หนังคนละม้วน? แฟนหนุ่ม ‘เจ๊นุช’ แฉยับ ขออดีตทหารหญิงหยุดแถ เชื่อเป็นเครื่องมือคนอื่นอยู่ ท้าเปิดหลักฐาน ส.ว.
เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม หรือ เจ๊นุช ผบ.หมู่ กก. 4 บก.ส.1 ผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์และทำร้ายร่างกายอดีตทหารหญิง หรือ น.ส.เอ (นามสมมุติ) โดยเมื่อบ่ายวานนี้ (23 สิงหาคม) นายคมสิทธิ์ จังพานิช ญาตินักการเมืองท้องถิ่น อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เปิดเผยถึงความสัมพันธ์กับ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ ผู้ต้องหาว่า ได้คบหาเป็นแฟนกับ ส.ต.ท.กรศศิร์ หรือนุช ประมาณ 7-8 เดือนแล้ว เคยเห็นคลิปที่เขาทำร้ายเอ ส่วนสาเหตุผมไม่ได้คุยกัน แต่ถามเอว่าเป็นอะไร ทำไมต้องเป็นแบบนี้ เอบอกว่านุชป่วยเป็นโรคซึมเศร้า เพราะเออยู่กับเขามา 6-7 ปี แต่ผมเพิ่งคบกัน มีโอกาสได้เที่ยวกันที่หัวหิน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เห็นเหตุการณ์ตบตีเอ รู้สึกตกใจจึงเข้าไปห้ามจนเขาสงบลง นุชกินยานอนหลับแล้วจึงเรียกเอมาถาม เขาเล่าให้ฟังว่าเวลานุชมีอาการแบบนี้จากการเครียด โกรธ ดูง่ายๆ จากในคลิป
นายคมสิทธิ์กล่าวว่า ตนไม่ได้อยู่กับนุชตลอดเพราะเขาต้องไปทำงาน ส่วนตนเองก็งานเยอะ โดยนุชมีเอเป็นคนขับรถให้ เพราะเขาขับรถไม่เก่ง ไม่ค่อยรู้จักเส้นทางมากนัก เอจะรู้ว่าอะไรที่ควรทำ หรือไม่ควรทำ ผมสอนเขาบ่อยๆ ทำไมเอไม่หยุด ปากบอกว่ารักนุช แต่ก็ทำแบบนั้นซ้ำๆ ลองถามเขาดูว่าผมเคยสอนเขาหรือไม่
เมื่อถามถึงพฤติกรรมของ น.ส.เอ อดีตทหาร นายคมสิทธิ์กล่าวว่า เด็กคนนี้น่าจะชอบแสงสี เห็นเวลาออกไปร้านเหล้าแล้วมีความสุข สนุกมาก ไปแอ๊วนักร้อง ซึ่งเป็นศัพท์ที่ไม่ค่อยได้ยิน เลยถามเอว่าแอ๊วนักร้องคืออะไร ก็เหมือนกับที่เราไปอ่อยผู้ชายในร้านอาหาร ขอเพลงแล้วเอาเงินไปให้ อาจเชิญมาดื่มที่โต๊ะ มานั่งคุยกับเขา ทั้งนี้ ที่ผมรู้คือเขามีข้อตกลงกัน หากไปกินเที่ยวแต่ละครั้งนั้น ถ้ามียอดเงินเท่าไหร่จะต้องหารกันคนละครึ่ง ผมเห็นเขาไปเที่ยวกันบ่อย คงไม่พอเงินเดือน เพราะเงินเดือนเขาประมาณหมื่นกว่าบาท
กรณีที่ระบุว่านุชมีเอเป็นผู้ชักนำ นายคมสิทธิ์กล่าวว่า ได้เจอกันที่ร้านอาหาร เอเดินเข้ามาหาขอแลกเงิน โดยผมเป็นเพื่อนเจ้าของร้าน มาเอะใจตอนหลังว่าเคาน์เตอร์คิดเงินห่างจากตนประมาณ 10 กว่าก้าว ทำไมไม่แลก คือครั้งแรกที่ได้คุยกับนุช ต่อมา รู้ว่าเอเป็นคนชวนนุชมาที่ร้านนี้ทุกวัน และเริ่มมีการเดินมาทักบ่อย ตอนนั้นตนมีปัญหาเรื่องโรคกระเพาะ เพิ่งผ่าตัดมา กระเพาะทะลุ ดื่มเหล้าไม่ได้
