แชร์สนั่น! คลิปหนุ่มเตะเสยปลายคาง คู่กรณีหงายหลังล้มริมฟุตปาธ
โซเชียลแชร์สนั่น! คลิปชายวัยรุ่นทำร้ายร่างกายคู่กรณีโดยใช้เท้าเตะเสยปลายคางและเตะเข้าที่ศีรษะจนอีกฝ่ายหงายหลังล้มนอนลงบนฟุตปาธ ก่อนชายที่ก่อเหตุจะซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์เพื่อนออกจากที่เกิดเหตุ โดยพลเมืองดีสามารถถ่ายคลิปเหตุการณ์เอาไว้ได้ เบื้องต้นผู้เสียหายเผย มีการติดต่อซื้อขายกัญชากันผ่านทางเฟซบุ๊ก ก่อนจะนัดซื้อขายในจุดเกิดเหตุ แต่กลับถูกอีกฝ่ายทำร้ายโดยไม่ทราบสาเหตุ
วันที่ 3 กรกฎาคม 2565 ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์คลิปวิดีโอเหตุการณ์ชายรายหนึ่งก่อเหตุทำร้ายร่างกายชายอีกฝ่ายด้วยการใช้เท้าเตะเข้าที่ปลายคางและบริเวณศีรษะ จนทำให้ชายที่ถูกเตะล้มนอนหงายลงบนฟุตปาธ โดยระบุข้อความว่า “มีอะไรค่อยพูดค่อยจากันครับพี่ เหตุเกิดพี่คนเจ็บมาส่งของ….น่าจะพูดจาผิดคอกัน เพราะได้ยินพี่คนต่อยด่าว่าควายๆ กันอะไรสักอย่าง” โดยผู้โพสต์คลิปวิดีโอสามารถบันทึกเหตุการณ์เอาไว้ได้ขณะเกิดเหตุ และนำมาโพสต์ลงในกลุ่ม “ขอนแก่น ร้องเรียนอะไรบอกไว้ที่นี่” หลังคลิปนี้ถูกโพสต์ลง ได้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นและแชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของชายที่ก่อเหตุว่า ทำรุนแรงเกินไป แม้ชายที่ถูกทำร้ายจะล้มลงแล้ว แต่ผู้ก่อเหตุก็ยังเตะซ้ำจนชายที่ถูกทำร้ายล้มลงเป็นครั้งที่ 2
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามไปยังชายที่ถูกทำร้ายร่างกาย ทราบชื่อคือ นายธนารักษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเข้ารับการรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาลขอนแก่น เล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเวลาประมาณ 16.00 น.ที่ผ่านมา โดยก่อนเกิดเหตุ ตนเองและผู้ก่อเหตุได้มีการติดต่อซื้อขายกัญชากันผ่านทางเฟซบุ๊ก ก่อนจะนัดซื้อขายกันที่บริเวณถนนกัลปพฤกษ์ ตรงข้ามศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งขณะนั้นมีตลาดเปิดท้ายขายของและคนที่เดินทางไปมาจำนวนมาก หลังตกลงซื้อขายกันเสร็จ ตนเองก็ขับรถมารอชายที่ก่อเหตุ จากนั้นชายที่ก่อเหตุก็มาถึง โดยขับขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายมากับเพื่อน โดยก่อนจะเอากัญชาให้ ชายที่ก่อเหตุก็ทำทีสอบถาม พอตนเองเผลอจะหยิบกัญชาให้ ชายที่ก่อเหตุก็ต่อยตนเองจนล้มลงไป แล้วก็เตะซ้ำตามที่ปรากฏในคลิป ก่อนที่พลเมืองดีจะเข้ามาช่วยเหลือและแจ้งหน่วยกู้ชีพกู้ภัยให้มาช่วยเหลือ โดยตนเองได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหูข้างซ้าย บริเวณใบหน้า และศีรษะ ยืนยันว่า ตนเองและผู้ก่อเหตุไม่เคยรู้จักกันมาก่อน และไม่ได้มีเรื่องทะเลาะกันแต่อย่างใด เบื้องต้นหลังจากออกจากโรงพยาบาล จะเดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ โดยตนเองมีหลักฐานยืนยันตัวตนผู้ที่ก่อเหตุ โดยทราบว่า ผู้ก่อเหตุมีอาชีพเป็นช่างรับสักลายในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น
