ป.5 ถูก ป.6 สี่คนรุมทำร้าย เหตุเผลอทำน้ำกระเด็นใส่ จบด้วยดี ร.ร.สั่งลงโทษ แม่รุ่นพี่รับผิด

ผู้ปกครองโพสต์ขอความเป็นธรรม ลูก ป.5 ถูกรุ่นพี่ ป.6 รุมทำร้ายบาดเจ็บ แค่เผลอทำน้ำกระเด็นใส่ โมโหกระโดดถีบ เรียกเพื่อนมารุม

จากกรณีที่มีผู้ปกครองของนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา ได้โพสต์เฟซบุ๊กถามถึงความเป็นธรรม กรณีลูกชาย เรียนอยู่ชั้น ป.5 ถูกรุ่นพี่ ป.6 จำนวน 4 คนรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา

ซึ่งข้อความในโพสต์ ระบุว่า “โรงเรียนแห่งหนึ่ง ต.หนองหัวแรต อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา เด็กนักเรียนรุ่นพี่ ป.6 ทั้งหมด 4 คน รุมทำร้ายเด็กนักเรียน 1 คน ป.5 ซึ่งเป็นลูกชายดิฉันเอง เนื่องจากว่า น้องเล่นโป่งใส่น้ำอยู่ที่อ่างล้างมือ รุ่นพี่เดินมาหลังอ่างน้ำ น้องเผลอปล่อยมือน้ำกระเด็นใส่รุ่นพี่ รุ่นพี่โมโหจึงกระโดดถีบที่หลังน้อง พอน้องล้มหัวเข่ากระแทกถนนซีเมนต์ แล้วชวนเพื่อนอีก 3 คนมาช่วยรุมทำร้าย ทั้งตบหู 2 ข้าง เป็นแผลเลือดออก พอน้องจะลุกขึ้นก็กระโดดถีบซ้ำ ไม่มีโอกาสได้ยืน ทั้งต่อยหลังเขียวช้ำทั่วหลัง

หลังจากนั้น น้องไปบอกครูประจำชั้น ครูบอกเดี๋ยวบอกครูชั้น ป.6 ให้ทำโทษ (ครูให้เพื่อนพาไปล้างแผล) ที่ห้องพยาบาลโดยที่เพื่อนล้างให้ (ไม่ใช่ครู) ครูไม่เคยโทรหาดิฉัน แจ้งเรื่องที่เกิดขึ้น แต่แจ้ง ผปค.เด็ก 4 คนที่รุมทำร้ายลูกดิฉัน จนกระทั่งน้องเลิกเรียน ตาไปรับเห็นแผลจึงถามว่าเกิดอะไรขึ้น คุณคิดว่าเหตุการณ์นี้ควรเกิดขึ้นกับลูกของดิฉันมั้ย และถ้าหากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับลูกของคุณควรทำเช่นไร ใครควรเป็นผู้รับผิดชอบ ขออนุญาตแท็กนะคะเพื่อความเป็นธรรม”

Advertisement

ผอ.ประสานผู้ปกครอง เคลียร์ดราม่า
สั่งทัณฑ์บนรุ่นพี่-ลงโทษบำเพ็ญประโยชน์

ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน นางรมิตา สีมาพล ผู้อำนวยการโรงเรียน ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า เหตุเกิดขึ้นเมื่อเช้าวันศุกร์ที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากครูประจำชั้นว่า มีเด็กนักเรียนชั้น ป.5 หรือน้องกีต้าร์ ได้นำลูกโป่งไปเปิดน้ำที่ก๊อกบริเวณหน้าห้องน้ำ แล้วน้ำกระเด็นใส่รุ่นพี่ ป.6 ที่เดินผ่านมา ทำให้รุ่นพี่ ป.6 ไม่พอใจ จึงได้ผลักหลังของน้อง จนล้มหัวเข่าถูกับพื้นคอนกรีต ทำให้เกิดแผล และน้องได้ไปบอกกับครูประจำชั้น ซึ่งครูได้พาน้องไปทำแผลที่ห้องปฐมพยาบาล โดยก่อนกลับบ้านครูได้ตรวจดูแผลของน้องอีกครั้ง พบว่า มีบาดแผลไม่มากนัก จึงปล่อยให้กลับบ้าน

