ตามรวบไอ้โม่งมืองัดเซฟห้างดังฉกเกือบ 2 ล้านหนีกบดานถึงภาคใต้ ก่อนเร่งหิ้วตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพสิ้น เผยขับรถเก๋งตระเวนดูลาดเลาตามห้างต่างๆ ในภาคอีสาน ที่ขอนแก่นและชัยภูมิ ก่อนลงมือก่อเหตุมาแล้ว 2 ครั้ง!
เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ความคืบหน้ากรณีคดีคนร้ายบุกเดี่ยวสวมไอ้โม่งใส่ชุดดำ บุกห้างคลังจำหน่ายสินค้าชื่อดังสิน 2000 ชัยภูมิ เพื่อเข้างัดเซฟกวาดเงินสดทรัพย์สินหลบหนีไปได้จำนวนมากเกือบ 2 ล้านบาท เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 7 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชัยภูมิ เร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ
พร้อมล่าสุดทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน สภ.เมืองชัยภูมิ เข้าตรวจในที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทั้งภูธรจังหวัดและสืบสวนเมืองชัยภูมิ เร่งแกะภาพจากกล้องวงจรปิดจนกระทั่งทราบตัวบุคคลผู้ก่อเหตุรายนี้แล้ว
ก่อนที่ทาง พ.ต.อ.อิทธิโชค เกิดผล รอง ผบก.ภ.จ.ชัยภูมิ พร้อมด้วย พ.ต.อ.เชษฐา เชยชุ่ม รอง ผบก.ภ.จว.รักษาการ ผกก.สภ.เมืองชัยภูมิได้สั่งการให้ พ.ต.อ.วรวรรธน์ ขันธ์เครือ ผกก.สส.ภ.จ.ชัยภูมิ ร่วมกับ พ.ต.ท.วรเชษฐ์ ป้องสุธาธาร รักษาราชการแทน รอง ผกก.สส.สภ.เมืองชัยภูมิ และ พ.ต.ท.จำรัส ไตรสูงเนินรักษาราชการแทน สว.สส.สภ.เมืองชัยภูมิ ร่วมกันวางแผนติดตามตัวคนร้ายรายนี้ กระทั่งแกะรอยจากภาพวงจรปิดทั้งในพื้นที่ และพื้นที่ใกล้เคียงพบว่าผู้ก่อเหตุมีทั้งหมด 2 คน จะเดินทางมาด้วยกัน ตระเวนก่อเหตุตามห้างต่างๆ ในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ บ่อยครั้งเพื่อดูลาดเลา
ซึ่งทั้ง 2 คน จะขับรถกระบะป้ายทะเบียน บล 5406 หมวดจังหวัดมหาสารคาม ขับไปตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ แต่ละพื้นที่ระหว่างเขตรอยต่อ จ.ขอนแก่น และ จ.ชัยภูมิ ซึ่งบางวันมีการเปลี่ยนป้ายทะเบียนออก จนกระทั่งพบผู้ต้องสงสัยเข้ามาซื้อน้ำในห้างสิน 2000 ห้างที่เกิดเหตุ ก่อนลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ได้งัดเซฟขโมยทั้งเงินสด สร้อยแหวน รวมมูลค่าเกือบ 2 ล้านบาท หลบหนีไปครั้งนี้
ด้านเจ้าหน้าที่จึงเร่งแกะรอยภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งในพื้นที่และต่างจังหวัด จนกระทั่งทราบชื่อผู้ร่วมกันก่อเหตุ รายแรกคือ นายประกาย สร้อยจรุง อายุ 32 ปี อาศัยบ้านเลขที่ 33 หมู่ที่ 10 ตำบลเขื่อนอุบลรัตน์ อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นคนขับรถ ทางเจ้าหน้าที่จึงออกหมายเรียก เจ้าตัวจึงเดินทางจากสมุทรปราการมาที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ เจ้าตัวจึงให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ขับรถมาดูลาดเลา
ก่อนที่จะให้ผู้ต้องหาอีกราย คือ นายวิเชียร อิ่มเสถียร อายุ 51 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 6 ตำบลหนองโก อำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น เป็นผู้สวมไอ้โม่งที่เข้าไปลงมือก่อเหตุดังกล่าว กระทั่งภาพจากกล้องวงจรปิดจับไว้ได้ ทางเจ้าหน้าที่จึงทำการขอหมายจับ นายวิเชียร อิ่มเสถียร ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ หลังจากที่ออกหมายแล้ว ทางเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าหลังก่อเหตุได้หลบหนีไปอยู่ที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ก่อนบุกจับตัวได้เมื่อช่วงเย็นวานนี้ที่ผ่านมา ก่อนควบคุมตัวมาแถลงข่าวและทำแผนประกอบคำรับสารภาพในวันนี้
โดยล่าสุดเช้าวันนี้ 16 สิงหาคม ทางด้าน พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ ใจสบาย รอง ผกก.สภ.เมืองชัยภูมิ และ ร.ต.อ.วัชรินทร์ หูชัยภูมิ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ ได้คุมตัวนายวิเชียร อิ่มเสถียร อายุ 51 ปี (มืองัดเซฟ) ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ จากการสอบถามนายวิเชียร ให้การรับสารภาพว่าตนตระเวนก่อเหตุจริง ซึ่งตนได้ก่อเหตุจำนวน 2 ครั้งแล้ว ซึ่งครั้งแรกก่อเหตุที่ชุมแพ แต่ไม่สามารถงัดเข้าไปได้ กระทั่งมาก่อเหตุที่ห้างสิน 2000 ที่ จ.ชัยภูมิ และก่อเหตุได้สำเร็จ เงินที่ได้จากการก่อเหตุทั้งหมดที่ห้างสิน 2000 ได้เงินไปกว่า 9 แสนบาท และ ทอง 3 บาท หลังจากที่ได้เงินก็จะนำไปเล่นใช้หนี้พนันออนไลน์และได้หลบหนีไปที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่ติดตามไปจับกุมตัว ซึ่งเหลือเงินเพียง 5 หมื่นบาท และ ทองคำ 1 เส้น จำนวน 3 บาท 50 สตางค์ ส่วนรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีดำ ป้ายทะเบียน ญษ 7659 กรุงเทพมหานคร ที่ตนขับนั้นเป็นรถของพี่สาว ยันไม่ใช่รถที่ตนขโมยเงินไปซื้อ
ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่จะคุมตัวไปชี้จุดที่ห้างสิน 2000 ซึ่งเป็นจุดที่ก่อเหตุ และจุดที่งัดเข้าไปภายในห้าง และจุดที่ 2 ซึ่งเป็นจุดบริเวณหน้าห้างที่หลบหนี
และจุดที่ 3 เป็นจุดบริเวณป่าข้างห้างสิน 2000 ซึ่งเป็นจุดที่เข้าไป และจุดที่ขับรถหลบหนีออกมาหลังจากที่ก่อเหตุเสร็จแล้ว ซึ่งนายวิเชียร ผู้ต้องหารายนี้ระบุว่าใช้เวลาก่อเหตุทั้งหมดราว 3 ชั่วโมง ตั้งแต่เข้ามาก่อเหตุและออกจากจุดเกิดเหตุ
ก่อนที่หลังจากนี้ทาง พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ ใจสบาย รอง ผกก.สภ.เมืองชัยภูมิ และ ร.ต.อ.วัชรินทร์ หูชัยภูมิ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ ได้คุมตัวมาชี้ของกลางที่เหลือ ก่อนแจ้งข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ และคุมตัวฝากขังที่ศาลจังหวัดชัยภูมิเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
