ทนกดดันจากเจ้าหน้าที่ไม่ไหวมือยิงอาก้า ติดต่อจากฝั่ง สปป.ลาว ขอมอบตัวแล้ว
อุบลราชธานี – จากกรณีแก๊งโจ๋เมืองอุบล 2 ฝ่าย นัดเคลียร์ใจไม่สำเร็จ ชักปืนยิงดวลสนั่นกลางลานจอดรถบริเวณด้านหน้าร้านพญายอจนมีผู้เสียชีวิต 2 รายและบาดเจ็บ 6 ราย หลังก่อเหตุ ตร.จับได้ 10 ราย ,อยู่ระหว่างหลบหนี 3 ราย ,มอบตัว 1 ราย และเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดมือยิงอาก้าที่หลบหนีไปลาวติดต่อมอบตัว
จากเหตุการณ์ระทึก กลุ่มโจ๋ 2 ฝ่าย ซึ่งเป็นการ์ดของสถานบันเทิง ก่อเหตุทะเลาะวิวาทยิงปืนใส่กัน บริเวณด้านหน้าร้านพญายอกับร้านเอกมัย 487 ข้างห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี จนมีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ เมื่อเวลาประมาณ 23.53 น.วันที่ 3 สิงหาคม ตำรวจ สภ.เมือง จ.อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ บริเวณลานจอดรถหน้าร้านอาหารพญายอ พบปลอกกระสุนปืน ขนาด 11 มม., 9 มม. 45 มม. กระสุนปืนลูกซอง และกระสุนปืนอาก้า กว่า 100 ปลอกตกเกลื่อนอยู่ มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ทราบชื่อ นายตะวัน ธรรมใจ อายุ 21 ปี หรือ คิงส์ หาดวัดใต้ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.ที่บริเวณศีรษะ และนายโชคธวัตร พันธ์กว้าง อายุ 38 ปี หรือเป็ด บ้านขาม ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.ที่บริเวณศีรษะ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย ทราบชื่อนายสมเกียรติ จันทาใส ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดที่บริเวณขมับ กู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ นอกจากนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 6 ราย
มูลเหตุเกิดจากการเขม่นกันระหว่างแก๊ง 2 กลุ่ม คือกลุ่มสิงห์หาดวัดใต้กับกลุ่มเสือขามใหญ่ ซึ่งทั้ง 2 กลุ่มมีสมาชิกเป็นการ์ดให้กับร้านอาหารกึ่งผับ 2 ร้านซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกันเกิดการเขม่นกันมาโดยตลอด ก่อนเกิดเหตุมีการนัดเคลียร์ใจกันที่ร้านพญายอ ตั้งอยู่บริเวณลานจอดรถตลาดอุบลสแควร์ ข้างห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี โดยทั้ง 2 กลุ่มระดมเพื่อนในกลุ่มขนอาวุธปืนอาก้า , 11 มม., 9 มม., .45 มม. และปืนลูกซองยาว พร้อมเปิดศึก และมีการโพสต์เชิญชวน “เอาบุญเด้อ มือแลงที่ลานบิ๊กซี” เมื่อทั้ง 2 กลุ่ม เคลียร์กันไม่สำเร็จตกลงกันไม่ได้ จึงเกิดการยิงปะทะกันสนั่น โดยทั้ง 2 ฝ่ายต่างนำปืนที่เตรียมมาออกถล่มกันสนั่นเมืองเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 รายและได้รับบาดเจ็บ 6 ราย
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ดำเนินการสามารถพิสูจน์ทราบบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดได้ทั้งหมด 16 ราย มอบตัว 1 ราย ออกหมายจับผู้ต้องหา รวม 13 ราย จับกุมได้ 10 ราย ,อยู่ระหว่างหลบหนี 3 ราย ,มอบตัว 1 ราย และเสียชีวิต 2 ราย แบ่งเป็นร้านพญายอ(แก๊งขามใหญ่) จำนวน 6 ราย ,จับกุมแล้ว 4 ราย ,หลบหนี 2 ราย และร้านเอกมัย 487 (แก๊งหาดวัดใต้)จับกุมตัวแล้ว 6 ราย ,หลบหนี 1 ราย เสียชีวิต 2 ราย แก๊งขามใหญ่ (ร้านพญายอ) เสียชีวิต 1 ราย แก๊งหาดวัดใต้ (ร้านเอกมัย 487) เสียชีวิต 1 ราย ตรวจยึดอาวุธปืนในคดี เป็นอาวุธปืนยาว 2 กระบอก (ปืนอาก้า 1 กระบอก , ปืนลูกซอง 1 กระบอก)และอาวุธปืนสั้น จำนวน 10 กระบอก สำหรับปืนอาก้า พร้อมซองใส่ลูกกระสุนปืน ที่ยึดได้ เป็นของนายนิกร ทองพันธุ์ อายุ 31 ปี หรือ นายเหม่า หนองมะนาว แก๊งเสือบ้านขามใหญ่ ที่ใช้ยิงปะทะกับแก๊งสิงห์หาดวัดใต้ นำปืนใส่ถุงปุ๋ยแล้วเอาไปฝังดินไว้ในป่าใกล้บ้านตัวเอง ก่อนหลบหนีไปยัง สปป.ลาว
ต่อมาเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม นายบุญมี จอมหงษ์ ทนายความ ได้ประสานเจ้าหน้าที่จากกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอุบลฯ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองอุบลฯและเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯ ว่านายนิกร ทองพันธุ์ อายุ 31 ปี หรือ นายเหม่า หนองมะนาว แก๊งเสือบ้านขามใหญ่ มือยิงอาก้า ที่ถูกออกหมายจับได้หลบหนีข้ามฝั่งไปยังประเทศ สปป.ลาว มีความประสงค์จะเดินทางข้ามฝั่งกลับเข้ามามอบตัวที่ชายแดนบ้านบุ่งข้อง ต.นาแวง อ.เขมราฐ จ.อุบลฯ เจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปรับมอบตัว และนำไปชี้จุดที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งในตำบลสองคอน อำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี ก่อนหลบหนีข้ามฝั่งไปยังประเทศ สปป.ลาว เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน,พาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน,ยิงปืนโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน,มีอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ใช้ได้
นายบุญมี จอมหงษ์ ทนายความของนายนิกร กล่าวว่า เบื้องต้นนายนิกรให้การปฎิเสธข้อกล่าวหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซึ่งเจ้าตัวเล่าว่าไม่มีเจตนาฆ่า แต่เป็นการป้องกันตัว แต่ยอมรับว่าเป็นมือยิงปืนอาก้าจริง
