ชาวบ้านร่ำไห้ เสียดายศาลาวัดถูกไฟไหม้ ลือจุดสร้างศาลาเป็นป่าช้าเก่า
ชาวบ้านที่ทราบข่าวไฟไหม้ศาลาวัดต่างทำใจไม่ได้ ร่ำไห้หน้าซากศาลา ไม่เชื่อว่าเป็นไฟฟ้าลัดวงจร หรือการจุดเทียน เพราะเกิดเหตุตอนตี 2 เทียนคงดับแล้วหากมีการจุด ส่วนหนึ่งลืออาถรรพ์ เพราะจุดที่สร้างศาลาเป็นป่าช้าเก่า
เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีเกิดไฟไหม้ศาลาวัดบัวบูลย์ประชาสมังคี บ้านโคกเพชร หมู่ 10 ต.หนองตาด อ.เมือง ทำให้ศาลาได้รับความเสียหายทั้งหลัง มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.คืนที่ผ่านมา
เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความมึนงงให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก เพราะภายในศาลายังไม่ได้เดินสายไฟฟ้า เข้าไปในตัวอาคาร มีเพียงการต่อปลั๊กไฟไปไว้บริเวณเสาหน้าศาลาเพียงจุดเดียว เพื่อพ่วงใช้ในยามจำเป็นเท่านั้น และไม่ได้ใช้งานมาประมาณ 3-4 วันแล้ว แต่เกิดไฟไหม้ได้อย่างไร
ความคืบหน้าล่าสุดชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างใส่เสื้อสีดำมาดูภาพความเสียหาย หลายคนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เพราะเสียดายศาลา ที่ชาวบ้านร่วมแรงร่วมใจกันสร้างขึ้นมา ได้เงินจากการทำกฐิน ผ้าป่า จากญาติที่ไปทำงานต่างจังหวัดมาร่วมสร้าง ใช้เวลานานถึงกว่า 4 ปี จนเสร็จสิ้น เหลือเพียงการเดินสายไฟในตัวอาคารเท่านั้น
นายสมยง อุดทุม อายุ 45 ปี กรรมการวัด อยู่เลขที่ 181 หมู่ 10 ต.หนองตาด เล่าว่า ตัวอาคารของศาลา ตนรู้ทั้งหมด ไม่มีจุดใดที่เป็นชนวนของการเกิดไฟไหม้แม้แต่จุดเดียว ประเด็นไฟฟ้าลัดวงจรตัดออกไป ส่วนประเด็นการจุดเทียน ส่วนตัวไม่เชื่อว่าเทียนจะอยู่ได้ถึงตี 2 อีกทั้งยังมีเสียงระเบิดดังขึ้นบริเวณหน้าพระประธาน ซึ่งเสียงระเบิดดังกล่าวส่วนใหญ่จะเป็นไฟฟ้าลัดวงจร ก่อนจะเกิดไฟไหม้ ตอนนี้ต้องพึ่งกองพิสูจน์หลักฐานมาชี้ว่าเกิดจากอะไรกันแน่
ด้านนายสุชาติ วงค์เชียงขวาง อายุ 44 ปี อยู่เลขที่ 77 หมู่ 10 ต.หนองตาด ชาวบ้านในหมู่บ้าน เล่าว่า สาเหตุการเกิดเหตุไฟไหม้ครั้งนี้ ชาวบ้านยังเกิดข้อสงสัยหลายอย่าง
ส่วนตัวได้ตั้งข้อสังเกตว่า ที่ผ่านมามักจะมีไฟไหม้วัด หรือศาลาวัดหลายครั้ง บางวัดมีฟ้าผ่าเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะไปสร้างทับสิ่งลี้ลับอะไรบางอย่างหรือไม่ เช่นเดียวกับวัดแห่งนี้ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ เท่าที่รู้มาชาวบ้านบอกว่า จุดที่สร้างศาลาเคยเป็นป่าช้าเก่าแก่มานานกว่า 100 ปี อาจจะไปสร้างทับบรรพบุรุษที่ไม่อยากให้สร้าง ตนไม่ทราบ เพียงแต่ตั้งข้อสังเกตเท่านั้น
