หมวดทางหลวงปราณบุรีแจง โซเซียลสงสัยเรียกเก็บค่าป้ายเตือนหัวเกาะจากคู่กรณีที่ขับรถชนจนเสียหายแพงเกินจริง และนำป้ายเก่ามาติดทดแทน
เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน นายพลายุทธ์ บุตรเจียมใจ หัวหน้าหมวดทางหลวงปราณบุรี แขวงทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน) ชี้แจงกรณีโซเชียลและโทรทัศน์บางสำนักเผยแพร่ภาพข่าวเกี่ยวกับกรณีอุบัติเหตุรถชนป้ายเตือนหัวเกาะจนเกิดการชำรุดเสียหาย โดยแขวงเรียกเก็บค่าเสียหายราคาแพงเกินจริง และนำป้ายเก่ามาติดทดแทนนั้น ในฐานะหัวหน้าหมวดทางหลวงปราณบุรี ซึ่งรับผิดชอบดูแลเส้นทางหลวงหมายเลข 3217 ตอนกุยบุรี-ยางชุม ให้กับแขวงทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน) ซึ่งจุดที่เกิดเหตุอยู่บริเวณ กม.5+400 ขอชี้แจงข้อเท็จจริง เนื่องจากข่าวที่ปรากฏออกไปคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ทำให้เกิดความเสียหาย และยังไม่มีการสอบถามข้อมูลมาที่ตนแต่อย่างใด
นายพลายุทธ์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่หมวดทางหลวงปราณบุรีได้ตรวจสอบพบว่ามีป้ายเตือนหัวเกาะตรงบริเวณ กม.5+400 ชำรุดเสียหายจากการเกิดอุบัติเหตุ จึงตรวจสอบข้อมูลไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ทราบว่าเกิดอุบัติเหตุรถกระบะ 2 คัน เฉี่ยวชนกันเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการรวบรวมหลักฐาน นำส่งแขวงทางหลวงทำการประเมินราคาและเรียกเก็บค่าเสียหายตามขั้นตอนของทางราชการ
นายพลายุทธ์กล่าวว่า ได้ประเมินสภาพพื้นที่แล้วพบว่าจุดที่เกิดอุบัติเหตุเป็นสี่แยก และมีเกาะกลางแบบเกาะยก หากไม่มีป้ายเตือนหัวเกาะจะอันตรายสำหรับผู้ขับขี่รายอื่น อีกทั้งบริเวณดังกล่าวเป็นย่านชุมชน จึงรีบทำการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น ด้วยการนำป้ายเก่าที่ยังอยู่ในสภาพใช้งานได้มาติดตั้งทดแทนเป็นการชั่วคราวเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ระหว่างรอให้คู่กรณี หรือผู้ละเมิดมาชำระค่าเสียหาย ซึ่งหากมาชำระแล้ว จะผลิตป้ายเตือนหัวเกาะอันใหม่มาติดตั้งอีกครั้ง
“ส่วนกรณีค่าเสียหายที่เรียกเก็บที่อ้างว่าแพงเกินจริงนั้น ขอชี้แจงว่า การประเมินราคาป้ายจราจรที่ได้รับความเสียหายนั้น แขวงประเมินราคาโดยอ้างอิงจากสำนักอำนวยความปลอดภัย กรมทางหลวง โดยในหนังสือแจ้งว่าผู้ละเมิดสามารถชดใช้ค่าเสียหาย หรือดำเนินการซ่อมแซม/ติดตั้งป้ายจราจรตามมาตรฐานเองได้” นายพลายุทธ์กล่าว
นายพลายุทธ์กล่าวว่า จากการตรวจสอบล่าสุดทราบว่าคู่กรณี หรือผู้ละเมิดมีประกันภัยรถยนต์ แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีการชำระค่าเสียหายแต่อย่างใด
