หญิงวัย 55 ปี ชาวบุรีรัมย์ ร้องขอความช่วยเหลือ หลังจากถูกสามีซึ่งเป็นตำรวจชุดสืบสวนเสพยาจนหลอน ขู่จะฆ่ายกครัว ตามไปขู่ยันลูกสาวและหลานที่โคราช ขอให้ ผกก.ช่วยปลดอาวุธ แต่กลับโดนสวน ไม่มีทางออกหวั่นโศกนาฏกรรม เพราะคนไม่ปกติแล้ว วอนช่วยเอาไปรักษา
วันที่ 17 มิ.ย. 65 เพจ “อีซ้อขยี้ข่าว” โพสต์ข้อความการร้องทุกข์ของหญิงชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ว่า “ตำรวจรายนึงอยู่ในชุดปราบปรามยาเสพติดของ สภ.แห่งหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์เสพยาหนักจนหลอนเกิดอาการคลุ้มคลั่งเดินพกปืนถือไปมาแถมขู่ฆ่าภรรยาและคนในครอบครัวแทบทุกวัน ถึงเวลานี้คนใกล้ชิดรู้สึกหวาดกลัวจึงต้องหนีออกจากบ้านยอมทิ้งร้านตามสั่งเพื่อหนีตาย เคยบอกเรื่องนี้กับคนที่โรงพักหรือแม้กระทั่งแจ้งไปยังผู้กำกับก็แล้ว แต่มันคงไม่สำคัญพอสำหรับเค้า
ตอนนี้เธอกังวลใจมาก กลัวว่าสามีจะบุกมาทำร้าย หลังมีข้อความส่งไปข่มขู่เอาชีวิต เวลานี้สื่อคือที่พึ่งสุดท้ายและเป็นความหวังเดียวที่พอจะมีหน่วยงานเห็นและไปช่วยเธอกับลูก…ฝากด้วยค่ะ (บุรีรัมย์)”
ตรวจสอบพบว่าหญิงคนดังกล่าว คือ นางวรยา อายุ 55 ปี แม่ค้าขายอาหารตามสั่งที่ อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ โดยนางวรยา เล่าให้ฟังว่า ตนคบหากับตำรวจนายนี้ ยศดาบตำรวจ ของ สภ.แห่งหนึ่งที่จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อประมาณ 7 ปีที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้สังกัดตำรวจตระเวนชายแดน 216 อ.ประโคนชัย ย้ายมาสังกัดตำรวจภูธร เมื่อ 2 ปีที่แล้ว อยู่ชุดสืบสวน แต่เริ่มมีอาการผิดปกติ เหมือนคนหลอนอะไรบางอย่าง
จากการสอบถามแม่ของสามี พบว่าลูกชายเคยประสบอุบัติเหตุ แล้วไม่ค่อยสมประกอบในด้านสติ แต่มีอาการกำเริบขึ้นเรื่อยๆ เพราะไม่เคยกินยา ทั้งยังไปเสพยา ทำให้จิตหลอนผิดปกติ
และล่าสุดมีอาการระแวง คิดว่าตนจะไปมีผู้ชายคนใหม่ ส่งข้อความมาขู่ฆ่าหลายครั้ง บอกว่าหิวเลือด อยากกินเลือด สุดท้ายไปตามขู่ลูกสาวซึ่งเป็นพยาบาลอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา
รู้สึกว่าไม่มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน จึงไปร้องขอความช่วยเหลือกับ ผู้กำกับ ที่สามีสังกัดอยู่ แต่กลับถูกโดนพูดสวนมาว่า “คนไม่ใช่หมา ที่จะเอาไปขังได้” จึงหมดหนทางที่จะหาคนมาช่วยเหลือ จึงโพสต์หาคนมาช่วย
นางวรยา ยังเล่าด้วยว่า ตอนนี้ครอบครัวกำลังเดือดร้อนอย่างหนัก ร้านอาหารก็เปิดไม่ได้ เพราะเกรงจะได้รับอันตราย ลูกสาวและหลานตัวเล็ก จะอยู่อย่างไร จึงอยากจะวิงวอนให้ผู้บังคับบัญชาสามี หาแนวทางแก้ไข เบื้องต้นให้ปลดอาวุธก่อน และอยากให้เอาตัวไปรักษา ก่อนเรื่องจะบานปลายมากกว่านี้
