คลิปกล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์พระชกกับเจ้าของร้านสะดวกซื้อหลังแซวแม่ค้าอยากกินโค้ก ก่อนจะมีเรื่องชกต่อยกับแฟนแม่ค้าจนได้รับบาดเจ็บ จากนั้นได้โพสต์ลงสื่อสังคมออนไลน์ จนกระทั่งสายวันนี้พระที่ก่อเหตุได้สึกก่อนที่จะมีญาติมารับกลับไปบ้านที่จังหวัดฉะเชิงเทรา
สืบเนื่องจากกรณีที่ เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part3 ได้แชร์เรื่องราวของผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ณิรชา บุญสิทธิ์ ซึ่งระบุว่า
“เตือนภัย วันนี้เราใส่ชุดนี้อยู่ที่ร้าน พอดีเห็นพระเข้ามาอยู่บริเวณหน้าเคาน์เตอร์ และแฟนอยู่ตรงนั้นพอดี จึงพยายามเดินเลี่ยงออกไป เพราะว่าตัวเองเป็นผู้หญิง ไม่อยากเข้าใกล้พระ..แต่พระกลับพูดแซว
อยากกินโค้กฟรีจัง (เราใส่ผ้ากันเปื้อนโค้ก) มันหมายความว่ายังไง? พระพูดแบบนี้ได้เหรอ! แซวเมียเขาต่อหน้าผัวเขา จะกินโค้กฟรีอะไร
เลยเกิดเหตุการชก ต่อย กันขึ้น เราเข้าดึงแฟนออกมาเพราะไม่อยากให้เหตุการณ์บานปลาย พระท่านไม่หยุดค่ะ เข้าชกแฟนเราต่อเนื่อง 2 หมัด แฟนเรา ปากแตก ฟันโยก จมูกเลือดไหล นี่ไม่ใช่ครั้งแรกสำหรับพระองค์นี้ที่พูดจาแบบนี้กับเรา แต่เราเกรงใจเห็นว่าเป็นพระ แต่ครั้งนี้ยอมไม่ได้แล้ว เราจะเล่าพฤติกรรมพระองค์นี้ให้หมด ใครอยากรู้ความจริง พรุ่งนี้ 9 โมง พบกันที่ #วัดท่าชัย ต.หินตั้ง จะได้เลิกศรัทธาพระองค์นี้เสียที
#พระนักเลง #พระวัดท่าชัย #โหนกระแส #หมอปลา #ที่นี่นครนายก #สื่อนครนายก ขอบคุณทุกกำลังใจที่ทักมาถามค่ะ เป็นคุณจะยอมไหม??”
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ติดต่อ นางสาวณิรชา บุญสิทธิ์ ผู้เสียหาย และได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ เป็นร้านขายของชำชื่อ ร้านบุญสิทธิ์ รุ่งเรือง ซึ่งอยู่ห่างจากวัดท่าชัยศรีสุทธาวาส ตำบลหินตั้ง อำเภอเมืองนครนายก 750 เมตร
โดย นางสาวณิรชา ได้นำคลิปเหตุการณ์มาให้ผู้สื่อข่าวได้ดู คลิปแรกเป็นคลิปที่พระคู่กรณี มาซื้อของและโยนเงินลงบนโต๊ะ และคลิปที่สอง เป็นคลิปเหตุการณ์ที่พระคู่กรณีกำลังชกต่อยชุลมุนกับนายวรชัย แฟนของนางสาวณิรชา ก่อนที่คนในร้านจะช่วยกันจับแยกทั้งสองออกจากกัน โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน เวลา 14.00 น. ใช้เวลาชกต่อย 1-2 นาที จากนั้นก็มีปากเสียงกันอีกซักพัก รวมใช้เวลา 10 นาที ก่อนที่พระคู่กรณีจะเดินกลับวัดท่าชัยไป
ผู้เสียหาย เล่าว่า พระคู่กรณีปกติจะมาซื้อที่ร้านอยู่เป็นประจำ ที่ผ่านมามีนิสัยชอบมาแซว แต่ตนก็พยายามหลบเลี่ยงเพราะเห็นว่าเป็นพระ และไม่กล้าบอกเล่าให้กับแฟนเพราะกลัวว่าจะมีปัญหา ซึ่งเหตุการณ์เมื่อวานแฟนตนนั่งอยู่หน้าโต๊ะคิดเงิน พระคู่กรณีมาตนเห็นเลยไม่อยากเข้าไปยุ่งเลยให้แฟนเป็นคนคิดเงิน
