ตำรวจเร่งล่าคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทองกลางห้างราชบุรี กวาดไปได้ 26 บาท รวมมูลค่ากว่า 7 แสน
เมื่อเวลา 18.40 น. วันที่ 11 สิงหาคม 65 พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ วงศ์เกตใจ ผกก.สภ.บ้านโป่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายสืบ ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ หลังได้รับแจ้ง มีคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ร้านทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ที่เกิดเหตุเป็นร้านทอง มีพนักงานภายในร้านจำนวน 4 คน กำลังอยู่ในอาการตกใจ
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจสอบภายในร้านทอง หาลอยนิ้วมือแฝง และ ดูภาพจากกล่องวงจรปิด ภายในร้านและบริเวณที่เกิดเหตุทั้งหมดเพื่อรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกเหตุการณ์วินาทีที่คนร้ายก่อเหตุไว้ได้ พบว่าเมื่อช่วงเวลาประมาณ 18.44 น. คนร้ายเป็นชายรูปร่างสันทัดสูงประมาณ 160 เซนติเมตร สวมแจ๊คเก็ตสีขาว กางเกงขายาวสีดำ สวมถุงมือสีน้ำเงิน สวมหมวกแก๊ปสีดำ สะพายกระเป๋าสีน้ำตาล บุกเข้ามาผลักตัวพนักงานหญิงสาวภายในร้านจนล้มลงก่อนจะจู่โจมเข้ามากวาดสร้อยทองมูลค่า 26 บาท จากนั้นได้รีบวิ่งออกจากนอกร้านไปอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาก่อเหตุประมาณ 1 นาที
จากการสอบถาม พนักงานร้านทอง เล่าว่า เมื่อช่วงเวลาดังกล่าวพวกตนกำลังยืนปฏิบัติงานกันตามปกติ และช่วงเวลานั้นคนจะน้อย มีชายรูปร่างสูง ตามภาพในกล้องวงจรปิด เดินเข้ามาประชิดพนักงานบริเวณประตูทางเข้าด้านข้างร้านจากนั้นเปิดเสื้อโชว์ปืนที่เหน็บอยู่ที่เอว ทำให้พวกตนเกิดความกลัวและตกใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนจะถูกคนร้ายผลักล้มลงและมาอยู่อัดรวมกัน จากนั้นคนร้ายได้กวาดทองที่แขวนอยู่ในถาด ใส่กระเป๋าที่สะพายมา แล้วรีบกระโจนวิ่งหนีออกไปอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาก่อเหตุ 1 นาที จากนั้นได้มาตรวจสอบทองที่หายไปพบ เป็นสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท จำนวน 13 เส้น รวม 26 บาท มูลค่ารวม 759,538 บาท
จากการสอบถามนายศิลา วรภักดี อายุ 47 ปี 1 ในผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนกำลังยืนขายของให้กับลูกค้าซึ่งอยู่บริเวณหน้าร้านทอง ช่วงเวลาดังกล่าวไม่ค่อยมีผู้คนพลุกพล่าน จังหวะเกิดเหตุตนหันไปเห็นคนร้ายกำลังกวาดทองและรีบวิ่งออกจากหน้าร้านไปทางประตูด้านข้าง ใช้เวลาก่อเหตุสั้นมากประมาณ 1 นาทีเท่านั้นเอง แต่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ วงศ์เกตใจ ผกก.สภ.บ้านโป่ง พร้อมด้วย ผู้จัดการห้างบิ๊กซี สาขาบ้านโป่ง เข้าตรวจสอบร่องรอยของคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุ พบว่าคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีขาว มีแผ่นป้ายทะเบียน แต่ไม่ทราบหมวดอักษรมาจอดที่บริเวณด้านข้างตรงประตูทางออกด้านข้างอาคารทางฝั่งขวา จากนั้นคนร้ายได้เดินไปเข้าทางประตู ทางเข้าที่ 1 ก่อนจะเดินตรงเข้าไปที่ร้านทอง และก่อเหตุดังกล่าว ก่อนจะรีบวิ่งหนีออกมาทางประตูทางออกบ้านข้างจุดที่จอดรถเอาไว้ก่อนจะรีบขี่รถจักรยานยนต์หนีไปอย่างลอยนวล
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเก็บรวบรวมหลักฐานโดยรอบ และพยานบุคคล ผู้เห็นเหตุการณ์ พร้อมทั้งเร่งแกะลอยภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
