ไฟไหม้กุฏิวอดเกือบทั้งหลัง ‘พระครู’ สำลักควันหมดสติ ได้รับบาดเจ็บหนัก

ไฟไหม้กุฏิ ‘พระครู’ สำลักควันหมดสติ ได้รับบาดเจ็บหนัก

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 11 มิถุนายน พนักงานสอบสวน สภ.คำเขื่อนแก้ว รับแจ้งว่ามีเหตุไฟไหม้กุฏิเจ้าอาวาสวัดบ้านสงเปลือย ตำบลสงเปลือย อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร และมีพระสงฆ์ได้รับบาดเจ็บจากการถูกไฟคลอกอยู่ในที่เกิดเหตุ จึงได้ประสานรถดับเพลิงขององค์การบริหารส่วนตำบลสงเปลือย เข้าไปช่วยฉีดน้ำดับไฟ

พอไปถึงที่เกิดเหตุพบว่าภายในกุฏิเจ้าอาวาสซึ่งเป็นอาคารปูน 2 ชั้น โดยที่บริเวณชั้น 2 พบกลุ่มควันจำนวนมากลอยฟุ้งกระจายออกมาจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงขององค์การบริหารส่วนตำบลสงเปลือย จึงได้ช่วยกันฉีดน้ำดับเปลวไฟที่กำลังลุกไหม้โดยใช้เวลานานกว่าครึ่งชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้

ส่วนพระสงฆ์ที่ได้รับบาดเจ็บคือ พระครูปิยธรรมาทร อายุ 53 ปี เป็นเจ้าอาวาสวัดมีอาการสำลักควันและถูกเปลวไฟลวกที่บริเวณขาหมดสติอยู่ในที่เกิดเหตุชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปช่วยเหลือนำตัวออกจากที่เกิดเหตุได้ทันเวลาพอดีก่อนที่จะถูกไฟคลอก และได้นำตัวส่งไปรักษาอาการบาดเจ็บเบื้องต้นที่โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้วก่อนหน้านั้นแล้ว และถูกส่งตัวต่อไปที่โรงพยาบาลยโสธร เนื่องจากอาการหนัก

จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบว่าต้นเพลิงเกิดขึ้นจากบริเวณชั้นล่างซึ่งเป็นกองผ้าสบงจีวรและเครื่องสังฆทานจำนวนมากจึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีก่อนที่เปลวเพลิงจะลุกไหม้ขึ้นและลุกลามติดราวบันไดขึ้นไปบริเวณชั้น 2 จนทำให้เจ้าอาวาสวัดที่กำลังจำวัดอยู่สำลักควันจนหมดสติและถูกไฟลวกขาดังกล่าว

Advertisement

ขณะที่พระลูกวัด เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุหลังจากที่พระสงฆ์ภายในวัดฉันเพลเสร็จต่างแยกย้ายกันเข้ากุฏิซึ่งเจ้าอาวาสก็เข้ากุฏิของตนเองและได้จำวัดหลับไป ต่อมาได้มีชาวบ้านร้องตะโกนแจ้งว่าไฟไหม้และพบเห็นกลุ่มควันลอยจากกุฏิเจ้าอาวาสเป็นจำนวนมาก จึงได้แจ้งให้พระอีกรูปไปตีกลองเพลเพื่อแจ้งให้ชาวบ้านทราบและได้เข้าไปช่วยเหลือเจ้าอาวาสที่สำลักควันไฟจนหมดสติและถูกเปลวไฟลวกที่ขา ซึ่งสามารถช่วยเจ้าอาวาสออกมาได้ทันเวลาพอดี

เช่นเดียวกันกับ นางอรวรรณ อายุ 57 ปี ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ได้ยินเสียงกลองเพลจึงรีบเข้าไปในวัดและพบว่ามีกลุ่มควันจำนวนมากภายในกุฏิเจ้าอาวาสและได้มีชาวบ้านอีกหลายคนที่เข้าไปช่วยกันดับไฟที่กำลังลุกไหม้และได้เข้าไปช่วยเหลือเจ้าอาวาสที่หมดสติจากการสำลักควันไฟและถูกไฟลวกที่บริเวณขาก่อนจะนำตัวเจ้าอาวาสออกจากกุฏิได้ทันเวลาพอดีและนำตัวส่งไปที่โรงพยาบาลคำเขื่อนแก้ว แต่อาการสาหัสจึงส่งตัวต่อไปที่โรงพยาบาลยโสธร

ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจนว่าเกิดจากอะไรกันแน่ เพราะในช่วงเกิดเหตุมีเพียงเจ้าอาวาสรูปเดียวเท่านั้นที่จำวัดอยู่ภายในกุฏิชั้น 2 ซึ่งเปลวไฟเกิดจากชั้นล่างก่อนลุกลามขึ้นไปชั้น 2 และต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image