ส่งตัว สห.ปืนโหด ไปศาลทหาร ตะโกนบอกญาติฝากดูแลแม่ด้วย

ส่งตัว สห.ปืนโหด ไปศาลทหาร ตะโกนบอกญาติฝากดูแลแม่ด้วย

 

เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ที่ สภ.เมืองนครพนม ร.ต.ท.วัตรสันณห์ เนตรหาญ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ประสานงานร่วมกับนายทหารพระธรรมนูญ ศาลมณฑลทหารบกที่ 24 ค่ายประจักษ์ศิลปาคม จังหวัดอุดรธานี มารับตัว สิบโทมานิตย์ (สงวนนามสกุล) หรือ สห.วิทย์ อายุ 33 ปี สารวัตรทหาร (สห.) มณฑลทหารบกที่ 210 ค่ายพระยอดเมืองขวาง อ.เมือง จ.นครพนม ผู้ต้องหาตามหมายจับฐานความผิด ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนพกขนาด 9 มม. กระหน่ำยังเพื่อน สห.รุ่นน้อง ขณะเข้าเวรตู้ยามรักษาการหน้าค่าย รวม 19 นัด เป็นเหตุให้สิบตรีวัชระ อายุ 29 ปี หรือ สห.เกิ้ล เสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดเมื่อเย็นวันที่ 18 สิงหาคม 2565 ภายหลังผู้ต้องหาได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวกับทางตำรวจ เมื่อคืนวันที่ 19 สิงหาคม 2565 สารภาพเพียงว่า เป็นปัญหาปมขัดแย้งส่วนตัว ไม่พอใจที่ผู้ตายเป็นรุ่นน้อง แต่ไม่เคารพรุ่นพี่ จึงเกิดความไม่พอใจแค้นส่วนตัว ทำไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ขณะขี่รถจักรยานยนต์มาเจอหน้าผู้ตาย และมีการทำสีหน้าไม่พอใจต่อกัน และควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ และก่อเหตุขึ้น ทั้งนี้ ทางตำรวจมั่นใจพยานหลักฐานชัดเจน เพียงพอที่จะเอาผิดตามกฎหมาย นอกจากมีพยานบุคคล ที่เห็นเหตุการณ์ ยังตรวจยึด เสื้อผ้า รวมถึงหมวกกันน็อก รถจักรยานยนต์ และอาวุธปืน ที่ใช้ก่อเหตุ ตรงตามหลักฐานตามกล้องวงจรปิด

ขณะเดียวกัน ในช่วงนายทหารพระธรรมนูญ ศาลมณฑลทหารบกที่ 24 ค่ายประจักษ์ศิลปาคม จังหวัดอุดรธานี มารับตัวสิบโทมานิตย์ ไปดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย เนื่องจากเป็นการกระทำผิดระหว่าง ทหารกับทหาร ได้มีญาติพี่น้องเดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจ โดยผู้ต้องหามีท่าทีสงบนิ่ง ไม่เคร่งเครียด และไม่พูดจากับใคร แต่ได้ตะโกนทิ้งท้ายก่อนขึ้นรถบอกญาติว่า ฝากดูแลแม่ผมด้วย เนื่องจากแม่อยู่ลำพังอีกทั้งยังมีอาการป่วย ตาพร่ามัว และป่วยเป็นขาอ่อนแรง มีพี่น้องทั้งหมด 2 คน ผู้ก่อเหตุเป็นคนโต ที่ดูแลแม่มาตลอดหลังพ่อเสียชีวิต ส่วนน้องชายทำงานต่างจังหวัด นอกจากนี้ จากการตรวจสอบประวัติ ยังพบว่าผู้ต้องหา เส้นทางการทำงานเติบโตมาจากพลทหาร ก่อนเข้ารับราชการ พลสารวัตรทหาร มีครอบครัวยากจน ยังไม่มีครอบครัว พ่อเสียชีวิตตั้งแต่เด็ก และเคยได้รับคัดเลือกจากกองทัพบก เป็นพลทหารที่มีความประพฤติดี และมอบบ้านเฉลิมพระเกียรติให้ครอบครัว เมื่อปี 2555 จนกระทั่งมาก่อเหตุ ทำให้ไม่มีใครคาดคิดว่าผู้ต้องหาจะก่อเหตุลักษณะนี้ขึ้น และทางญาติทุกคนต่างบอกให้ผู้ต้องหายอมรับโทษชดใช้กรรมตามกฎหมาย

ส่วนนางบัวไล มารดา สห.วิทย์ เปิดเผยว่า หลังทราบข่าวลูกชาย ก่อเหตุฆ่าคนตาย ยังไม่อยากเชื่อ เพราะลูกชายปกติเป็นคนเงียบ ไม่ค่อยสุงสิงใคร ยังไม่มีครอบครัว วันไหนไม่เข้าเวรจะมาดูแลอยู่กับแม่ กินข้าวกับแม่ทุกวัน ดูแลแม่มาตลอดตั้งแต่พ่อเสียชีวิต แต่หากเมื่อลูกชายก่อเหตุจริงตนพร้อมทำใจรับสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น และไม่ขอเกี่ยวข้องกับการดำเนินคดี ให้เป็นตามขั้นตอนของกฎหมายบ้านเมือง ให้ลูกชดใช้กรรมที่ก่อขึ้น ใครทำอะไรไว้ต้องรับผิดชอบเอง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image