ลำปาง-สองเขื่อนใหญ่ขยับ ปล่อยน้ำออกครั้งที่ 2 เร่งพร่องน้ำลงแม่วัง รับมือพายุมู่หลานและร่องมรสุม พบเมื่อวานนี้น้ำทะลักเข้าวันเดียว 13 ล้าน ลบ.ม. การเกษตรมีผลกระทบแล้ว 80 ไร่ เหตุเขื่อนปล่อยน้ำ
เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ประชุมติดตามและประเมินสถานการณ์ ร่วมกับหน่วยงานชลประทานในพื้นที่ จ.ลำปาง ทั้งผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 2, โครงการชลประทานลำปาง โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากิ่วลม-กิ่วคอหมา สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำปาง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกหลายภาคส่วน รวมถึงผู้นำชุมชนและตัวแทนชาวบ้านจาก อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง พื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบจากการปล่อยน้ำของเขื่อนใหญ่ในพื้นที่ จ.ลำปาง เพื่อพร้อมรับมืออิทธิผลพายุมู่หลานและร่องมรสุมที่จะทำให้พื้นที่ภาคเหนือเกิดฝนตกหนักระหว่างวันที่ 12-13 สิงหาคม
ในที่ประชุมมีการรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่ พบว่าเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องหลายช่วง ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา ทำให้เขื่อนใหญ่ในพื้นที่ จ.ลำปาง ได้แก่ เขื่อนกิ่วคอหมา อ.แจ้ห่ม และ เขื่อนกิ่วลม อ.เมือง มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนต่อเนื่องและมากขึ้นจนเกินความจุ โดยเฉพาะเขื่อนกิ่วคอหมามีน้ำไหลเข้ามาก และปริมาณน้ำในเขื่อนเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 95 ของความจุ 170 ล้านลูกบาศ์กเมตร หลังเกิดฝนตกหนัก และเกิดอุทกภัยในพื้นที่อำเภอตอนบนของ จ.ลำปาง ทำให้เขื่อนจำเป็นต้องเร่งระบายน้ำออกอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนที่ผ่านมา เพื่อไม่ให้เกิดล้นความจุ และเป็นการเตรียมพร้อมรองรับน้ำใหม่ ตลอดจนสถานการณ์ฝนตกหนักที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงฤดูฝนปีนี้
ขณะที่วันนี้ (11 ส.ค.) เขื่อนกิ่วคอหมา ได้ยกระดับการปล่อยน้ำเพิ่มขึ้นอีกครั้ง โดยขยับจาก 2 วันก่อน คือ วันที่ 9 สิงหาคม ปล่อยน้ำในอัตรา 60 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที มาเป็น 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อเร่งพร่องน้ำลงสู่แม่น้ำวัง รับมือกับพายุมู่หลานและร่องมรสุมที่อาจจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ ขณะนี้เขื่อนกิ่วคอหมามีปริมาณน้ำ 143.526 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 84.28 % โดยเมื่อวานเพียงวันเดียวน้ำไหลเข้าเขื่อนมากถึง 13 ล้านลูกบาศก์เมตร
ส่วน เขื่อนกิ่วลม มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 80.054 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 75.37% เดิมทีเมื่อ 4 วันก่อน คือวันที่ 7 สิงหาคม มีการปล่อยน้ำ 95 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่เนื่องจากเขื่อนกิ่วคอหมาตั้งอยู่ตอนบนได้เพิ่มระดับการปล่อยน้ำลงมา ทำให้เขื่อนกิ่วลมที่อยู่ด้านล่างต้องเพิ่มระดับการปล่อยน้ำอีก ซึ่งวันนี้มีการปล่อยลงสู่แม่น้ำวังปริมาณ 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และจะขยับไปจนถึง 150 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อเร่งระบายลงสู่แม่น้ำวัง
ผู้ว่าฯลำปางยืนยันว่า การปล่อยน้ำของเขื่อนกิ่วลมในปริมาณดังกล่าวจะไม่กระทบต่อพื้นที่ริมตลิ่ง หรือบ้านเรือนราษฎร เพราะยังอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ส่งผลกระทบ แต่การปล่อยน้ำของเขื่อนกิ่วคอหมาอาจจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ริมตลิ่ง และพื้นที่เพาะปลูกแล้วประมาณ 80 ไร่ กระจายใน 4 ตำบล อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง โดยผู้นำชุมชนและตัวแทนชาวบ้านที่เข้าร่วมรับฟังการประชุมเกิดความเข้าใจที่ตรงกันว่า เขื่อนทั้ง 2 แห่ง ได้รองรับน้ำป่าที่หลากทะลักลงมาจากยอดเขาสูงทางตอนบนของจังหวัด หากไม่มีเขื่อนรับน้ำ น้ำป่าก็จะทะลักท่วมพื้นที่เป็นบริเวณกว้างเหมือนกับในอดีตที่ยังไม่มีเขื่อน ทั้งนี้ ยังมีผลกระทบต่อพื้นที่เพาะปลูกส่วนใหญ่เป็นไร่ข้าวโพด นาข้าว และพื้นที่ปลูกแตงกวา ชาวบ้านและเกษตรกรยอมรับได้ และขอให้ชลประทานอย่าปล่อยน้ำจากเขื่อนกิ่วคอหมามากกว่า 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพราะอาจกระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำมากขึ้น
ส่วนการช่วยเหลือเยียวยานั้น ในการประชุมวันนี้ ผู้ว่าฯลำปางได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งเกษตรและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อเตรียมช่วยเหลือและเยียวยาพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากการปล่อยน้ำในครั้งนี้ต่อไป
อย่างไรก็ตาม วันที่ 11-17 สิงหาคมนี้ ทางจังหวัดจะติดตามสถานการณ์ฝนตกหนักจากอิทธิผลของพายุมู่หลาน และร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนืออย่างใกล้ชิด ซึ่งหน่วยงานชลประทานในจังหวัดจะได้บริหารจัดการน้ำอย่างดีที่สุด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ และควบคุมป้องกันบรรเทาอุทกภัยไม่ให้เกิดขึ้นในพื้นที่
