ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร นำทีมตรวจ ‘เสาตอม่อสะพานมหาชัย’ หลังใช้งานกว่า 50 ปี ปชช.กังวลทรุดแบบพระราม 2 ด้าน ทช.ชี้แบบพร้อมส่งต่อเทศบาลฯ ผ่านความเห็นชอบสภา ลงมือสร้างทันที คาดใช้งบ 10 ล้าน
เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ที่ สะพานข้ามคลองมหาชัย (สะพานวัดเจษ) ตำบลมหาชัย อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย นายชุมพล จันทร์จรัสวัฒนา นายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร นายพิชิตชัย หอมหงษ์ นายช่างโยธาชำนาญงาน แขวงทางหลวงชนบทสมุทรสาคร, นายอภิชาต โพธิ์ถนอม รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร, นายวัฒนา แตงมณี นายก อบต.พันท้ายนรสิงห์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนตัวแทนประชาชน ได้ลงเรือไปดูสภาพความเสียหาย ของ เสาตอม่อสะพานข้ามคลองมหาชัย (สะพานวัดเจษ) ที่ประชาชนกังวลว่าจะเกิดเหตุทรุดตัวลงมา เนื่องจากการผุกร่อนของเสาตอม่อที่ต้องรองรับปริมาณการจราจรที่หนาแน่นในแต่ละวัน
ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่พบว่า บริเวณเสาตอม่อบางต้นที่รองรับคานสะพาน มีปูนที่แตกร้าว มองเห็นเหล็กเส้นโผล่ออกมา โดยสภาพของเหล็กเส้นก็เป็นสนิมเนื่องจากถูกความเค็มกัดกร่อน และมีการใช้งานมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนานตั้งแต่ปี พ.ศ.2511 หรือ มากกว่า 50 ปีแล้ว
นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า ตามที่พี่น้องประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน ที่ต้องใช้สะพานข้ามคลองมหาชัยเกิดความกังวลใจว่าจะเกิดเหตุที่น่าสลดใจ แบบสะพานถนนพระราม 2 อันเนื่องจากสภาพสะพานแห่งนี้มีการผุกร่อนจนเสาบางต้นมีเหล็กเส้นโผล่ออกมา จึงได้ลงพื้นที่กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจดูสภาพที่เกิดขึ้น ซึ่งพบว่ามีการชำรุดผุกร่อนเสียหายจริง
ทั้งนี้ จึงได้เร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซม โดยใช้แบบของกรมทางหลวงชนบท ที่ได้ออกแบบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และรอส่งมอบให้กับเทศบาลนครสมุทรสาคร นำไปจัดซื้อจัดจ้างตามกระบวนการขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติเบื้องต้นจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ฯ ยืนยันว่าสภาพของสะพานนั้นยังคงสามารถใช้ในการสัญจรได้ตามปกติ แต่ที่ต้องรีบดำเนินการซ่อมแซมแก้ไขให้เร็วที่สุดเพราะจะได้ไม่ต้องปิดสะพานจนกระทบต่อการสัญจรของพี่น้องประชาชน อย่างไรก็ดี หากปล่อยไว้นานกว่านี้ อาจจะต้องทำการซ่อมแซมมากขึ้นจนต้องปิดสะพาน ทำให้ส่งผลกระทบต่อการสัญจรของพี่น้องประชาชนที่ต้องใช้สะพานข้ามคลองมหาชัยได้
ด้าน นายพิชิตชัย หอมหงษ์ นายช่างโยธาชำนาญงาน แขวงทางหลวงชนบทสมุทรสาคร ชี้แจงว่า สำหรับความเสียหายที่เห็นนี้ คิดเป็นประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ เป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นภายนอก ส่วนโครงการสร้างโดยรวมยังคงมีความแข็งแรง ซึ่งต้นเหตุที่ทำให้เกิดความเสียหายนั้น นอกจากระยะเวลาที่ใช้งานมายาวนานแล้ว ยังมาจากน้ำที่ไหลลงมาหรือซึมลงมาจากด้านบนสะพาน ที่เป็นทั้งน้ำเมือกปลา และรถบรรทุกน้ำเค็มต่างๆ แทรกผ่านจุดเชื่อมต่อทำให้เกิดสนิม รวมถึงความเค็มของน้ำทะเลกัดกร่อนด้วย
ส่วนในเรื่องของการออกแบบเพื่อการซ่อมแซมนั้น นายพิชิตชัยระบุว่า ทางหลวงชนบทได้ดำเนินการออกแบบเสร็จแล้ว และจะส่งมอบให้เทศบาลนครสมุทรสาครต่อไปในเร็วๆ นี้ คาดว่าภายในสัปดาห์หน้านี้ก็จะส่งมอบได้อย่างแน่นอน โดยเหตุที่ก่อนหน้านี้มีความล่าช้าในเรื่องของการส่งมอบแบบ เพราะต้องเป็นไปตามขั้นตอนของการเซ็นต์อนุมัติ ส่วนการซ่อมแซมนั้นถ้าดำเนินการในช่วงนี้จะเป็นการซ่อมแซมตามแบบของวิศวกรโยธาฯ ที่ไม่ต้องปิดถนนจึงไม่กระทบกับการสัญจรของพี่น้องประชาชน ขณะที่พี่น้องประชาชนหลายคนเห็นว่า อยากให้มีการสร้างใหม่แทนการซ่อมแซม ก็ขอยืนยันว่า การสร้างใหม่ในพื้นที่เดิมแห่งนี้จะก่อให้เกิดผลกระทบอย่างหนักต่อการจราจรเส้นนี้ และการตรวจสภาพของถนนแล้ว พบว่ายังคงมีโครงสร้างที่แข็งแรงดี จึงไม่จำเป็นต้องสร้างใหม่ แต่ต้องมีการบำรุงรักษาดูแลซ่อมแซมอย่างต่อเนื่อง ก็สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย
ขณะที่ นายชุมพล จันทร์จรัสวัฒนา นายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร กล่าวเสริมว่า ปัญหาเรื่องของสะพานข้ามคลองมหาชัยแห่งนี้ ทางเทศบาลฯ ได้รับการร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนเข้ามาเป็นจำนวนมากและหลายครั้งแล้ว โดยทั้งนี้ทางเทศบาลฯ ก็ได้เตรียมจัดทำงบเพื่อดำเนินการซ่อมแซมไว้แล้ว รอเพียงแค่ให้ทางหลวงชนบทฯ ส่งมอบแบบมาให้เท่านั้น เพราะการออกแบบซ่อมแซมสะพานเส้นนี้ เป็นเรื่องที่เกินความสามารถของเทศบาลฯ ซึ่งหากเทศบาลนครสมุทรสาครได้รับแบบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็จะรีบนำเข้าสู่การประชุมสภาฯ เพื่อขอความเห็นชอบอนุมัติงบประมาณพร้อมกับประกาศจัดซื้อจัดจ้างตามลำดับขั้นตอนทันที โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณในการซ่อมแซมไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท