อายัดเงิน 1.9 ล้าน คืนยายอดีตพยาบาลวัย 76 หลวมตัวโอนเงิน 8.1 ล้านให้มิจฉาชีพ
เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ที่ สภ.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ คุณยายอดีตพยาบาลชาวเชียงใหม่ อายุ 76 ปี พร้อมญาติพี่น้องเดินทางเข้ารับมอบแคชเชียร์เช็ค จำนวนเงิน 1,927,000 บาท จาก พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และ พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี ผู้กำกับการ สภ.ช้างเผือก
โดยอดีตพยาบาล มีสีหน้าที่ยิ้มแย้มพร้อมกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ช่วยติดตามเงินจำนวนดังกล่าวคืนจากแก๊งโรแมนสแกมเงินดำ ซึ่งหลอกลวงจนสูญเงินไปกว่า 8,156,000 บาท จากนั้นได้มอบยันต์พญาครุฑ ของวัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อแสดงความขอบคุณด้วย
คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา นางเอ (นามสมมุติ) เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก แจ้งว่าคุณยายวัย 76 ปี ซึ่งเป็นน้องสาวได้ติดต่อกับชายชาวต่างชาติผ่านเพจเฟซบุ๊ก ชื่อบัญชี Chhorvin Charya อ้างตัวว่าเป็นนายแพทย์ทำงานอยู่ต่างประเทศ พร้อมขอฝากตัวเป็นลูกของคุณยาย และอยากเดินทางมาใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทย เพราะต้องการมาช่วยรักษาคน พร้อมบอกว่าจะส่งเงินและสิ่งของมาให้คุณยายก่อนจะเดินทางมายังประเทศไทย แต่ขอให้คุณยายช่วยโอนเงินมาเพื่อเป็นค่าดำเนินการ กระทั่งคุณยายหลงเชื่อ และโอนเงินเข้าบัญชีอื่นๆ จำนวน 3,699,000 บาท รวมทั้งบัญชีธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชี น.ส.ญาดา (สงวนนามสกุล) เป็นจำนวน 4,437,000 บาท ภายหลังครอบครัวทราบเรื่องจึงรีบเดินทางมาแจ้งความ และเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถอายัดบัญชีของ น.ส.ญาดาได้ทันก่อนจะถูกโอนย้ายไปยังบัญชีอื่น จำนวน 1,927,000 บาท
พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า เครือข่ายนี้เป็นแก๊งโรแมนสแกมข้ามชาติที่มาก่ออาชญากรรมในประเทศไทยในหลายพื้นที่รวมทั้งเชียงใหม่ โดยคดีนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติ สัญชาติไนจีเรีย และคนไทยที่ร่วมกระทำความผิด 2 คน และส่งฟ้องต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ จนมีคำพิพากษาลงโทษจำคุกผู้ต้องหาทั้ง 2 คน คนละ 5 ปี ส่วนการอายัดบัญชีและติดตามเงินในบัญชี ตำรวจดำเนินการอย่างรวดเร็วจนสามารถอายัดเงินได้ทัน 1,927,000 บาท โดยการสอบสวนได้ยุติแล้วผู้ต้องหาไม่โต้แย้งในกรรมสิทธิ์ เงินที่อายัดได้เป็นเงินที่ผู้ต้องหาประทุษร้ายไปจากผู้เสียหาย ศาลจึงมีคำสั่งให้คืนเงินดังกล่าวให้ผู้เสียหาย
“กรณีนี้เป็นหนึ่งในหลายๆ เคสที่เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการให้ผู้เสียหาย อายัดเงินในบัญชีก่อนจะถูกโอนย้ายไปยังบัญชีอื่น และติดตามเงินที่ถูกประทุษร้ายคืนให้ผู้เสียหายให้มากที่สุด ตามคำสั่งของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งเร่งสอบสวนขยายผลเพื่อติดตามจับกุมเครือข่ายที่ร่วมก่ออาชญากรรม และผู้บงการที่อยู่ในต่างประเทศ โดยล่าสุดอยู่ระหว่างการออกหมายจับ เพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี แต่หากไม่ได้ตัวก็จะประกาศหมายแดง เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย จึงขอฝากเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอย่าหลงเชื่อบุคคลที่โทรศัพท์มาแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือขนส่งเอกชน เพราะอาจเป็นกลอุบายของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือแก๊งโรแมนสแกม ที่มาหลอกลวงจนประชาชนสูญเสียเงินได้”
ด้านญาติของคุณยายให้ข้อมูลว่า คุณยายเป็นอดีตพยาบาลที่เกษียณอายุแล้ว มีสามีเป็นแพทย์ ส่วนลูกทำงานอยู่ต่างประเทศ คุณยายจึงอยู่ในความดูแลของญาติพี่น้อง โดยปกติคุณยายเป็นคนจิตใจดีมีเมตตา ชอบช่วยเหลือผู้คน จึงถูกหลอกลวงจากคนร้ายที่เข้ามาตีสนิททำทีมาขอเป็นลูก จนคุณยายเกิดความเอ็นดู