เสียงจากผู้ใช้จริง ‘ซุปเปอร์อั้งโล่-เตามหาเศรษฐี’ ช่วยเซฟเงินในกระเป๋าได้จริงหรือ?

เสียงจากผู้ใช้งานจริง พ่อค้าแม่ขายโอดไม่ใช่แค่แก๊สพุ่ง ‘ถ่าน-อั้งโล่’ ก็อั้นไม่ไหว ขยับเพิ่ม 30 บาท

สืบเนื่องจาก กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน โดยกระทรวงพลังงาน เชิญชวนคนไทยลดการใช้พลังงานด้วยการหันมาใช้ เตาอั้งโล่ หรือในชื่อ เตามหาเศรษฐี ที่อ้างถึงคุณสมบัติว่าสามารถประหยัดไม้ ฟืนและถ่านที่นำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงได้ถึง 500-600 บาท/ครัวเรือน/ปี และช่วยลดการใช้แก๊ส LPG ในครัวเรือนได้ ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

อ่านข่าว : ยุคแก๊สแพง ‘กระทรวงพลังงาน’ แนะ ‘เตามหาเศรษฐี’ อวด 6 คุณสมบัติสุดประหยัด!

รายงานจากจังหวัดปราจีนบุรี พบว่ายังมีพ่อค้าแม่ค้าที่ใช้ทั้งแก๊สและเตาอั้งโล่ในการประกอบอาชีพค้าขาย ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่ว่าจะเป็นแก๊ส หรือถ่านและเตาอั้งโล่ต่างขึ้นราคากันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นแก๊สที่ขยับราคาขึ้นกิโลละ 1 บาท ซึ่งหากเป็นเตาแก๊สขนาด 15 ลิตรก็ขึ้นราคา 15 บาท ส่วนถ่านที่ขายเป็นถุงก็บวกเพิ่มถุงละ 5 บาท แต่ที่น่าตกใจเป็นอย่างยิ่งคือเตาอั้งโล่ที่ทางกระทรวงพลังงานรณรงค์นั้นถีบราคาจากปีก่อนขึ้นมาถึง 30 บาทต่อหนึ่งเตา

น.ส.นุ่น เจ้าของร้าน 304 center ที่ขายสินค้าทั้งส่งและปลีกเกือบทุกชนิด เผยว่า เตาอั้งโล่นั้นขึ้นราคามาจากปีที่แล้ว บวกมาห้าบาท ส่วนยอดขายเตาอั้งโล่ในปัจจุบันก็จะขายดีในช่วงของเทศกาลส่วนวันปกติก็จะขายได้เรื่อยๆ แต่ยอดขายดีกว่าแต่ก่อน และอีกหนึ่งปัจจัยในเรื่องของถ่านก็ถีบราคาขึ้นเช่นกัน

Advertisement

ทั้งนี้ เจ้าของร้านยังพูดถึงในเรื่องของค่าครองชีพไม่ว่าจะเป็นแก๊ส หรือถ่าน ว่ายังไม่สมควรที่จะขึ้นเพราะชาวบ้านได้รับผลกระทบ และที่ร้านของตนเวลาลูกค้ามาซื้อสินค้าก็มักจะบ่นกันว่าราคาที่ถีบตัวขึ้นสูงจากปกติ ซึ่งทางร้านของตนก็พยายามที่จะขายเท่าทุนได้กำไรเพียงนิดหน่อยเพื่อช่วยลูกค้า แต่สินค้าบางตัวก็ต้องยอมโดนบ่นที่ต้องถีบราคา เพราะต้นทุนที่สูงขึ้น

ขณะที่ น.ส.ดวงใจ อดกลั้น เจ้าของร้านปัมปั้มลูกชิ้นเดือด ที่ใช้เตาอั้งโล่ในการประกอบอาชีพค้าขาย ได้กล่าวว่า จากผลกระทบที่วัตถุดิบไม่ว่าจะเป็นแก๊สหรือถ่านที่ขึ้นราคาตนยอมรับว่าที่ร้านของตนได้รับผลกระทบแน่นอน เพราะกำไรที่เกิดจากการขายของหากวัตถุดิบขึ้นราคาก็ต้องได้กำไรน้อยลง ส่วนเตาอั้งโล่ที่ตนซื้อมาเมื่อปีก่อนตนซื้อมาในราคา 150 บาทเป็นเตาไซซ์ใหญ่เบอร์ 1 แต่ปีนี้ที่ตนไปสอบถามราคามาล่าสุด ราคาไซซ์เบอร์ 1 ถีบตัวมาที่ 180 บาท

Advertisement

ทั้งนี้ นางสาวดวงใจยังได้กล่าวแกมขำ ถึงรัฐบาลว่า “ลุงคะประชาชนสู้ๆ ตนไม่มีอะไรจะบอกนอกจากจะบอกว่า ทางประชาชนก็ช่วยเหลือตัวเองกันเยอะ แล้วก็อยากจะให้ทางรัฐบาลช่วยมองเห็นประชาชนสักนิด เพราะตอนนี้ข้าวของก็แพงแม่ค้าก็ต้องซื้อของมาแพง ลูกค้าก็ต้องซื้อของแพงขึ้น ซึ่งทำให้ส่งผลกระทบกันหมด ทำให้การทำมาค้าขายไม่ดี จึงไม่มีสภาพคล่องแต่เรื่องของการจับจ่าย ทำให้การหาเงินยากขึ้นมา ยังไงฝากรัฐบาลช่วยหันมามองประชาชนนิดหนึ่งนะคะ”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image