ชลประทานโคราชยัน ระดับน้ำเหนือฝายน้ำล้น อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร แนวโน้มลดลงต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม โครงการชลประทานนคราชสีมา ออกประกาศด่วนที่สุด แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร ตอนบน อ.ด่านขุดทด จ.นครราชสีมา ว่า จากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “มู่หลาน” ที่มีศูนย์กลางอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะไหหลำ ประเทศจีน ได้เคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน และอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน ประกอบกับอิทธิพลของร่องมรสุมที่พาดผ่านพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ช่วงวันที่ 11-13 สิงหาคม 2565 มีฝนตกหนักถึงหนักมาก
จากลักษณะอากาศดังกล่าวทำให้จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง โดยเฉพาะหลายพื้นที่ในจังหวัดนครราชสีมา เช่นที่ อ.ด่านขุนทด และ อ.เทพารักษ์ มีฝนตกหนัก และจากการตรวจสอบล่าสุด พบว่า บริเวณเหนืออ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนบน อ.ด่านขุนทด ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำฝน มีฝนตกที่สถานีหัวงานอ่างเก็บน้ำลำเซียงไกร ตอนบน วัดได้ 42.0 มิลลิเมตร มีปริมาณน้ำท่าไหลลงอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร ตอนบน อย่างต่อเนื่อง และไหลล้นผ่านฝายน้ำล้น หรือทางระบายน้ำฉุกเฉิน ในอัตรา 22.5 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และมีแนวโน้มไหลลงเพิ่มมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนบนมีระดับน้ำอยู่ที่ 9.36 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 111.43 % เกินความจุกักเก็บ
หากจำเป็นต้องเพิ่มอัตราการระบายผ่านทางประตูระบายน้ำ (Radial Gate spillway) มากขึ้น ทางโครงการชลประทานนครราชสีมาจะแจ้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดให้ทราบโดยเร็ว เพื่อรักษาเสถียรภาพความมั่นคงและความปลอดภัยของอ่างเก็บน้ำ
ส่วนอัตราการระบายน้ำที่ระบายออกจากอ่างเก็บน้ำลงสู่ลำน้ำลำเชียงไกรจะบริหารจัดการไม่ให้เกิดผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนบน ได้แก่ พื้นที่ ต.บ้านเก่า ต.ตะเคียน ต.หนองบัวตะเกียด ต.หนองบัวละคร และ ต.ด่านขุนทด อ.ด่านขุนทด แต่ต้องขอแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำท้ายอ่างเก็บน้ำได้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนบน และติดตามประกาศจากกมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือน้ำเอ่อล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนและพื้นที่เกษตรเอาไว้ด้วย
ล่าสุด เมื่อเวลา 09.58 น.ที่ผ่านมา โครงการชลประทานนครราชสีมารายงานสถานการณ์น้ำล้นฝายน้ำล้น อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรมีแนวโน้มลดลง พร้อมระบุว่า จากน้ำบ่าไหลหลากจากพื้นที่รับน้ำตอนบน อ.เทพารักษ์ ทำให้น้ำไหลล้นฝายน้ำล้น (ทางระบายน้ำฉุกเฉิน) อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนบน ในวันที่ 11 ส.ค.2565 และเพิ่มขึ้นสูงสุดเวลา 17.30 น. ในวันเดียวกัน ในอัตราการ 38.86 ลบ.ม. ต่อวินาที
วันนี้ (12 ส.ค.) เวลา 09.30 น. ระดับน้ำเหนือฝายน้ำล้นลดลง และยังไม่มีการไหลล้นฝาย ในอัตรา 28.11 ลบ.ม.ต่อวินาที และมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร ตอนบน มีปริมาณน้ำ 9.25 ล้าน ลบ.ม. หรือ 110.11% ของความจุเก็บกัก เนื่องจากขนาดอ่างมีขนาดเล็ก เมื่อเทียบกับปริมาณน้ำไหลลงอ่าง แต่สามารถทำหน้าที่ลดผลกระทบจากน้ำบ่าไหลหลากได้ โดยการรับน้ำไหลบ่าหลาก แล้วหน่วงน้ำ พร้อมกรองจากน้ำไหลบ่าหลากให้เข้าสู่ระบบเป็นน้ำท่าไหลลงลำน้ำลงด้านท้ายน้ำ เป็นแนวทางการบริหารจัดการน้ำในลำน้ำสาธารณะนอกเขตชลประทานในลักษณะลุ่มน้ำต่อไป (ในอนาคตควรมีหน่วยงานที่รับผิดชอบในทางปฏิบัติโดยตรง)
