คุมตัว เสี่ยบี ส่งศาลพัทยา เจ้าตัวลั่นขอโทษพร้อมจะเยียวยาทุกคน ด้านทนายเตรียมเงินสดและหลักทรัพย์ ยื่นประกัน
จากเหตุการณ์โศกนาฏกรรม ไฟไหม้ เมาน์เท่น บี ผับ หมู่ 7 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 15 คน และ บาดเจ็บ 38 คน ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยสีแดงใส่ท่อช่วยหายใจ 16 ราย ผู้ป่วยสีเหลือง 14 ราย และผู้ป่วยสีเขียว 4 ราย ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. ของ วันที่ 8 ส.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้คุมตัว นายพงศ์ศิริ ปั้นประสงค์ หรือ เสี่ยบี อายุ 27 ปี เจ้าของผับเมาน์เท่น บี ไปฝากขังศาลพัทยา ตามหมายเลขคดีที่ 355/2565 โดยกล่าวหาว่า 1.ประมาทจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และ 2.ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยสั่งค้านประกันตัวในชั้นสอบสวน เนื่องจากเป็นคดีอาญา
โดย นายพงศ์ศิริ ขณะนั่งอยู่บนรถขนผู้ต้องหา ได้กล่าวขอโทษกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมจะเยียวยาทุกคนอย่างเต็มที่
ทั้งนี้มีรายงานว่า นายอนุชา วงศ์ศรีรัตน์ ทนายความส่วนตัว ได้มีการเตรียมเงินสดและหลักทรัพย์จำนวนหนึ่ง เพื่อจะยื่นขอประกันตัว นายพงศ์ศิริ ปั้นประสงค์ หรือ เสี่ยบี ตามกระบวนการขั้นตอนความยุติธรรมต่อไป
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองพิสูจน์หลักฐาน ได้เดินทางมาประชุมที่ สภ.พลูตาหลวง ในการเตรียมตรวจสาเหตุเพลิงไหม้ที่เมาน์เท่น บี ผับ หลังจากได้มีการเตรียมความพร้อมตั้งอุปกรณ์ในการตรวจบริเวณด้านบนหลังคาของผับ ส่วนบริเวณจุดเกิดเหตุเพลิงไหม้ร้าน “เมาน์เท่น บี ผับ” อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีการติดตั้งนั่งร้านเสร็จเรียบร้อยแล้วเพื่อรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่ผังเมือง ร่วมกองช่างเทศบาลเมืองสัตหีบ ใช้ในการตรวจสอบพยานหลักฐาน และโครงสร้างหลังคาในมุมสูง รวมทั้งยกหลังคาร้านออกในวันนี้
เนื่องจากที่ผ่านมาการเข้าตรวจพื้นที่ด้านในอาจสร้างอันตรายแก่เจ้าหน้าที่ได้ พนักงานสอบสวนและสืบสวน เพื่อติดตามความคืบหน้าในการรวบรวมพยานหลักฐานให้รัดกุมและครบถ้วนในการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด รวมทั้งพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องโดยช่วงเช้าได้มีการเรียกประชุม เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองพิสูจน์หลักฐาน ภาค 2 เพื่อลงพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อหาพยานหลักฐานในมุมสูง และภายในตัวอาคาร
โดยด้านหน้าผับ เมาน์เท่น บี ได้มีคนนำพวงหรีด ระบุข้อความ “R I P เจ้าของกิจการเมาน์เท่น บี” มาวาง ประกอบกับมีชาวบ้านและครอบครัวผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต มาวางดอกไม้เพื่อไว้อาลัยอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พลูตาหลวง ที่นั่งเฝ้าจุดเกิดเหตุ ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันเกิดเหตุ ดูแลความปลอดภัยรักษาพื้นที่โดยรอบ