ภรรยา สห.เกิ้ล เผยครอบครัวยังแค้นใจรุ่นพี่ปืนโหด อยากให้ได้รับโทษประหาร-จำคุกตลอดชีวิต

เพื่อนบ้านเจอวิญญาณ สห.เกิ้ล ไปหาลูกชายที่บ้าน เชื่อจิตก่อนตายห่วงลูกที่เพิ่งคลอด ภรรยายังแค้นมือปืนวอนศาลลงโทษประหารสถานเดียว เตรียมทนายสู้คดี หากไม่ได้รับความเป็นธรรม

เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี สิบตรี วัชระ อินาลา หรือ สห.เกิ้ล อายุ 29 ปี ตำแหน่งสารวัตรทหาร มทบ.210 นครพนม ถูก สิบโท มานิตย์ จันทะพินิจ หรือ สห.วิทย์ อายุ 33 ปี ตำแหน่งสารวัตรทหาร หรือ สห. มทบ.210 ค่ายพระยอดเมืองขวาง ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.กระหน่ำยิงเสียชีวิต ขณะเข้าเวรรักษาการป้อมยาทางเข้าค่ายพระยอดเมืองขวาง เมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา โดย น.ส.สกาวเดือน ขันจันทร์ หรือเปิ้ล อายุ 32 ปี ภรรยาผู้ตาย เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุเป็น สห.รุ่นพี่ ทำให้ทางญาติพี่น้องและครอบครัวยังมีความคับแค้นใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากเป็นการก่อเหตุที่อุกอาจและโหดร้ายเกินคน ยิงสามีกระหน่ำกว่า 19 นัด ทั้งที่ยังไม่มีความแน่ชัดถึงปมปัญหาขัดแย้ง

น.ส.สกาวเดือนกล่าวว่า แม้ผู้ต้องหาจะเข้ามอบตัว อ้างแค่ว่าไม่พอใจส่วนตัว ตนยังไม่สบายใจเกี่ยวกับการดำเนินคดี เพราะสิ่งที่ต้องการที่สุดคือผู้ต้องหาต้องรับโทษประหารชีวิตสถานเดียว ยังกังวลว่าจะได้รับการลดโทษ นอกจากนี้ ในสิทธิต่างๆ ที่ครอบครัวจะได้รับ ทาง ผบ.มทบ.210 นครพนม รับปากเบื้องต้นจะช่วยเหลือทุกด้าน ตนยืนยันว่าสิ่งที่สามีจะได้รับคือ ต้องได้สิทธิเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ ลูกชายจะต้องได้รับทุนการศึกษาจนจบการศึกษาปริญญาตรี สำหรับการชดเชยเยียวยาด้านต่างๆ ขอให้เป็นไปตามสิทธิ

“ถามว่าได้เงินมากแค่ไหนถึงจะคุ้ม บอกเลยว่าไม่มีสิ่งไหนที่มาชดเชยการสูญเสียได้ เพราะเสียเสาหลัก เสียสามีที่เพิ่งสร้างครอบครัวด้วยกัน ลูกชายเพิ่งคลอดอายุได้แค่เดือนเดียวยังไม่เห็นหน้าพ่อ ความผิดครั้งนี้ผู้ต้องหาต้องรับโทษประหารถึงจะสาสม ส่วนการบำเพ็ญกุศลจะมีพิธีฌาปนกิจช่วงเช้าวันที่ 23 สิงหาคม ตามประเพณีชนเผ่าภูไท โดยไม่มีการสวดพระอภิธรรม เพราะเสียชีวิตกะทันหัน รอทำพิธีหน้าศพก่อนเผา” น.ส.สกาวเดือนกล่าว

Advertisement

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

น.ส.สกาวเดือนกล่าวอีกว่า ตามความเชื่อตนยังเชื่อว่าวิญญาณสามียังเฮี้ยนและแค้นใจกับคนก่อเหตุ ที่สำคัญจิตใต้สำนึกครั้งสุดท้ายยังห่วง ยังรักลูก เพราะวันเกิดเหตุเพิ่งเข้าเวรวันแรก หลังลา 15 วัน ดูแลตนที่คลอดลูก หลังออกเวรรับปากว่าจะกลับไปหาลูกชาย เพราะรักลูกชายมากคือ น้องภาคิน เป็นชื่อที่สามีตั้งเอง เป็นลูกชายคนแรก เป็นความหวังของครอบครัว แต่พ่อต้องมาเสียชีวิตทั้งที่ลูกชายยังมองไม่เห็นหน้าพ่อ คลอดได้ยังไม่ถึงเดือน

“เมื่อคืนเพื่อนบ้านมาเล่าให้ฟังว่าเห็นร่างสามีมายืนข้างบ้าน เชื่อว่าเป็นวิญญาณที่ต้องการมาหาลูกชาย แต่เราไม่ฝันอะไร จากนั้นไปสอบถามร่างทรงบอกว่าเขายังห่วงลูก ห่วงครอบครัว เพราะเสียชีวิตกะทันหัน อยากมาหาลูกชายที่บ้านแต่เข้าไปไม่ได้ ซึ่งทางญาติพี่น้องจะได้ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลให้ตามประเพณี รวมถึงประกอบพิธีฌาปนกิจให้สมเกียรติชายชาติทหารมากที่สุด” น.ส.สกาวเดือนกล่าว

น.ส.สกาวเดือนกล่าวว่า หากการดำเนินคดี รวมถึงการดูแลสิทธิต่างๆ ไม่ได้รับความเป็นธรรม ตนและครอบครัวพร้อมจะตั้งทนายสู้คดีให้ได้รับความเป็นธรรม และผู้ต้องหาจะต้องรับโทษประหาร หรือจำคุกตลอดชีวิตเท่านั้น ไม่ควรที่จะได้รับการลดโทษออกมา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image