สุดสลดพ่อเฒ่าลงสูบน้ำบ่อลึกขาดอากาศหายใจน็อก หลานชายลงช่วยดับคู่
เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม เกิดเหตุสลดมีคนขาดอากาศหายใจตายอยู่ที่ก้นบ่อน้ำบาดาล บริเวณกลางทุ่งนา พื้นที่ หมู่ 6 ต.ท่าชัย อ.เมือง จ.ชัยนาท ตำรวจ สภ.เมืองชัยนาท เข้าตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ปภ.เขต 16 ปภ.จว.ชัยนาท อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู และแพทย์เวร รพ.ชัยนาทนเรนทร ซึ่งที่ก้นบ่อความลึก 23 วงท่อซีเมนต์ หรือประมาณ 9.2 เมตรจากผิวดิน พบศพจำนวน 2 ศพ คือ นายทวี กุณฑี อายุ 65 ปี เจ้าของบ่อบาดาล และอีกศพคือนายไปป์ อายุ 29 ปี หลายชายที่ลงไปช่วยแต่เกิดหมดสติและเสียชีวิตอีกคน เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันใช้รอกหย่อนตัวเจ้าหน้าที่กู้ภัย ปภ.ศูนย์เขต 16 ชัยนาท ที่สวมชุดประกอบเครื่องช่วยหายใจ ลงไปก้นบ่อเพื่อใช้เชือกชักลากร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายขึ้นมา ใช้เวลากว่า 1.5 ชม. จึงนำร่างของทั้งคู่ขึ้นมามอบให้ญาติได้สำเร็จ
สอบสวนนายวรากร กุณฑี อายุ 35 ปี ลูกชายของนายทวีเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุพ่อลงไปเปิดวาล์วน้ำที่ก้นบ่อเพื่อสูบน้ำขึ้นมาใส่นาข้าว แต่ด้วยความที่บ่อมีความลึกมาก และมีเศษหญ้า สิ่งปฏิกูลหมักหมมจมที่ก้นบ่อทำให้เกิดก๊าซพิษ พ่อเห็นท่าไม่มีก็ปีนขึ้นมาเพื่อเอาชีวิตรอดพร้อมเรียกให้แม่ที่อยู่ด้านบนช่วย แต่พ่อก็หมดสติระหว่างปีนบันไดขึ้นมา ร่างหล่นลงไปกระแทกก้นหลุมอย่างรุนแรง แม่จึงตะโกนเรียกหลานที่อยู่ทุ่งนาใกล้ๆ กันมาช่วย พร้อมโทรบอกตนเองซึ่งตนก็รีบขับรถมาทันที เมื่อมาถึงปรากฏว่านายไปป์ลงไปที่ก้นบ่อแล้วตะโกนมาบอกตนที่กำลังตามลงไปว่า พี่ ก๊าซ จากนั้นตนก็รู้สึกว่าร่างกายอ่อนแรง จึงรีบปีนขึ้นมาปากบ่อ แต่ก็เกิดเรื่องเศร้าซ้ำสอง ที่นายไปป์เสียชีวิตที่ก้นบ่อไปอีกคน
ด้านนายจักรมงคล อาภาตั้งสกุล เจ้าหน้าที่กู้ภัย ปภ.ศูนย์เขต 16 ชัยนาท ที่ลงไปนำร่างของทั้งคู่ขึ้นมา ฝากเตือนว่าในพื้นที่บ่อลึกตั้งแต่ 7 เมตรลงไปเป็นพื้นที่อับอากาศที่อันตรายมาก เพราะจะมีปริมาณออกซิเจนเบาบาง ยิ่งถ้ามีการหมักหมมของหญ้าและสิ่งปฏิกูลก็จะทำให้เกิดก๊าซพิษ ที่จะยิ่งอันตรายไปอีกหลายเท่า จึงไม่ควรลงไปทำงานในพื้นที่เสี่ยงอันตรายแบบนี้โดยไม่มีเครื่องปั๊มอากาศลงไปช่วยในการหายใจ ไม่ควรลงไปอย่างเด็ดขาด เพราะรายนี้ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่ 2 ในรอบ 3 วัน และเป็นศพที่ 3 ที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ในพื้นที่ จ.ชัยนาท
