ปลัดเมืองพะเยา นำปธ.สภา ทต.บ้านต๋อม ขอขมาเจ้าอาวาสศรีโคมคำ หลังมีภาพอยู่ในกลุ่มเดินประท้วงวัด เจ้าตัวเผยไม่รู้เรื่อง
เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณภายในวิหารพระเจ้าตนหลวง วัดศรีโคมคำ (วัดพระเจ้าตนหลวง) พระอารามหลวง ต.เวียง อ.เมืองพะเยา โดยทางว่าที่ ร.ต.กรกฎ ประเสริฐวงษ์ นอภ.เมืองพะเยาได้มอบให้ นายขวัญตระกูล หาญกล้า ปลัด อ.เมืองพะเยา นำตัว นายทองพูน ฟูมะเฟือง ประธานสภาเทศบาลตำบลบ้านต๋อม อ.เมืองพะเยา พร้อมด้วยพานดอกไม้เข้าขอขมาและป้ายประกาศขอขมาวัดศรีโคมคำ พระอารามหลวงรวมทั้งพระราชปริยัติ เจ้าอาวาสวัดศรีโคมคำ พระอารามหลวง
โดยมีข้าราชการฝ่ายปกครอง อ.เมืองพะเยา และฝ่ายเจ้าหน้าที่ ทต.บ้านต๋อมเดินทางมาร่วมเป็นสักขีพยาน ทั้งนี้ด้านฝ่ายสงฆ์ได้มีทางพระครูศรีวรพินิจ เจ้าคณะอำเภอปง ผู้ช่วยเจ้าวาสวัดศรีโคมคำ เป็นประธานสงฆ์ และพระครูสุกิตยากร รองเจ้าคณะอำเภอเมืองพะเยา นำคณะสงฆ์ในพื้นที่เข้าร่วม เป็นสักขีพยานด้วยเช่นกัน
นายขวัญตระกูล กล่าวว่า การกระทำของ นายทองพูน ฟูมะเฟือง ที่เข้าร่วมกับกลุ่มบุคคลถือป้ายเดินประท้วง วัดศรีโคมคำ และพระราชปริยัติ เมื่อวันที่ 31 พ.ค.65 ที่มานั้น โดยเบื้องต้นจากการสอบสวนทราบว่า เป็นการกระทำที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์และไม่มีเจตนาสร้างความเสื่อมเสียให้แก่ทางวัดศรีโคมคำ และพระราชปริยัติ ด้วยสำนึกผิดจึงได้นำพานดอกไม้มากราบขอขมาพระราชปริยัติ เพื่อความบริสุทธิ์ใจอีกทั้งเจ้าตัวไม่ได้รู้ความจริงที่เกิดขึ้นมาก่อน
ต่อมาทางนายทองพูน ได้นำพานขอขมาเข้าไปกราบพระราชปริยัติ พร้อม และได้เตรียมคำพูดมาอ่านคำขอขมาซึ่งมีใจความว่า
“ข้าพเจ้านายทองพูน ฟูมะเฟือง ประธานสภาเทศบาลตำบลบ้านต๋อม อ.เมืองพะเยา จ.พะเยา ขอให้คำสัตย์ว่า มิได้มีเจตนาลบหลู่เหยียดหยาม หรือเกี่ยวข้องกับคณะบุคคลที่ประท้วงกล่าวหาให้วัดศรีโคมคำ พระอารามหลวง และท่านเจ้าอาวาส เกิดความเสื่อมเสีย เมื่อวันที่ 31 พ.ค.65 ก่อนหน้านี้ แต่อย่างใด จึงกราบขอขมาอภัยมา ณ โอกาสนี้ นายทองพูน ฟูมะเฟือง ประธานสภาเทศบาลตำบลบ้านต๋อม พร้อมคณะฯ”
หลังจากนั้นทางพระราชปริยัติ ได้ให้โอวาทแก่นายทองพูน พร้อมถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน ร่วมกับนายขวัญตระกูล หาญกล้า ป.อาวุโส เมืองพะเยา
“ในช่วงวันเกิดเหตุผมในฐานะนักการเมืองท้องถิ่นซึ่งอยู่ในพื้นที่ได้เห็นมีชาวบ้านส่วนหนึ่งรวมตัวกันเพื่อเดินขบวน จึงได้ขับรถ จยย.มายังวัดศรีโคมคำ เพื่อดูความสงบเรียบร้อย แต่ผมก็ตกเป็นผู้ร่วมประท้วงไปกับเขาด้วย ซึ่งถือเป็นบทเรียนสำคัญในการทำหน้าที่ตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่ และต่อไปนี้ผมต้องมีความรอบคอบระมัดระวังมากขึ้นต่อการกระทำที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ โชคดีที่ท่านเจ้าคุณเมตตา อภัยให้” นายทองพูน กล่าวภายหลังเดินทางออกจากพิธีขอขมาในพระวิหารวัดศรีโคมคำ