ระทึกริมสนามแข่ง! นักแข่งรถเสียหลัก พุ่งชนคนดูริมถนนเสียชีวิต 1 เจ็บอีก 7 ราย พบ ส.ท.กร่างทำตัวมาเฟียปัดกล้องสื่อ สั่งห้ามทำข่าวอุบัติเหตุ
เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ 3 ก.ค. 65 ศูนย์วิทยุสื่อสารและสั่งการนเรนทรตรัง ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์แข่งขัน เสียหลักพุ่งชนผู้ชม ภายในสนามชั่วคราวการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ทางเรียบการกุศล สวนสาธารณะสระกะพังสุรินทร์ ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก หลังรับแจ้งจึงได้สั่งการให้หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง หน่วยกู้ชีพ รพ.ตรัง พร้อมทั้งหน่วยกู้ภัยสว่างภักดีตรัง และรถพยาบาลเอกชน ที่สแตนด์บายอยู่ภายในสนามเข้าตรวจสอบและช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
ที่เกิดเหตุบนทางเท้า พบผู้บาดเจ็บจำนวน 7 ราย โดยรายแรกเป็นคนขับรถแข่งได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส ไม่รู้สึกตัว อีกรายเป็นผู้เข้าชมเพศชาย อายุประมาณ 10 ขวบ ได้รับบาดเจ็บสาหัส จับชีพจรไม่ได้ เจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยเร่งทำการปั๊มหัวใจ หรือซีพีอาร์ ในที่เกิดเหตุ และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ก่อนเร่งนำตัวผู้บาดเจ็บส่ง รพ.ตรัง เป็นการเร่งด่วน ซึ่งในขณะนี้ยังอยู่ในอาการสาหัส ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 6 ราย ซึ่งเป็นผู้ชมทั้งหมดได้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกัน แต่รู้สึกตัวทั้งหมด ก่อนเจ้าหน้าที่จะทยอยช่วยเหลือในเบื้องต้น และนำตัวส่งโรงพยาบาลในเวลาต่อมา
จากการสอบถามในเบื้องต้น ทราบว่า ได้มีการจัดแข่งขันมอเตอร์ไซค์ทางเรียบการกุศล ภายใต้ชื่อ ”กะพังสุรินทร์โรดเรซซิ่ง” โดยมีการแข่งขันตั้งแต่วานนี้ (2 ก.ค.65) และในวันนี้ (3 ก.ค.65) เป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ โดยจะมีการมอบรางวัลในช่วงเย็น โดยมีผู้เข้าแข่งขัน และผู้ชมเข้าร่วมเป็นจำนวนมากยืนดูอยู่บนขอบทางเท้า ติดกับถนน ขณะเกิดเหตุมีผู้ชมได้ยืนชมอยู่บนทางเท้าบริเวณจุดดังกล่าวกว่า 10 คน รถของผู้เข้าแข่งขันได้เกิดเสียหลักหลุดออกจากถนน พุ่งเข้าชนผู้ชมที่ยืนดูอยู่ เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 7 ราย และเสียชีวิต 1 ราย
อย่างไรก็ตาม การผู้สื่อข่าวสอบถาม พ.ต.อ.เชื้อชาติ เยาว์ดำ ผกก.สภ.เมืองตรัง ระบุว่า แข่งขันดังกล่าวได้มีการขอจัดและขออนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย แต่ในขณะเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว ไม่มีการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้รับทราบถึงการเกิดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น
ขณะเดียวกันในระหว่างที่ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เข้าทำข่าวและบันทึกภาพอุบัติเหตุดังกล่าว ได้มีชาย 1 รายหนึ่ง ทราบภายหลังคือ เป็นสมาชิกสภาเทศบาลนครตรัง (ส.ท.) ได้ปรี่เข้ามาปัดกล้องมือถือ ก่อนจะสั่งห้ามไม่ให้ทำข่าว และห้ามบันทึกภาพ และได้เดินเข้ามาประกบเพื่อให้ผู้สื่อข่าวออกจากจุดเกิดเหตุ ข่าวคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป