ผู้การราชบุรีเผย ส.ต.ท.หญิงฉาว ยังไม่ติดต่อมา ไม่กังวลเรื่องหลบหนี ย้ำดำเนินคดีตรงไปตรงมา

ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ราชบุรี เผยคดีตำรวจหญิงทำร้ายอดีตทหารหญิงรับใช้บาดเจ็บ ขณะนี้สอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องรุดหน้าไปมากแล้ว ยืนยันให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ไม่หวั่นแม้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ

เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี ส.ต.ท.หญิง รายหนึ่ง อ้างตัวเป็นภรรยา ส.ว. ทารุณกรรม อดีตทหารหญิงรับใช้ บาดเจ็บทางร่างกายและจิตใจ โดยมีการเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี เมื่อช่วงเย็นวานนี้ ทั้งนี้ ช่วงสายที่ผ่านมา พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี ได้ประชุมเร่งรัดคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ก่อนเปิดเผยว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ได้โทรศัพท์มาติดตามคดีด้วยตัวเอง พร้อมด้วยผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 มีข้อสั่งการให้ตำรวจภูธร จ.ราชบุรี เร่งรัดอำนวยความยุติธรรมให้กับผู้เสียหาย รวมทั้งประสานผู้เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายเบื้องต้นก่อน เพราะเป็นเหตุที่กระทบกระเทือนต่อจิตใจ

พล.ต.ต.ปิติกล่าวว่า การดำเนินคดีเบื้องต้น ส่วนแรกเป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา เรื่องการทำร้ายร่างกาย แต่เนื่องจากต้องรอผลตรวจร่างกายจากแพทย์ก่อนว่าเป็นการทำร้ายร่างกายสาหัสหรือไม่ ซึ่งหลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวนได้ส่งผู้เสียหายไปตรวจแล้วครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 13 ส.ค. จากนั้นจะส่งตรวจกับแพทย์ที่เกี่ยวข้องวันที่ 15 ส.ค. แต่ผู้เสียหายไม่สะดวก เท่าที่ติดตามทราบว่าหมอนัดตรวจร่างกายอีกครั้งในวันจันทร์นี้

พล.ต.ต.ปิติกล่าวว่า เมื่อวานนี้ผู้เสียหายเดินทางมาให้การประมาณเวลา 17.00 น. มีการสอบปากคำทั้งหมด 4 คน พ่อ แม่ น้า รวมทั้งผู้เสียหาย แต่เนื่องจากประเด็นที่ผู้เสียหายให้การมีรายละเอียดค่อนข้างมาก และยังมีความเหน็ดเหนื่อย องค์ประกอบพร้อมข้อเท็จจริงต่างๆ ต้องชัดเจน ซึ่งยังสอบไม่เสร็จ และสอบสวนอยู่นานประมาณตี 2 และในวันนี้ได้นัดมาสอบสวนเพิ่มเติมอีก

พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย

“โดยหลักการสอบปากคำเบื้องต้นเข้าข่ายความผิดแรกคือการทำร้ายร่างกายผู้อื่น เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ ตอนนี้ยังต้องรอความเห็นจากแพทย์อีก ถ้าแพทย์ลงความเห็นว่าทำร้ายร่างกายสาหัสก็ต้องแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ช่วงบ่ายวันนี้จะสอบสวนผู้เสียหายเพิ่มเติมเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงทั้งหมด หลังจากนั้นจะพิจารณาเรื่องความผิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น นอกเหนือจากผิดตามประมวลกฎหมายอาญาแล้ว ยังมีความผิดตามพระราชบัญญัติอื่นอีกหรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องการค้ามนุษย์ที่มีการพูดถึง” พล.ต.ต.ปิติกล่าว

Advertisement

พล.ต.ต.ปิติกล่าวด้วยว่า เมื่อช่วงสายได้เรียกทีมสหวิชาชีพมาประชุมร่วมกับพนักงานสอบสวน กำหนดแนวทางที่จะซักถามผู้เสียหายเพิ่มเติม หากช่วงบ่ายผู้เสียหายมาก็จะทำการสอบสวนเพิ่มเติมให้เสร็จสิ้น หลังจากนั้นจะประชุมร่วมกับทีมสหวิชาชีพเพื่อคัดกรอง คัดแยกเหยื่อ ถ้ากรณีมองว่าเป็นเหยื่อ ก็ต้องมีการประชุมร่วมกันในทีมสหวิชาชีพ ตอนนี้ “ตำรวจหญิง” ยังไม่มีการติดต่อเข้ามาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ทุกช่องทาง

“ยืนยันว่าเรื่องนี้ได้ดำเนินคดีตรงไปตรงมา ไม่ได้มองว่าผู้ถูกกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ว่าเป็นใครจะดำเนินการเท่าเทียมกันหมด แต่เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหารับราชการตำรวจอาจจะมีความผิดเรื่องวินัยตำรวจอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งจะหนักกว่าประชาชนทั่วไป ไม่รู้สึกกังวลว่าจะมีการหลบหนีแต่อย่างใด อยู่ระหว่างรอกระบวนการสอบสวนผู้เสียหาย ซึ่งจะเร่งรัดให้แล้วเสร็จเร็วๆ นี้” พล.ต.ต.ปิติกล่าว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image