ส่วนนักเรียนรุ่นพี่ ป.6 ที่ผลักน้อง ทางโรงเรียนทราบเพียงว่า มีแค่ 1 คนเท่านั้น เพราะน้องจำได้แค่คนเดียว และแจ้งชื่อมาคนเดียว แต่เมื่อโรงเรียนสอบถามเพิ่มเติม ก็พบว่า เหตุการณ์ครั้งนี้มีรุ่นพี่ทั้งหมด 4 คนที่ร่วมมือกัน ทางโรงเรียนจึงนัดผู้ปกครองทั้งสองฝ่ายให้มาพูดคุยกัน แต่ติดช่วงเสาร์อาทิตย์ จึงไม่สามารถเชิญผู้ปกครองมาพูดคุยได้

จึงได้นัดผู้ปกครองอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 13 มิถุนายนช่วงเช้าที่โรงเรียน ซึ่งผู้ปกครองของนักเรียนได้มีการพูดคุยกันแล้ว และนักเรียนรุ่นพี่ที่ก่อเหตุก็ได้ขอโทษผู้ปกครองและน้อง โดยทั้งคู่ได้มีการจับมือคืนดีกัน

ซึ่งปกติทางโรงเรียนจะอบรมสั่งสอนนักเรียนอยู่เสมอในเรื่องการรู้จักให้อภัยซึ่งกันและกัน แต่เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้น โรงเรียนก็ต้องทำโทษนักเรียนที่ก่อเหตุ ด้วยการทำทัณฑ์บนไว้ก่อนเพราะกระทำผิดเป็นครั้งแรก และให้นักเรียนที่กระทำความผิด บำเพ็ญประโยชน์ในโรงเรียน โดยการกวาดถนนและทำความสะอาดห้องน้ำ เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ เพื่อให้เด็กได้สำนึกว่ากระทำความผิดลงไป

ซึ่งมีนักเรียนและผู้ปกครอง ลงชื่อรับทราบ ส่วนผู้ปกครองของน้องที่ก่อเหตุ ก็รับปากกับทางโรงเรียนว่า จะเข้มงวดอบรมสั่งสอนลูกเพิ่มเติม เพื่อไม่ให้ทำความผิดซ้ำอีก ในขณะที่ทางโรงเรียนก็จะเพิ่มมาตรการให้ครูสอดส่องดูพฤติกรรมของนักเรียนให้ถี่ถ้วนมากขึ้น โดยหลังจากผู้ปกครองทั้งสองฝ่ายพูดคุยตกลงกันแล้ว ได้เห็นดีไปในทิศทางเดียวกัน และยอมรับการตัดสินของผู้อำนวยการโรงเรียน

จุดเกิดเหตุ

แม่เหยื่อรับคำขอโทษ ชี้อาการลูกต้องสังเกตต่อ
แม่รุ่นพี่รับผิด ลั่นจะอบรมสั่งสอนให้ดีขึ้น

ด้าน นางวริสรา ผู้ปกครองของนักเรียนที่ถูกทำร้าย บอกว่า หลังเกิดเหตุทำน้ำกระเด็นใส่รุ่นพี่แล้ว น้องก็ได้ขอโทษรุ่นพี่ แต่รุ่นพี่ยังโมโหอยู่ ก็เลยเกิดเรื่องบานปลายทำร้ายร่างกายกัน และในวันนี้ทางโรงเรียนได้ประสานผู้ปกครองทั้งสองฝ่ายมารับทราบมูลเหตุและพูดคุยกัน ก็ได้ทำการขอโทษกัน และเซ็นเอกสารรับทราบเป็นลายลักษณ์อักษร เรื่องการทำทัณฑ์บนเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งตนยอมรับการตัดสินของผู้อำนวยการ และรับคำขอโทษจากผู้ปกครองเด็กคู่กรณี ส่วนอาการของลูกชายได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหู มีบาดแผลหัวเข่าแตกทั้งสองข้าง เพราะล้มใส่พื้นคอนกรีต และมีรอยฟกช้ำเขียวบริเวณหลัง ก็ต้องรักษาและสังเกตอาการต่อ

ส่วน นางชมพู ผู้ปกครองนักเรียน ป.6 ที่ก่อเหตุ บอกว่า ยอมรับผลตัดสินของผู้อำนวยการโรงเรียน และหลังจากพูดคุยกับอีกฝ่าย ตนก็ยอมรับผิดที่ลูกของตนไปก่อเหตุขึ้น และจะคอยดูแลอบรมสั่งสอนลูก เพื่อไม่ให้ไปก่อปัญหาทะเลาะวิวาทขึ้นอีก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image