จนกระทั่งคิดเงินเสร็จพระควรที่จะกลับออกไป และไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ตอนนั้นตนเดินผ่าน พระได้พูดขึ้นมาว่า “อยากกินโค้กฟรีจัง” ซึ่งตอนนั้นตนใส่ผ้ากันเปื้อนซึ่งสกรีนโค้ก ทำให้แฟนตนเกิดอาการโมโห เนื่องจากเกิดเอะใจว่าที่พระพูดนั้นว่าอยากกินโค้ก หมายถึงโค้กในตู้หรือโค้กอะไรเนื่องจากตนใส่เอี๊ยมโค้กพอดี
และตนก็รู้นิสัยว่าพระองค์นี้มีนิสัยชอบแซวชาวบ้านไปทั่ว แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูด จากนั้นก็เกิดการเถียงจนกระทั่งมีการผลักกันขึ้น
จากนั้นแฟนได้เดินไปใกล้พระ ก่อนที่พระจะพูดว่า “หรือมึงจะเอากับกู” จนกระทั่งเกิดการชกต่อยชุลมุน ตอนนั้นตนได้ดึงแฟนเข้าไปในร้าน เพราะไม่อยากให้มีเรื่องเนื่องจากอีกฝ่ายเป็นพระ อีกใจก็กลัวแฟนและพระจะเจ็บ กลัวคดีความด้วย จากนั้นพระได้เดินตามเข้ามาชกแฟนอีก 2 ครั้ง ทำให้มีแผลแตกที่ขอบจมูกและฟันหน้าโยก ทำให้ตนโมโหจึงได้ตัดสินใจไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองนครนายก
จนกระทั่งวันนี้ได้ตกลงกันแล้ว ซึ่งตอนแรกพระคู่กรณีจะขอย้ายวัด แต่ตนมองว่าหากขอย้ายวัดก็อาจจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับคนอื่นอีก จึงบอกว่าหากขอย้ายวัดตนจะไม่ยอมจะขอดำเนินคดี จากนั้นเจ้าคณะตำบลหินตั้งมาคุย ทำให้พระคู่กรณียอมอ่อนลง โดยขอลาสิกขาเอง ทำให้ตนเกิดความพอใจ จึงจบเรื่องและไม่ดำเนินดคีความ
ที่ผ่านมาพระคู่กรณีชอบแซวชาวบ้านในเชิงชู้สาว ชอบต่อปากต่อคำ บางทีเข้ามาที่ร้านให้โอนเงิน ก็มักจะเข้ามาใกล้ชิด จีวรก็จะมาโดนตัว ตนและพนักงานในร้านก็พยายามที่จะหลบเลี่ยง หรือแม้มาซื้อของก็จะชอบมาต่อปากต่อคำ หากมาซื้อแล้วกลับไปก็ไม่มีอะไร ยิ่งอีกฝ่ายเป็นพระมันก็ไม่เหมาะสม และไม่สมควรที่จะมาเป็นพระ เท่าที่รู้พระองค์นี้มาอยู่ที่วัดนี้ได้ประมาณ 4 ปี และมาซื้อของที่ร้านได้ประมาณ เกือบ 1 ปี แต่เมื่อเรื่องเกิดก็ได้บอกกับตนว่าเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ได้มีเจตนาไม่ดี
ด้าน นางถนอม อายุ 65 ปี แม่ผู้เสียหาย บอกว่า พระองค์นี้จะใช้บริการให้ทางร้านโอนเงินให้ ซึ่งพนักงานที่ร้านเป็นผู้หญิง ก็จะมีพฤติกรรมเอี้ยวตัวมาใกล้ๆ ชะโงกมองโทรศัพท์ดูว่าเงินเข้าหรือยัง และจะทำแบบนี้ประจำ ที่ผ่านมาก็มาใช้บริการอยู่ประจำและแสดงพฤติกรรมแบบนี้มาตลอดตนเห็นว่าเป็นพระก็ให้พนักงานและตัวเองหลบหลีกเอา ขณะที่ลูกสาวก็จะมาบอกตนเสมอว่าจีวรพระองค์นี้มาโดนตัวแทบทุกครั้ง ตนก็ได้แต่บอกลูกว่าหลบเอาลูก จนกระทั้งมาเกิดเรื่องเมื่อวาน จนลูกเขยได้รับบาดเจ็บและยืนยันว่าต้องเอาเรื่องและให้สึก วันนี้ลูกค้ามาซื้อของที่ร้านก็ได้เล่าให้ลูกค้าฟัง ซึ่งลูกค้าก็เป็นชาวบ้านในพื้นที่เมื่อรู้เรื่องก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าให้อยู่ไม่ได้ ทำให้วัดเสียชื่อเสียง จนกระทั่งมีการรวมตัวกันไปที่วัดเช้าวันนี้
