ผู้ประกอบการรถขนดิน นำรถสิบล้อ กว่า 50 คัน ปิดทางเข้าออก อุตฯพิจิตร ไม่พอใจ จนท.ตรวจสอบมาตรฐาน กม.เอาผิดการขุดดิน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพิจิตรว่า มีชมรมผู้ประกอบการรถสิบล้อขนดินและวัสถุก่อสร้างจังหวัดพิจิตรนำรถสิบล้อ รถพ่วง 18 ล้อ จำนวน 50 คัน มาจอด ปิดทางเข้าออกอุตสาหกรรมจังหวัด ซึ่งตั้งอยู่บนถนนก่อนเข้าเมือง บนทางหลวงหมายเลข 111 สากเหล็ก-สามง่าม บริเวณหน้าสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดพิจิตร ยาวเกือบ 2 กิโลเมตร จนเหลือเส้นทางจราจร เพียงหนึ่งช่องจราจร โดยมีนายมะยม สงวนทรัพย์ สจ.พิจิตร และนายพีรวิช ประเสริฐไชยวนิช สจ.ตะพานหินแกนนำ เพื่อเรียกร้องให้สำนักงานอุตสาหกรรมพิจิตรตรวจสอบ หลังพบบุคคลแอบอ้างเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรม เข้าตรวจสอบการขุดดินในจังหวัดพิจิตร และอ้างกฎหมายเอาผิดการขุดดินและการระงับกิจการ จากการประกอบการขุดดิน อีกทั้งไม่แนะนำให้ผู้ประกอบการได้ปฏิบัติอย่างถูกต้อง จนผู้ประกอบการต่างพากันเดือดร้อน และอยู่ไม่ไหว เนื่องจากสภาวะวิกฤตน้ำมันแพงต้นทุนที่สูงขึ้น และเศรษฐกิจทรุดตัวในสภาวะการณ์
นายมะยม สงวนทรัพย์ สจ.พิจิตร ตัวแทน ผู้ประกอบการสิบล้อขนดินและพนักงานขับรถ กล่าวว่า “การรวมตัวในครั้งนี้ เนื่องจากในการประกอบการธุรกิจขนดินเจอปัญหาค่าน้ำมันแพง ค่าแรงงาน รวมถึงการเข้มงวดของเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมที่ตรวจสอบการขุดดินให้เป็นไปตามมาตรฐาน จึงต้องแบกภาระการประกอบการธุรกิจ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมแก้ปัญหา ให้ดำเนินธุรกิจได้ต่อไปในสภาวะค่าครองชีพสูง
ต่อมา นายมะยม สงวนทรัพย์ สจ.พิจิตร และนายพีรวิช ประเสริฐไชยวนิช สจ. ได้ยื่นหนังสือให้กับนายฐิติณัฎฐ์ มุณีรัตน์ อุตสาหกรรมจังหวัดพิจิตร ข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ประกอบการสิบล้อขนดินและวัสดุก่อสร้างพิจิตร
โดย นายฐิติณัฎฐ์ มุณีรัตน์ อุตสาหกรรมจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า ตนเองได้รับหนังสือข้อเรียกร้องแล้ว ซึ่งยืนยันว่า ได้ทำตามข้อกฎหมายของอุตสาหรรม และดำเนินการตามมาตรฐานและกฎหมาย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมได้ออกปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา และฝากให้ทุกคนควรอยู่ใต้ของระเบียบและกฎหมาย พร้อมกำชับให้ผู้ประกอบการดำเนินการขออนุญาตประกอบการขุดดินอย่างถูกต้อง ตามระเบียบมาตรฐานและกฎหมายที่กำหนดไว้
หลังจากยื่นหนังสือแล้ว ทางผู้ประกอบการสิบล้อขนดินและพนักงานขับรถจึงแยกย้ายออกจากจุดรวมตัวด้วยความสงบ หลังจากที่รวมตัวเรียกร้องนานกว่า 1 ชั่วโมง
