต่อมาในปี พ.ศ.2547 กนกวรรณได้รับตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี ในปี พ.ศ.2548 ได้ลงสมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดปราจีนบุรี เขต 1 สังกัดพรรคไทยรักไทย และได้รับเลือกตั้งเป็นครั้งแรกในการเลือกตั้งครั้งนั้น ต่อมาในปี พ.ศ.2549 ได้รับเลือกตั้ง แต่การเลือกตั้งเป็นโมฆะ ในระหว่างปี พ.ศ.2550 – 2560 กนกวรรณเป็นอาจารย์พิเศษ วิชาการเมืองการปกครองไทย (Thai Politics Government) คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

จนกระทั่งและในปี พ.ศ.2562 ได้เข้าร่วมงานการเมืองกับพรรคภูมิใจไทย และได้รับแต่งตั้งเป็นรองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทยรวมทั้งได้ลงสมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 16 สังกัดพรรคภูมิใจไทย ซึ่งในรอบแรกไม่ได้รับเลือกตั้ง เนื่องจากพรรคได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเพียง 14 ที่นั่ง ต่อมาได้ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการในคณะรัฐมนตรีไทย คณะที่ 62 จนกระทั่งในกลางปี พ.ศ.2563 ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อแทนนางนาที รัชกิจประการ เนื่องจากนางนาทีถูกศาลฎีกามีคำพิพากษาชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์ จนพ้นจากตำแหน่งตาม มาตรา 101 (13) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 แต่ต่อมาได้ลาออกจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเปิดทางให้สุชาติ โชคชัยวัฒนากรได้เลื่อนขึ้นมาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อต่อจากตน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image