แรงงานเถื่อนทะลัก จนท.สนธิกำลัง จับรวด 11 คดี กว่า 80 คน พร้อมผู้นำพาอีก 7 คน
เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พล.ต.บรรยง ทองน่วม ผบ.พล.ร.9/ผบ.กกล.สุรสีห์ สั่งการให้ พ.อ.เฉลิมชัย ชัดใจ ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์/ร.9 พ.อ.ธัชเดช อาบัวรัตน์ รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์/ร.9 กำชับให้เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ ที่รับผิดชอบแนวชายแดนจังหวัดกาญจนบุรี ทั้ง 5 อำเภอ สนธิกำลังเฝ้าระวังป้องกัน และปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบตามนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะการลักลอบข้ามชายแดนเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายของแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
โดยเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ ตร. เจ้าหน้าที่ ตชด. และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง จับกุมแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาได้ 6 คดี ในพื้นที่บ้านบ้องตี้ หมู่ 1 ต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค, บ้านกองม่องทะ หมู่ 2 ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี, บ้านท่าขนุน หมู่ 1 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ, บ้านบ้องตี้ล่าง หมู่ 2 ต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค และ ที่บ้านท้ายเหมือง หมู่ 3 ต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค โดยสามารถจับกุมแรงงานต่างด้าวได้ จำนวน 24 คน เป็นชาย 15 คน หญิง 9 คน และผู้นำพา เป็นชาย 5 คน และหญิง 1 คน ทั้งหมดอุณหภูมิไม่เกิน 37.5 องศาฯ
จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การในเบื้องต้นว่า พวกตนเป็นชาว จ.เมาะลำใย, ย่างกุ้ง, พะโค, ยะไข่ ประเทศเมียนมา โดยต้องการเดินทางไปทำงานในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร, จ.ระยอง, จ.กาญจนบุรี และกรุงเทพฯ โดยยอมจ่ายค่าหัวให้กับนายหน้าผู้นำพาเป็นจำนวนคนละ 15,000-30,000 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทาง หลังจากผู้ต้องหายอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนท้องที่เกิดเหตุเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ซึ่งก่อนหน้านี้สามารถจับกุมแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาได้ 5 คดี รวมผู้ต้องหา จำนวน 59 คน เป็นชาย 42 คน หญิง 17 คน และผู้นำพา เป็นชาย 1 คน