นายวรชัย อายุ 40 ปี แฟนผู้เสียหาย บอกว่า เรื่องพฤติกรรมของพระองค์นี้ตนมาทราบหลังจากเกิดเรื่องแล้ว แต่ที่เกิดเรื่องคือเราเห็นพฤติกรรมพระองค์นี้แซวแฟนตนต่อหน้า ซึ่งตอนนั้นตนกำลังเอาของไปเรียงแล้วได้ยินพระพูดขึ้นมาว่า อยากกินโค้กฟรีจังเลย ตนเลยพูดว่า “เป็นพระมาแซวผู้หญิงได้หรือแบบนี้”
พระได้ตอบกลับมาว่า “ทำไมจะแซวไม่ได้ รู้จักกัน” จากนั้นพระก็พูดเรื่องศีลว่า “คุณรู้ไหมศีลมีอะไรบ้าง ผมไม่ทำผิดหรอก” ตนได้ตอบกลับไปว่า “ผมไม่รู้หรอกศีลของพระมีอะไรบ้าง แต่มาแซวแฟนตนแบบนี้มันไม่ถูกต้อง” จากนั้นได้เดินเข้าไปใกล้พระ และพระได้พูดว่า “มึงจะเอากับกูไหม” จากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ตามคลิปที่ปรากฏ โดยตนได้รับบาดเจ็บ ปากแตก ฟันโยก บริเวณจมูกแตก ได้ไปพบแพทย์และขอใบรับรองแพทย์มาเรียบร้อยแล้ว
นางอุดร ชาวบ้านท่าชัย ที่เห็นพฤติกรรมพระองค์นี้มานาน บอกว่า พระองค์นี้เคยอยู่วัดหุบเมย (ห่างจากวัดท่าชัย 3.9 กิโลเมตร) โดยมีพฤติกรรมเวลานั่งรถ หากเจอผู้หญิงหรือเด็กผู้หญิงที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ก็จะเปิดกระจกมาแซว เช่น ไปไหนมาน้อง ที่ผ่านมาก็เคยยกเครื่องเสียงแล้วเปิดเพลงเสียงดัง ตนก็ได้พูดว่า นั่นสีเหลืองนะไม่ใช่สีแดง (หมายถึงเป็นพระ ห่มจีวรสีเหลือง) โดยพระองค์นี้บวชพระมาแล้วหลายวัดรวมแล้ว 25 พรรษา และมาอยู่วัดท่าชัยประมาณ 3-4 ปี ตนก็จะเห็นพฤติกรรมมาตลอด ว่าเห็นผู้หญิงสาวสวยไม่ได้ก็จะชอบแซว
เมื่อถามว่าเคยโดยแซวไหม นางอุดร ได้บอกว่า หากมาแซวตน ตนจะด่าให้เละ ตนยิ่งด่าเก่งอยู่ ทั้งนี้ทางตนได้พูดว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดและยังไม่ได้บอกให้สึก หลังเกิดเรื่อง แต่เมื่อเจ้าคณะตำบลมาก็ได้พูดคุยกับพระองค์นี้ ซึ่งพระก็ไม่ได้เถียงเจ้าคณะ แต่เถียงกับพวกตน จนสุดท้ายเจ้าคณะพูดว่าเราเป็นพระจะพูดปดไม่ได้ คนจะไม่นับถือ จนกระทั่งพระองค์นี้ได้ลาสิกขาไปเอง
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดท่าชัยศรีสุทธาวาส ตำบลหินตั้ง อำเภอเมืองนครนายก โดยพบว่าภายในวัดเงียบ เจ้าอาวาสไปธุระที่ต่างจังหวัด และได้เจอพระลูกวัดองค์หนึ่ง ไม่ขอเผยชื่อและบันทึกภาพ โดยให้ข้อมูลว่า พระองค์ที่เกิดเรื่องชื่อ พระวิสุทธ อายุ 50 ปี เป็นชาวบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา เคยบวชที่วัดบางน้ำเปรี้ยว และได้ย้ายมาอยู่ที่วัดได้ 3-4 ปี ส่วนพฤติกรรมที่เกิดที่เป็นข่าวนั้นตนไม่รู้ โดยวันนี้เจ้าคณะตำบลได้เดินทางมาที่วัดและทำการสึกตอนเวลาประมาณ 11.00 น. จากนั้นญาติของพระวิสุทธได้เดินทางมารับกลับบ้านที่อ.บางน้ำเปรี้ยว
