สสจ.เชียงใหม่ เตือนซ้ำ ระวัง ‘โรคไข้เลือดออก’ แนะสังเกตอาการ-กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย

สสจ.เชียงใหม่ เตือนซ้ำ ระวัง ‘โรคไข้เลือดออก’ แนะประชาชนสังเกตอาการ ป้องกัน-กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย

เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม นพ.วรัญญู จำนงประสาทพร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) เชียงใหม่ เปิดเผยว่า โรคไข้เลือดออกถือเป็นโรคประจำถิ่นที่เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศไทยและจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งการแก้ปัญหาโรคไข้เลือดออกต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะประชาชนและสถานที่ต่างๆ ในการช่วยกันทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย ด้วยมาตรการ 3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) มีข้อมูลว่า โรคไข้เลือดออกมีอุบัติการณ์เพิ่มขึ้นอย่างมากทั่วโลก ในทศวรรษที่ผ่านมา โดย 70% ของกลุ่มคนที่เสี่ยงต่อการเป็นไข้เลือดออกอยู่ในทวีปเอเชีย โรคไข้เลือดออกเป็นโรคที่ระบาดได้ตลอดทั้งปี พบการระบาดสูงสุดในช่วงฤดูฝน

“จากการคาดการณ์สถานการณ์พบว่าปี 2565 จะมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นสูงกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากปี 2564 มีการระบาดค่อนข้างน้อยและลักษณะการระบาดของไข้เลือดออกจะเป็นการระบาดแบบปีเว้นปี หรือปีเว้น 2 ปี โดยกลุ่มเสี่ยงสูงต่อการเสียชีวิตคือ ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง และกลุ่มผู้ที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์”
นพ.วรัญญูกล่าวอีกว่า จากการเฝ้าระวังของกลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สสจ.เชียงใหม่ สถานการณ์โรคไข้เลือดออกในปี 2565 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-17 กรกฎาคม 2565 พบผู้ป่วย จำนวน 653 ราย ยังไม่มีเสียชีวิต กลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยมากที่สุดคือ วัยทำงาน ช่วงอายุ 25-34 ปี และ 35-44 ปี รองลงมาคือ กลุ่มนักเรียน นักศึกษา อายุ 15-24 ปี ตามลำดับ อำเภอที่มีอัตราป่วยต่อประชากรแสนคนสูง 5 จังหวัดแรกคือ เวียงแหง เชียงดาว พร้าวฮอด และอมก๋อย ตามลำดับ และเริ่มมีจำนวนผู้ป่วยมากขึ้น เขตเทศบาลนครเชียงใหม่ และอำเภอเมือง

“คาดว่าในช่วงต่อจากนี้ ในระหว่างเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2565 จะมีแนวโน้มพบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีฝนตกในหลายพื้นที่ ทำให้น้ำขังในภาชนะต่างๆ เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย และกลุ่มเสี่ยงโดยเฉพาะกลุ่มเด็กวัยเรียนที่อยู่บ้านช่วงวันหยุดยาว มีโอกาสถูกยุงลายกัดในช่วงกลางวันได้ จึงขอให้ชุมชนและหน่วยงานต่างๆ รวมถึงผู้ปกครอง ช่วยกันกำจัดแหล่งพันธุ์ยุงลายบริเวณชุมชน และรอบบ้าน โดยเน้นมาตรการ 3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค คือ เก็บบ้านให้ปลอดโปร่ง ไม่มีบริเวณอับทึบให้ยุงลายเกาะพัก เก็บขยะที่อยู่บริเวณรอบบ้าน เก็บเศษภาชนะที่ต้องการทิ้งไว้ในถุงดำมัดปิดปากถุง และนำไปทิ้งลงถังขยะ เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และเก็บน้ำ ภาชนะที่ใส่น้ำเพื่ออุปโภคบริโภค ต้องปิดฝาให้มิดชิด ล้างคว่ำภาชนะที่ไม่ใช้แล้ว และเปลี่ยนน้ำในกระถางหรือแจกันทุกสัปดาห์ ใส่ทรายกำจัดลูกน้ำหรือปล่อยปลากินลูกน้ำในภาชนะที่ปิดฝาไม่ได้ ป้องกันไม่ให้ยุงลายวางไข่ และเน้นการป้องกันไม่ให้ยุงกัด โดยทายากันยุงและนอนในมุ้ง ซึ่งจะสามารถป้องกันได้ 3 โรคคือ โรคไข้เลือดออก โรคติดเชื้อไวรัสซิกา และโรคไข้ปวดข้อยุงลาย หรือโรคชิคุนกุนยา”

นพ.วรัญญูกล่าวอีกว่า สสจ.เชียงใหม่ขอแนะนำว่า หากบุตรหลานหรือคนในครอบครัวมีอาการไข้สูง ให้หลีกเลี่ยงการซื้อยารับประทานเอง หากจำเป็นให้ใช้ยาพาราเซตามอล ห้ามใช้ยาในกลุ่มเอ็นเสด เช่น ยาไอบรูโปรเฟน แอสไพริน หรือยาแก้ปวดไดโคลฟิแนก เพราะถ้าเป็นไข้จากโรคไข้เลือดออก ยากลุ่มนี้อาจมีผลทำให้เลือดออกมากขึ้น ทั้งนี้ เมื่อรับประทานยาพาราเซตามอลแล้วอาการไม่ดีขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่สายด่วน 1422 หรือสถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้านทุกแห่ง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image