เมื่อระบุถึงข่าวเอมีแผลถูกทำร้ายจำนวนมาก ขณะนั้นนายคมสิทธิ์ก็อยู่กับนุช เชื่อหรือไม่ว่าแผลเยอะขนาดนั้น นายคมสิทธิ์กล่าวว่า ตอนแรกที่ออกจากบ้านไปไม่เห็นว่ามีแผล มาเห็นบาดแผลวันที่ 13 สิงหาคม แต่แผลที่เขามาออกสื่ออีกรอบ ได้นั่งดูกับนุชว่าแผลทำไมเยอะจัง จากที่ไปเมื่อวันที่เขาไปเมื่อ 13 ส.ค. เพราะแม่รับตัวกลับไป พอมาโผล่ออกข่าวอีกครั้งกลับแผลเต็มไปหมด ทั้งรอยที่จมูก หน้าตา แขน ไม่รู้ว่าแผลมาจากไหน
“ผมมีรูปถ่ายจากเอวันที่ 13 ส.ค. กับอีกรูปที่หายไป 3-4 วัน แล้วเขามาโผล่ในข่าวอีกครั้งหนึ่ง ตั้งข้อสังเกตว่าแผลมาจากไหน แผลฟกช้ำลุกลามได้หรือ คงเป็นไปไม่ได้
“เขาโกหก ตอแหล ผมใช้คำจำกัดความสั้นๆ ที่ว่าเขาบ่อยๆ คือ ‘แถ’ ผมบอกว่าเอ มึงอย่าแถ พอแถแล้วนุชก็จะขึ้น ผมเคยสอนเขาว่าเอ พี่สอนลูกน้องว่าอย่าโกหก เพราะการโกหกคน หลอกคน หมายถึงการดูถูกสติปัญหาอีกฝ่ายว่าโง่กว่าเรา ถึงหลอกเขาได้ แต่จริงๆ เอก็รู้ใช่ไหมว่าพี่ไม่ได้โง่ ดังนั้น เอต้องหยุด พฤติกรรมชอบแถเอต้องหยุด ถามเขาเลยว่าผมเคยสอนไหม คำว่าแถเนี่ย เขาได้ยินมาจากผม ผมใช้คำจำกัดความว่าแถกับเขาคนเดียว” นายคมสิทธิ์กล่าว
เมื่อถามว่า เพราะคำว่า “แถ” ใช่หรือไม่ ถึงมีคลิปทำร้ายออกมา นายคมสิทธิ์กล่าวว่า แรกเริ่มที่หัวหิน ตนห้าม ครั้งที่ 2 ก็ห้ามและสอนไป เพราะรู้ว่าปัญหาเกิดจากอะไร ไปยั่วยุให้เขาโกรธทำไม จึงถามเอว่าทำไมถึงไม่หยุดพฤติกรรมแบบนี้ พอทำก็โดน เลยขอร้องให้หยุด ไม่งั้นก็จะไม่จบ จนเริ่มคาดโทษแล้ว
นายคมสิทธิ์กล่าวว่า นุชเคยตีผมที่คอนโด แต่ผมนิ่ง เขาก็หยุด แต่พออีกวันเขาก็เป็นคนปกติ แค่ให้เขาหลับก่อน เพราะหลับยากต้องกินยานอนหลับทุกวัน มียากล่อมประสาทที่ใช้มาระยะเวลานาน อยากให้ถามเอว่าโดนไล่ออกไปกี่ครั้งแล้ว เขาก็ไม่ไป พอไล่เสร็จจะมีแต่คำขอโทษ ทั้งนี้ คำที่บอกว่าจะฆ่าตัวตาย ขอให้หยุดพูด พอไล่ให้ไปฆ่าตัวตายจริงๆ ก็ไปไหม จบที่หนูกลัว แล้วจะพูดทำไม
นายคมสิทธิ์กล่าวอีกว่า ตอนแรกเห็นเขาพูดและให้ข่าวว่านุชเป็นคนทำเขา แปลกใจว่าทำไมไม่พูดถึงตนเอง ทั้งที่ตนก็ทำแต่ไม่พูดถึง จึงสรุปกันว่าจะรอดูก่อนว่าเด็กคนนี้จะทำอะไรอีก แต่ด้วยพฤติกรรมที่แปลกๆ ว่าทำไมถึงพูดไม่หมด ที่มีคลิปเกิดขึ้นผมยังไม่รู้จักเขา คลิปแรกและคลิปหลังผมไม่รู้เรื่อง และที่ผมเคยทำร้ายเอนั้น ผมไม่ได้ถ่ายคลิปไว้ ส่วนเรื่องตำรวจไม่รู้ว่าเป็นใคร ผมถามเขานะว่าเป็นใคร แต่เห็นเขาเครียดหลายเรื่องและยังไม่ทันจะตอบ ซึ่งตอนนี้ผมยังไม่รู้ว่าเขาแจ้งความแล้วหรือยัง หรือแจ้งอะไรไปแล้วบ้าง
