พ่อตามาเยี่ยมได้ 2 วัน ถูกแก๊งแจ๊กเก็ตดำ ยิงดับคาวงข้าวเย็น ลูกสาวเจ็บ-เขยหนีทัน

พ่อตามาเยี่ยมได้ 2 วัน ถูกแก๊งแจ๊กเก็ตดำ ยิงดับคาวงข้าวเย็น ลูกสาวเจ็บ-เขยหนีทัน

คนร้ายขับ จยย.ซ้อน 3 สวมเสื้อแจ๊กเก็ตดำจอดหน้าบ้านรถชัก 9 มม.กระหน่ำยิงพ่อวัย 60 ปี สิ้นใจคาที่ หลังเพิ่งพ้นโทษได้เพียง 2 เดือน ส่วนลูกสาวบาดเจ็บ ลูกเขยวิ่งหนีห่ากระสุนเอาตัวรอด ขณะนั่งล้อมวงกินข้าวบริเวณภายในค่ายไก่ชน ก่อนย่องเข้าพบมาตำรวจ ด้าน ผู้การฯ ตรังลงพื้นที่สั่งการไล่ล่าแก๊งคนร้ายไขปมก่อเหตุ พลิกแฟ้มประวัติทั้ง 3 ราย เคยถูกจับกุมในคดียาเสพติด เมื่อปี 64 ที่ผ่านมา

เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. วันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา ร.ต.อ.สุวัฒน์ เชื่อเมือง รอง สว. (สอบสวน) สภ.บ้านในควน อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงมีคนเสียชีวิตคาที่และได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เหตุเกิดบริเวณบ้านไม่มีเลขที่ ตโพรงจระเข้

หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมกำลังชุดสืบสวน ภ.จว.ตรัง (ชปส..ตรัง) กก.สส.3 บก.สส.ภ.9 และเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ชีพร่วมใจย่านตาขาว รุดไปตรวจสอบ

ถึงที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ภายในบ้านพบร่างของ นายสมพงษ์ อายุ 60 ปี นอนหงายหน้าเสียชีวิตในสภาพนุ่งผ้าขาวม้าสีแดงผืนเดียว ถูกยิงด้วยอาวุธปืน

Advertisement

ส่วนผู้บาดเจ็บ คือ น.ส.สุภัค อายุ 36 ปี เป็นลูกสาวของผู้เสียชีวิตถูกยิงด้วยอาวุธปืน ทราบว่าพลเมืองดีนำส่ง รพ.ย่านตาขาว ไปก่อนหน้าแล้ว ตรวจสอบในที่เกิดเหตุบริเวณบนถนนห่างออกไปจากหน้าบ้านประมาณ 100 เมตร พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่จำนวน 4 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

  • ผู้ตายเดินทางมาเยี่ยวลูกสาวได้เพียง 2 วัน ก่อนเกิดเหตุ ยังไม่ทราบแรงจูงใจของคนร้าย

ขณะที่แนวทางการสืบสวนในเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ทีบ้านหลังเกิดเหตุเป็นที่พักอาศัยของ นายสมปอง หรือไก่ อายุ 48 ปี สามีของ น.ส.สุภัค ผู้บาดเจ็บ โดยก่อนหน้าประมาณ 2 วัน พ่อคือ นายสมพงษ์ ผู้ตายได้เดินทางจาก จ.นครศรีธรรมราช เพื่อมาเยี่ยม น.ส.สุภัค

ขณะเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 21.30 น. ขณะที่ นายสมพงษ์ (ผู้ตาย) น.ส.สุภัค (คนเจ็บ) สองพ่อลูก และนายสมปอง ลูกเขยกำลังนั่งล้อมวงกินข้าวอยู่ที่บ้านเกิดเหตุ โดยที่ประตูหน้าบ้านเปิดอยู่ ได้มีคนร้ายขับรถ จยย.สีแดง ไม่ทราบยี่ห้อ สวมเสื้อแจ๊กเก็ตสีดำแบบคอวูด ซ้อนท้ายมาด้วยกัน 3 ราย มาจอดบริเวณบนถนนหน้าบ้านและมีคนร้ายเข้ามาในบ้านใช้อาวุธปืนพกสั้น ก่อเหตุยิงนายสมพงษ์ เสียชีวิต และน.ส.สุภัคฯได้รับบาดเจ็บ ส่วนนายสมปอง หรือไก่ ที่นั่งล้อมวงกินข้าวอยู่ภายในบ้านไหวตัวทันวิ่งหลบหนีไปทางหลังบ้าน ก่อนเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ ตร. ส่วนคนร้ายหลังก่อเหตุได้หลบหนีไป

ต่อมาในช่วงเช้าเวลา 10.00 น.วันนี้ 13 สิงหาคม พล.ต.ต.สันทัด วินสน ผบก.ภ.จว.ตรัง ได้เดินทางลงตรวจสอบที่เกิดเหตุ และได้สอบถามพูดคุยกับ นายสมโชค  อายุ 39 ปี น้องชายของนายสมปอง หรือไก่ มีบ้านอยู่ติดกัน โดยส่วนหลังบ้านนายสมโชคได้เปิดเป็นค่ายไก่ชน ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุไปเพียง 10 เมตร

เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.ตรัง อยู่ในระหว่างลงตรวจสอบหาพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ และสั่งไล่ภาพจากล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนีเพื่อประกอบเชื่อมโยงหลักฐานคดี ส่วนปมเหตุยังไม่สามารถระบุได้กำลังอยู่ในระหว่างสืบสวนสอบสวน

ด้าน นายสมโชค น้องชายนายไก่ เล่าว่า ตอนเกิดเหตุตนกำลังนอนอยู่ในบ้าน หลังจากนั้นไม่นานได้ยินเสียงปืนดังประมาณ 3-4 นัด ซึ่งตอนนั้นยังคงหลบอยู่ในบ้าน ก่อนที่ นายไก่ พี่ชายจะมาเรียก ให้ไปเอารถออกมาช่วยพาคนเจ็บไป รพ. ส่วนคนตายเพิ่งเดินทางมาได้ 2 วัน คือเมื่อวันที่ 12 ส.ค.65 ที่ผ่านมา และเคยมาแค่ 2 ครั้งเท่านั้น ตนก็ไม่รู้สาเหตุว่าใครคิดปองร้ายนายไก่พี่ชาย ตามปกติตนกับพี่ชายก็ไม่ค่อยสุงสิงกันเท่าไหร่ต่างคนต่างทำงานมากกว่า

ขณะที่ นายวิทยา สมบัติทอง ผู้ใหญ่บ้าน ม.1.ต.โพรงจระเข้ เผยว่า เมื่อคืนได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุยิงกันที่บ้านหลังดังกล่าว มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ส่วนคนเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้แล้ว จากการลงตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับที่ตำรวจนั้นบนถนนพบปลอกกระสุน ห่างจากบ้านหลังเกิดประมาณ 10 เมตร ซึ่งคาดว่าน่าจะยิงมาจากหน้าด้านหน้าบ้านเพราะมีรอยกระสุนที่ประตูและขอบประตู ผู้เสียชีวิตเป็นพ่อตาของเจ้าของบ้านเพิ่งมาอยู่ที่บ้านนี้ได้ไม่นาน ก็มาเกิดเหตุสลดดังกล่าวในหมู่บ้าน

นายวิทยา กล่าวด้วยว่า นายสมปอง หรือไก่ นั้นส่วนตัวตนไม่ได้สัมผัสคลุกคลีกันเท่าไหร่ ก็เคยเห็นใช้ชีวิตอยู่ในหมู่บ้านตามปกติ ส่วนเรื่องปัญหาที่จะขัดแย้งกับใครส่วนตัวตนไม่ทราบ ปกตินายไก่ก็ประกอบอาชีพกรีดยางพาราและหาผักไปขาย ซึ่งขณะนี้ก็ต้องรอเจ้าหน้าที่ ตร.ทำการสืบสวนหาสาเหตุ ตนยอมรับว่าในหมู่บ้านมียาเสพติดเยอะ แต่ตนไม่รู้ว่าจะเกี่ยวข้องกับสาเหตุขัดแย้งเรื่องยาเสพติดหรือไม่

ข่าวคืบหน้าล่าสุด เวลา 15.00 น.วันนี้ ที่ สภ.ในควน ทางพนักงานสอบสวน ได้เชิญตัวผู้เสียหายและพยานมาให้ปากคำแล้ว 3 ราย คือ นายสมปอง หรือไก่ น.ส.สุภัค ผู้บาดเจ็บที่เพิ่งออกจาก รพ. และ นายสมโชค เจ้าของค่ายไก่ชน แต่ก็ยังไม่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีในการเชื่อมโยงสาเหตุและกลุ่มผู้ต้องสงสัย

  • พลิกแฟ้ม พ่อตา ลูกสาว และลูกเขย มีประวัติถูกจับกุมข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติด

จากการพลิกแฟ้มประวัติคดีอาญา พบว่า นายสมพงษ์ (ผู้ตาย) เคยถูกจับกุมข้อหาร่วมกันครอบครองเพื่อจำหน่ายและเสพยาเสพติด ประเภทที่ 1 ในท้องที่ของ สภ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช เมื่อปี พ.ศ.2564 เพิ่งพ้นโทษในคดีดังกล่าวมาได้เพียงแค่ 2 เดือน

ส่วนลูกสาว คือ น.ส.สุภัค (ผู้บาดเจ็บ) เคยถูกจุบกุมในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษ ประเภทที่ 1 ในท้องที่ของ สภ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช เมื่อปี พ.ศ.2564

และ นายสมปอง สามีที่เพิ่งคบหากันได้ประมาณ 4 เดือนเคยถูกจับกุมในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ในท้องที่ของ สภ.ย่านตาขาว จ.ตรัง เมื่อปี พ.ศ.2564 ซึ่งจะได้สืบสวนสอบสวนขยายผลต่อ ข่าวคืบหน้าจะรายงานต่อ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image