สุดรันทด สาววัย 31 ป่วยโรคประหลาด มือ-เท้าดำ วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือ

สุดรันทด สาววัย 31 ป่วยโรคประหลาด มือ-เท้าดำ วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือ

เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในสื่อสังคมออนไลน์ ได้มีการแชร์ภาพหญิงสาวรายหนึ่งป่วยเป็นโรคประหลาด โดยที่มือและเท้ากลายเป็นสีดำจนไม่สามารถใช้งานได้ จึงตรวจสอบข้อมูลพบว่า หญิงสาวรายดังกล่าวคือ น.ส.จุฑามาศ ทรายทา หรือน้องนิว วัย 31 ปี นอนพักรักษาตัวอยู่ภายในบ้านเลขที่ 65 หมู่ 2 ต.สันทราย อ.แม่จัน จ.เชียงราย จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบนายเกษม ทรายทา อายุ 55 ปี ผู้เป็นบิดาต้องป้อนยาแก้ปวดและเปลี่ยนผ้าพันแผลอย่างใกล้ชิด หลังจากเมื่อเดือนมกราคม 2565 ที่ผ่านมา เธอป่วยเป็นโรคประหลาด ซึ่งหมอระบุว่า เป็นโรคแพ้ภูมิตัวเองเกี่ยวกับหลอดเลือด ซึ่งพบได้ยากในกลุ่มผู้ที่มีอายุน้อย ส่วนมากจะเกิดกับกลุ่มผู้สูงวัย หรือผู้สูงอายุ ซึ่งอาการเจ็บปวดและทรมานน่าสงสารเป็นอย่างมาก

น.ส.จุฑามาศเล่าว่า โรคนี้ตนเริ่มเมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีอาการชาที่มือก่อน ไม่สามารถหยิบจับอะไรได้ เขียนหนังสือก็ไม่ได้ จึงไปพบแพทย์ แพทย์บอกว่าปลายประสาทอักเสบ ได้ให้วิตามินบีมารับประทานก่อน กระทั่งปลายเดือนมกราคม ขณะที่เดินทางไปสัมมนาก่อนจบการศึกษาที่ จ.เชียงใหม่ อากาศหนาวเย็นก็มีอาการปวดที่มืออย่างรุนแรงเจ็บเข้าไปถึงกระดูก จึงขอไปพบแพทย์ก็ได้ยาแก้ปวดมารับประทาน ก่อนจะเดินทางกลับมารักษาตัวที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ นานถึง 40 วัน แพทย์ก็วินิจฉัยไม่ได้ว่าป่วยเป็นโรคอะไร รักษาตามอาการและปล่อยให้กลับบ้าน จากนั้นก็เริ่มมีสีดำและเริ่มเน่า อีกทั้งลุกลามจากมือขวาไปมือด้านซ้าย ปัจจุบันนี้ลุกลามลงไปถึงเท้าและลำตัว จึงตัดสินใจไปพบแพทย์โรงพยาบาลมหาราชเชียงใหม่จึงทราบว่าป่วยเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเองเกี่ยวกับหลอดเลือด หรือโรค Antiphospholipid Syndrome

น้องนิวเล่าด้วยว่า ทุกวันนี้การรักษาตัวเองก็ยังไม่สามารถทำได้อาการมีแต่แย่ลง รู้สึกปวดและทรมานมาก มือทั้งสองข้างไม่สามารถใช้การได้แล้ว ขยับไม่ได้และจะมีอาการปวดเป็นระยะๆ ต้องกินยาระงับปวด ซึ่งตอนนี้ก็หวังว่าจะมีผู้ใจบุญเข้ามาช่วยเหลือตนในการรักษาให้หาย หรือมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือตัวเองด้วย เพราะเป็นโรคที่ทรมานมาก

Advertisement

ด้านนายเกษม ผู้เป็นพ่อบอกว่า ลูกสาวกำลังเรียนจบปริญญาตรี ซึ่งเป็นความหวังของครอบครัวที่จะหารายได้มาเลี้ยงดูครอบครัว แต่ยังไม่ทันจะได้รับพระราชทานปริญญาบัตรก็มาป่วยเป็นโรคประหลาดนี้เสียก่อน ทำให้ตอนนี้ครอบครัวลำบากมาก เพราะที่ผ่านมาตนก็หาเงินมาเลี้ยงดูแลครอบครัวเพียงลำพัง จากการเช่านาปลูกข้าวขายสร้างรายได้ แต่พอลูกสาวป่วยเป็นโรคประหลาดนี้ความหวังของครอบครัวก็พังทยายลง อีกทั้งกลายเป็นภาระหนักให้กับตน ไม่สามารถที่จะไปทำงานหาเงินได้เหมือนก่อน เพราะคอยดูแลบุตรสาว ทั้งป้อนข้าวป้อนน้ำ ให้ยาเปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำให้

นายเกษมเล่าด้วยว่า ตอนนี้ครอบครัวลำบากมากไม่เพียงแต่บุตรสาวเท่านั้นที่ต้องดูแล ยังมีพ่อแม่ของตนซึ่งก็คือปู่กับย่าของน้องนิว ซึ่งปู่คือ นายอ้า ทรายทา อายุ 86 ปี ก็เป็นต้อกระจกที่ตาทั้งสองข้าง ทำให้มองไม่เห็นไม่สามารถดูแลตัวเอง หรือช่วยหาเงินได้ ส่วนทางด้านคุณย่าคือ นางจันทร์หล้า ทรายทา อายุ 76 ปี ก็เป็นผู้ป่วยติดเตียงไม่สามารถลุกไปไหนมาไหนได้ นอกจากคนในบ้านที่ต้องดูแลถึง 3 ชีวิต ยังมีหนี้ที่กู้มาใช้จ่ายทั้งค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและค่าใช้จ่ายในการรักษาบุตรสาวอยู่กว่า 1 แสนบาท ยังมีเงินกู้ กยศ.ของบุตรสาวที่กู้ระหว่างเรียนด้วย

“ทุกวันนี้ก็อาศัยเงินที่ทางญาติและชาวบ้านยื่นมือมาช่วยเหลือ ยังมีผู้ใจบุญช่วยมาบ้าง แต่ก็คงไม่เพียงพอเพราะตอนนี้ไม่มีรายได้เลยจะทิ้งลูกสาวและพ่อแม่ไว้ออกไปหาเงินก็ไม่มีคนดูแล เพราะอยู่กันเพียง 4 คน โดยเฉพาะบุตรสาวที่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด หากไม่รีบรักษาอาการก็หนักขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งแม้บุตรสาวจะมีประกันสังคมในการรักษา แต่ก็มีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าใช้จ่ายอื่นๆ และค่าอาหารในชีวิตประจำวัน อยากให้ผู้ใจบุญมาช่วยเหลือด้วย”

Advertisement

ทั้งนี้ ครอบครัวทรายทาปัจจุบันถือเป็นครอบครัวที่น่าสงสารมาก เพราะ 4 ชีวิตต้องพึ่งคนเพียงคนเดียว รายได้ก็ไม่มี สำหรับผู้มีจิตศรัทธาสามารถยื่นมือให้ความช่วยเหลือได้ที่ บัญชีธนาคารออมสิน ชื่อ น.ส.จุฑามาศ ทรายทา บัญชีเลขที่ 02-0228120711 หรือมีช่องทางในการรักษาให้หายจากโรคประหลาดนี้ได้ก็สามารถติดต่อนายเกษม ทรายทา ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 08-2762-8595 หรือเบอร์น้องนิวโดยยตรงได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 09-5297-5899

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image