นายคมสิทธิ์กล่าวว่า ยืนยันความบริสุทธิ์ใจและยอมรับว่าผมตีเขาจริง เคยเอาไม้ตีเขาจริง เหตุเกิดตามที่เขาพูด ผมก็ลูกผู้ชายคนหนึ่ง มีข้อสงสัยเด็กคนนี้ว่าทำไมให้ข่าวแบบนี้ รอดูว่าจะแจ้งผมด้วยไหม พอมาวันนี้ก็จะมาแจ้ง จึงเกิดคำถามว่าเกิดอะไรขึ้น หรือเขาเป็นเครื่องมือของใคร ข่าวออกแต่ละวันไม่ซ้ำกัน ผมคิดว่ามีคนอยู่เบื้องหลังเอ แต่เบื้องหลังคืออะไร ทำไปทำไม เอได้ประโยชน์อะไร สิ่งที่ทำแต่ละอย่างไม่มีประโยชน์กับตัวเองเลย
นายคมสิทธิ์กล่าวถึงกรณี ส.ว.ที่ถูกพาดพิง วันแรกเป็น ส.ว.คนหนึ่ง พอให้ข่าวอีกครั้งเป็น ส.ว.อีกคนหนึ่งว่า ระยะเวลาที่คบกับนุชยังไม่เคยเจอ ส.ว.ท่านใดเข้ามาในชีวิต เพราะอดีตตนไม่รู้ รู้ว่าเขาทำงานในสภา หากเอพิสูจน์ได้จริงทำไมไม่เอาหลักฐานมา เอตั้งชื่อว่า “เมีย ส.ว.” ทำไมไม่เอารูปมาลง มีคลิปหรือไม่ หรือเป็นแค่การดึงดูดความสนใจ
“เรื่อง ส.ว.ผมไม่รู้ เพราะเวลาที่อยู่ด้วยกัน 7-8 เดือน ผมคบกันเปิดเผย ไปไหนมาไหน นุชมาบ้านผมก็สวัสดีพ่อแม่ เอก็ไปด้วยกันตลอด” นายคมสิทธิ์กล่าว
นายคมสิทธิ์กล่าวอีกว่า ส่วนที่บอกว่านุชอยู่แต่บ้าน ไม่ได้ออกไปทำงานข้างนอก ให้ถามเอว่าได้ขับรถให้เขาไปไหน กี่ครั้ง เอเป็นคนขับรถพานุชเข้ากรุงเทพฯไปเรื่องงานตลอด ให้เอนึกย้อนใหม่ว่าให้ข่าวไปนั้นเอรู้ทุกเรื่อง เอให้ข่าวแบบหนึ่ง ผมขอร้องเอไปกี่ครั้ง เขาเคยหยุดไหม ครั้งนี้เขาทำเกินไปแล้ว
เมื่อถามว่า น.ส.เอทำงานให้นายคมสิทธิ์ด้วยหรือไม่ นายคมสิทธิ์ยอมรับว่า ใช่ น.ส.เอบอกว่าเงินเดือนทหารไม่พอใช้จ่าย จึงมาทำงานกับผม ประกอบกับไม่ต้องมีเอกสารและผมเป็นคนจ่ายงานเองทั้งหมด เริ่มต้นจากให้ไปดูหน้างานกับลูกน้อง เขาบอกว่าอะไรหยิบจับเท่าที่ผู้หญิงทำได้ก็ทำไป ผมเช็กกับลูกน้องตลอดพบว่าเอไม่ทำอะไรเลย จับแต่โทรศัพท์ จึงคุยกับนุชว่าแบบนี้มีปัญหา เพราะในทีมทุกคนทำงานหมด ค่าแรงเท่ากัน แต่เอไม่ทำ จึงตกลงกันว่าจะเปลี่ยนงานให้เอใหม่ ทำเรื่องบัญชี ก่อนตกลงกันว่าถ้าทำงานได้ก็ไม่มีปัญหา
เมื่อถามว่า เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วคำว่าทหารรับใช้ หรือคนรับใช้คงไม่ใช่แล้ว? นายคมสิทธิ์กล่าวระบุว่า ทหารรับใช้เท่าที่เห็นนั้น นุชซักผ้า เอช่วยตาก นุชล้างจาน เอช่วยเก็บ เพราะเอเป็นคนสกปรก ชั้นบนนุชกวาด ชั้นล่างเอกวาด แต่เขาตกลงกันอย่างไรผมไม่ทราบ มีแต่เรื่องขับรถที่เอเป็นคนขับ เพราะนุชขับรถไม่เก่ง
นายคมสิทธิ์กล่าวว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นก็ว่ากันตามกฎหมาย ผมผิดและยอมรับว่าตีเขา แต่เมื่อไหร่เขาจะหยุด ผมคิดในใจว่าเขาตกเป็นเครื่องมือของคนอื่น ถ้าไม่รีบหยุดตอนนี้จะลำบากคนเดียว
“ผมฝากถึงเอ จำคำพี่ไว้ ที่ผ่านมาพี่เคยบอกเอเสมอว่าคนเราเท่ากัน จำคำพี่ไว้ ขอให้หยุดเถอะนะน้อง เพราะกำลังตกเป็นเครื่องมือเขาอยู่” นายคมสิทธิ์กล่าว
