แม่น้องอาย ขอส่งลูกให้ดีที่สุด หวังใช้เรื่องนี้เป็นบทเรียน ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์นี้กับใครอีก
เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม จากเหตุการณ์นักศึกษาคณะแพทย์ ชั้นปีที่ 2 ถูกรถบัสคณะพยาบาลชนเสียชีวิต โดยที่เกิดเหตุ บริเวณสามแยกคณะพยาบาลเภสัชศาสตร์ รถบัสคณะพยาบาลศาสตร์กำลังเลี้ยวขวา ก่อนที่พุ่งชนรถจักรยานยนต์นักศึกษาคณะแพทย์ ที่จอดรออยู่สามแยกทำให้มีผู้เสียชีวิตบริเวณจุดเกิดเหตุ 1 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา ผู้เสียชีวิตคือ นศพ.อรุณนภา วัฒนพานิช อายุ 19 ปี นักศึกษาแพทย์ ชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยขอนแก่น หลังจากประสบอุบัติเหตุ รถทัวร์คณะพยาบาลเฉี่ยวชนและเหยียบซ้ำทำให้เสียชีวิต
สำหรับเหตุการณ์นี้ นิตยา รุ่งสถิต คุณแม่ของน้องอาย นศพ.อรุณนภา วัฒนพานิช ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากได้จัดพิธีรดน้ำให้น้องอาย ตอนนี้ได้พาน้องมาจัดพิธีสวดพระอภิธรรม โดยจะมีการตั้งสวดพระอภิธรรม ที่วัดป่าจัดสรรค์ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ทั้งหมด 3 วัน คือวันที่ 11 สิงหาคม วันที่ 13 สิงหาคม และวันที่ 14 สิงหาคม และจะส่งน้องขึ้นสวรรค์ วันจันทร์ที่ 15 สิงหาคม เวลา 16.00 น. ซึ่งในวันที่ 12 สิงหาคม ไม่มีการสวดพระอภิธรรม แต่ได้มีการเลี้ยงเพลพระ 1 วัน และงดสวดพระอภิธรรม 1 วัน โดยวันนี้พี่สาวอีก 2 คน ซึ่งเดินทางมาถึงแล้ว ก็เลยชวนมาอยู่เป็นเพื่อนน้องด้วยกัน แม่มีลูกสาวด้วยกัน 3 คน น้องอายเป็นคนเล็กสุด ตอนนี้พี่ทั้งสองคนก็มาหาน้องแล้ว
นิตยายังกล่าวกับผู้สื่อข่าวอีกว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องกะทันหัน ตอนนี้ทุกคนโฟกัสมาที่การส่งน้องอายให้ดีที่สุด ส่วนทางมหาวิทยาลัย ถ้าเป็นเรื่องของการชดเชย ยังไม่ได้คุยกันตรงนั้น แต่ในขั้นต้นทุกฝ่ายแสดงความเสียใจและดูแลในเรื่องของพิธีการ และจัดงานต่างๆ ตอนนี้ทุกฝ่ายก็ช่วยกันดูแล ซึ่งก็โอเคที่ทางคณะก็มาดูแลมาช่วยเหลือมาพูดคุยให้กำลังใจ คือทุกฝ่ายก็เสียใจอย่างที่ได้เรียนไปเบื้องต้นแล้ว
“ในส่วนเรื่องของค่าเสียหาย หรือการรับผิดชอบจากทางมหาวิทยาลัย ตอนนี้เรายังไม่พูด ก็คงจะต้องเป็นหลังจากส่งน้องอายให้เรียบร้อยก่อน เพราะว่าตอนนี้แม่ว่าทุกคนจะโฟกัสมาที่ตัวของน้อง ว่าจะทำยังไงให้เขาไปดีที่สุด ซึ่งแม่เองตอนนี้ก็โฟกัสแค่ตรงนั้นอย่างเดียว ทางครอบครัวเราก็ยังทำใจไม่ได้ เราก็ทำใจยากอยู่ ซึ่งวันจันทร์ที่ 15 นี้ เวลา 16.00 น. ก็จะร่วมกันส่งน้องไปให้ดีที่สุดโดยไม่ให้น้องมีห่วง เขามาอย่างบริสุทธิ์ก็จะให้น้องไปอย่างบริสุทธิ์”
ทั้งยังฝากว่า สำหรับคุณแม่แล้ว หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น คนก็เมตตาเขาเยอะขึ้น แม่ได้รู้ว่ามีคนรักเขามาก
“สำหรับเหตุการณ์นี้ที่เกิดขึ้นก็ให้ทางมหาวิทยาลัยดำเนินการ เพียงแต่ว่าเรื่องลูกของเราเข้าไปเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ แม่เลยว่าไม่เป็นไรจบเรื่องของลูก มันแก้ไขอะไรไม่ได้ แต่ขอให้เขาเอาเรื่องนี้เป็นบทเรียนในการที่เขาจะไปคิดทบทวน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ซ้ำๆ”
“เราไม่อยากให้ไปเกิดขึ้นกับใครและไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก มันไม่ใช่ว่าเกิดขึ้นกับลูกของเรา คือกับใครมันก็ไม่ควรเกิด และมันเป็นเรื่องที่มันควรจะต้องป้องกันได้ มันเป็นเรื่องที่มันมีระบบต่างๆ ที่สามารถทำได้ก็ควรทำเถอะ เพื่อที่ว่าอย่างน้อยๆ ถ้ามันมีผิดพลาดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ถ้าครั้งต่อไปการผิดพลาดมันก็ไม่ควรที่จะเป็นเรื่องเดิม อาจจะต้องไปเป็นผิดพลาดเรื่องอื่น ไปแก้ไขเรื่องอื่น”
“เรื่องที่มันเกิดขึ้นแล้วก็แก้ไขซะ ความรู้สึกของคนเป็นแม่มันสุดสุดนะ กับคนคนนึง กับหัวใจดวงนึงที่เราถนอมเขามา แต่พูดไปมันก็ไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว เพียงแค่มันอยู่ตรงหน้าแล้วต้องเผชิญกับมันและทำให้มันดีที่สุด ณ วันนี้ คือส่งให้เขาโล่งที่สุด ไม่ให้เขามีความห่วง ความกังวลใดๆ เขามาอย่างบริสุทธิ์ ก็ให้เขาไปอย่างบริสุทธิ์” นิตยากล่าว
