‘หล่มเก่า-หล่มสัก’ อ่วม แม่น้ำป่าสักเอ่อล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือน-พื้นที่เกษตร หวั่นดินโคลนถล่มซ้ำ
เมื่อวันที่ 14 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในเขตพื้นที่ อ.หล่มเก่า และ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ หลังมีฝนตกหนักหลายวันติดต่อกัน จนทำให้น้ำป่าไหลหลากจากพื้นที่เขาในเขต อ.ด่านซ้าย ลงสู่แม่น้ำป่าสัก กระทั่งทำให้เกิดการเอ่อทะลักเข้าท่วมพื้นที่และบ้านเรือนที่อาศัยอยู่บริเวณริมสองฝั่งแม่น้ำป่าสัก อาทิ บ้านวังขอน หมู่ที่ 1 และบ้านวังม่วง หมู่ที่ 8 ต.ตาดกลอย อ.หล่มเก่า
มีชาวบ้านได้รับผลกระทบรวม 42 ครัวเรือน ต่อมาเวลา 10.30 น. นายเสกสรร กลิ่นพูน นายอำเภอหล่มเก่าพร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่น้ำท่วมพร้อมประเมินสถานการณ์น้ำในแม่น้ำป่าสัก พบว่าหลังจากวันนี้ไม่มีฝนตกเพิ่มเติม ระดับน้ำแม่น้ำป่าสักและลำน้ำพุงลดลงอย่างต่อเนื่อง จากนั้นได้มอบข้าวกล่องและน้ำดื่มแก่ผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น
จากนั้นเวลา 13.00 น. ปรากฏว่ามวลน้ำจากแม่น้ำป่าสัก หลังจากไหลเข้าสู่เขตพื้นที่ อ.หล่มสัก ทำให้คันดินกั้นน้ำริมแม่น้ำป่าสักเกิดการชำรุด จนน้ำในแม่น้ำป่าสักไหลเข้าพื้นที่หมู่บ้านและพื้นที่การเกษตรเสียหายจำนวน 3 แห่ง ได้แก่ หมู่ที่ 6 บ้านแก่งยาว ต.ห้วยไร่ 2 แห่ง และหมู่ที่ 9 บ้านดอนสว่าง ต.สักหลง 1 แห่ง นอกจากนี้น้ำที่เอ่อล้นตลิ่งได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่ทางการเกษตรในพื้นที่หมู่ที่ 1, 2, 5, 7, 8, 9, 11
โดยทหาร ม.พันที่ 1 กองพล ม.1 จำนวน 12 นายพร้อมเรือบรรทุก 1 ลำ ได้เข้าพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วม ขณะเดียวกันที่ ต.วัดป่า อ.หล่มสัก พื้นที่การเกษตร ทั้งนาข้าวและสวนผักในพื้นที่ หมู่ 1, 2, 6, 7, 8, 10,12 ถูกน้ำเอ่อเข้าท่วมเช่นกัน ล่าสุดอยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ต่อมาเวลา 15.00 น. นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมนายชาคินทร์ อินอิ่มวรปราชญ์ นายอำเภอหล่มสัก ลงสำรวจพื้นที่ถูกน้ำท่วม โดยเฉพาะบริเวณถนนศรีสะอาด หมู่ 11 เขตเทศบาลตำบลตาลเดี่ยว โดยมีนายสุบิน นายกเทศมนตรีฯ นำสำรวจ โดยพบว่าน้ำจากแม่น้ำป่าสักเอ่อเข้าท่วมถนนและชุมชนบริเวณดังกล่าว เนื่องจากตั้งอยู่ริมแม่น้ำป่าสัก โดยนายกฤษณ์ได้กำชับให้ทางเทศบาล จัดเตรียมมาตรการป้องกันน้ำท่วมและให้ความช่วยเหลือผู้ที่ประสบภัยอย่างเต็มที่
นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าฯเพชรบูรณ์ กล่าวว่า เนื่องจากมีฝนตกต่อเนื่องในเขตพื้นที่ต้นน้ำป่าสัก จึงทำให้มีมวลน้ำไหลลงสู่แม่น้ำป่าสัก และเกิดการเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ริมแม่น้ำในเขต อ.หล่มสัก ซึ่งมวลน้ำก้อนนี้เป็นรอบแรกในปีนี้ที่สร้างผลกระทบให้ชุมชนที่อยู่บริเวณริมแม่น้ำ อย่างไรก็ตามคาดว่าระดับน้ำจะพีคสุดในคืนนี้ หลังจากนั้นก็จะลดลง ซึ่งกำชับให้หน่วยงานและท้องถิ่นที่มวลน้ำจะไหลผ่านให้จับตาเฝ้าระวังรวมทั้งให้ความช่วยเหลือทันทีหากได้รับแจ้งหรือได้รับการร้องขอ
นายกฤษณ์ยังกล่าวถึงกรณีที่โพสต์แจ้งเตือนให้ระวังดินโคลนถล่มด้วยว่า เนื่องจากก่อนหน้านี้มีฝนตกต่อเนื่องหลายวัน ในขณะที่ทางกรมอุตุฯ รายงานปริมาณน้ำฝนในบางแห่งสูงถึง 100 มล. ซึ่งเกรงดินอุ้มน้ำไว้มากจนอาจทำให้เกิดดินโคลนถล่มขึ้นได้ จึงได้แจ้งเตือนพื้นที่ทั้งบนเขาและพื้นที่เสี่ยงให้เฝ้าระมัดระวังและติดตามสถานการณ์โดยตลอด
