พ่อค้าแม่ค้า ‘ต้นกล้ากัญชา’ โอดไม่คึกคัก สวนกระแสกัญชาฟีเวอร์

พ่อค้าแม่ค้า ‘ต้นกล้ากัญชา’ โอดไม่คึกคัก สวนกระแส กัญชาฟีเวอร์

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 19 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตลาดค้าต้นไม้ดอกไม้ประดับ ต้นไม้นำเข้า บุญยง ชื่อดังย่านบางใหญ่ จ.นนทบุรี พบพ่อค้า-แม่ค้า ต่างบ่นโอดให้ฟังว่าช่วงนี้เหมือนกระแสกัญชาจะมาแรงแซงทุกสายพันธุ์ แม้กระทั่งไม้ด่าง กล้วยด่างอินโด หรือมอนสเตอร่าด่างยอดฮิตที่ขายกันต้นเป็นแสน กิ่งเป็นหมื่น ก็ยังเงียบ ช่วงนี้กระแสตก ราคาก็ไม่พุ่งเหมือนแต่ก่อนแล้ว เมื่อก่อนช่วงโควิดขายได้อย่างต่ำวันละ 10,000-50,000 บาท หรือตกเดือนละ 100,000-800,000 บาท

แต่มาช่วงนี้วันธรรดาคนเงียบแทบไม่เดิน ไม่คึกคักเหมือนเก่า เสาร์-อาทิตย์ บางครั้งยังไม่เปิดบิลกันเลย จนพ่อค้า-แม่ค้า เดินวนมานั่งดื่มกาแฟที่ร้าน เจอหน้ากันถามไถ่กันวันนี้ไข่แตกหรือยัง หมายถึงขายได้กันหรือยัง ก็หัวเราะกันไปแก้เครียด

Advertisement

ขณะที่หลังจากรัฐบาลประกาศปลดล็อกพืชกัญชาเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.65 ที่ผ่านมา “ให้ปลูก ใช้ นำเข้า จำหน่าย” ไม่ผิดกฎหมาย และไม่ถือเป็นยาเสพติด เปิดอย่างเสรีแต่ต้องแจ้งขึ้นทะเบียนเอาไว้ และยังคงจัดระเบียบให้เป็นพืชสมุนไพรควบคุมอยู่ พร้อมยกเลิกความผิดฐานผลิต นำเข้า หรือส่งออก มีไว้ในครอบครอง จำหน่าย มีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ หรือเสพพืชกัญชา

ซึ่งล่าสุด รัฐบาลได้ควบคุมการใช้กัญชา พิจารณาออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องสมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ.2565 โดยให้กัญชา หรือสารสกัดจากกัญชา ซึ่งเป็นพืชในสกุล Cannabis เป็นสมุนไพรควบคุม, อนุญาตให้ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไปสามารถครอบครอง ใช้ประโยชน์ ดูแล เก็บรักษา ขนย้าย จำหน่ายกัญชาได้ แต่ห้ามสูบในที่สาธารณะ ห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์ หรือให้นมบุตร ห้ามจำหน่ายแก่ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี

Advertisement

อนุญาตให้ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีน และหมอพื้นบ้านตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพการแพทย์แผนไทย สามารถใช้ประโยชน์จากกัญชาให้กับผู้ป่วยของตน และอนุญาตให้ผู้ป่วยข้างต้นสามารถครอบครอง ขนย้าย ดูแล เก็บรักษา ใช้ประโยชน์ในปริมาณที่จ่ายให้สำหรับการใช้ประโยชน์เป็นเวลา 30 วัน โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป

นางธวัลรัชช์ หรือป้าดวง เชาวร์เลิศปรีชากุล อายุ 65 ปี ชาวโคราช แม่ค้า เปิดเผยว่า ปลดล็อกมันก็ดี แต่ต้องระมัดระวังในการใช้ เพราะบางคนยังไม่รู้ตัวเองว่าแพ้หรือไม่ ควรลองน้อยๆ ดูก่อน หากลองใช้เยอะอาจจะมีอาการเวียนหัว หรือน็อกกันไปเลย เพราะร่างกายรับไม่ไหว แต่ละคนภูมิป้องกันการแพ้ไม่เท่ากัน เคยเห็นมาแล้ว นำมาใส่ในอาหารจะได้มีรสชาติอร่อยขึ้น ซึ่งในความอร่อยอาจเป็นพิษร้ายแรงได้

ในส่วนของการขายต้นกล้า ต้นกัญชา กลับเงียบเหงาไม่คึกคัก มีคนมาถาม 4-5 ราย ที่จริงควรจะเยอะกว่านี้แต่กลับเงียบทุกสิ่ง ขนาดเปิดเสรีแล้ว ซึ่งจะต้องขายดีมีลูกค้ามาเลือกซื้อกัน แต่กลับขายได้น้อยมาก การเพาะก็ไม่ยาก แต่จะยากการดูแลรักษา เพราะต้นอ่อนๆ พวกแมลง หนอน หอยทาก จะชอบกัดกินทำให้ตายกันหมด ต้องคอยฉีดยาดูแล หากโตมาระยะหนึ่งก็จะแข็งแรง พร้อมขายต่อให้ลูกค้าได้

อย่างการจำหน่ายต้นกล้า ต้นอ่อนกัญชา ป้าดวงบอกว่า ก็จะมีใบรับรองการจำหน่ายสายพันธุ์จากทางฟาร์มเพาะพันธุ์ต้นกัญชาที่เราซื้อมาจำหน่ายต่ออีกที จะมีใบอนุญาตรับรองอย่างถูกต้อง หากมีปัญหาติดต่อทางฟาร์มได้เลย ซึ่งป้านำมาจำหน่ายอยู่ตอนนี้ราคาต้นละ 350 บาท และของก็มีน้อยเพราะทางฟาร์มเพาะพันธุ์ต้นกล้าโตไม่ทันจำหน่าย แต่เราก็ยังขายไม่ออกเลย สวนทางกับกระแสกัญชานิยมในช่วงนี้

ป้าขอฝากต่อถึงกระแสกัญชาฟีเวอร์ช่วงนี้ เรื่องของการนำใบต้น ดอก กัญชา ไปผสมในอาหารเพื่อเพิ่มรสชาติความอร่อย ผู้ประกอบการควรติดป้ายแจ้งบอกลูกค้าให้ชัดเจนว่ามีส่วนผสมในอาหาร เพราะบางคนอาจมีอาการแพ้รุนแรงเหมือนในข่าวที่ปรากฏได้ จะเป็นอันตรายหากใช้มากไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อยากให้ศึกษาผลดี ผลเสีย ปริมาณ ให้เข้าใจกันมากกว่านี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image