แฉ เจ้าของแชร์ลูกโซ่คริปโทกล่อมนักลงทุนวีไอพี ลงทุนหลักล้าน ก่อนหายตัว คาดเสียหายกว่า 2 พันล้าน

แฉ เจ้าของแชร์ลูกโซ่คริปโทกล่อมนักลงทุนวีไอพี ลงทุนหลักล้าน ก่อนหายตัว คาดเสียหายกว่า 2 พันล้าน

เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2565 ที่ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษ เขตพื้นที่ 5 เชียงใหม่ หรือดีเอสไอ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ กลุ่มผู้เสียหายจากการลงทุนแชร์ลูกโซ่คริปโทเคอร์เรนซี หรือสกุลเงินดิจิทัล ยังคงทยอยนำหลักฐานเข้าแจ้งความอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนวีไอพีที่มียอดลงทุนสูงกว่า 1 ล้านบาท หลังจากมีกระแสข่าวว่า นักลงทุนที่เปิดบริษัทชักชวนให้ประชาชนนำเงินมาลงทุนไม่จ่ายเงินปันผลให้กับสมาชิก จนมีผู้เสียหายออกมาเรียกร้องทวงเงินตั้งแต่วานนี้

โดยเจ้าหน้าที่ดีเอสไอตั้งศูนย์เพื่อรับเรื่องจากผู้เสียหาย ล่าสุดพบว่ามีประชาชนนำหลักฐานเข้าแจ้งความที่ดีเอสไอ ภาค 5 แล้วกว่า 20 ราย และคาดว่าจะมีผู้เดินทางมาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยมีรายงานว่า จะมีผู้เสียหายในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.ลำพูน กว่า 100 ราย รวมตัวกันเดินทางมาแจ้งความพร้อมกับทนายความด้วย นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียหายบางส่วนเดินทางไปแจ้งความที่ดีเอสไอส่วนกลาง และสถานีตำรวจในท้องที่เกิดเหตุอีกจำนวนมาก

หนุ่มผู้เสียหายรายหนึ่งที่มาแจ้งความในวันนี้ให้ข้อมูลว่า นำเงิน 3 แสนบาทไปลงทุนเมื่อไม่นานมานี้ ไม่คิดว่าจะสูญเงินทันที โดยรู้จักกับนายทุน เพราะเคยเรียนโรงเรียนเดียวกัน ก่อนหน้านี้ก็ถูกชักชวนให้มาลงทุน แต่ยังไม่มั่นใจจึงขอศึกษาข้อมูลก่อน เมื่อเห็นโปรไฟล์น่าเชื่อถือเพราะลงทุนได้เงินจริง จนมีฐานะร่ำรวยจึงตัดสินใจมาลงทุน เบื้องต้นจากการพูดคุยกับนักลงทุนรายอื่นๆ ทราบว่า สาเหตุที่วงแชร์ล้มเพราะนายทุนคนดังกล่าวนำเงินไปช้อนซื้อเหรียญลูน่าในช่วงที่ราคาตกเพื่อหวังเก็งกำไรแต่สุดท้ายก็ขาดทุนยับเยิน

Advertisement

ส่วนหญิงสาวอีกรายบอกว่า ลงทุนไป 9 แสนบาท โดยช่วงแรกๆ ฝากเพื่อนไปลงทุน ต่อมาจึงหันมาลงทุนด้วยตัวเองเพราะไม่อยากถูกหักเงิน ซึ่งรูปแบบการลงทุนที่สร้างขึ้นก็มีหลากหลาย ทั้งการลงทุนเทรดเหรียญคริปโท และโปรเจ็กต์การลงทุนระยะสั้นและระยะยาว ที่ได้ผลตอบแทนตั้งแต่ร้อยละ 15-20 โดยจะต้องเสียค่าสมัครเพื่อเข้าไปลงทุนรายละ 29,000 บาท ส่วนสาเหตุที่ตัดสินใจลงทุนครั้งนี้ เพราะเห็นโปรไฟล์นายทุนน่าเชื่อถือ มักแบ่งเงินจากการลงทุนไปทำบุญเป็นประจำ และยังรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีชื่อเสียงด้วย

ส่วนหญิงสาวอายุ 29 ปี หนึ่งในผู้เสียหายบอกว่า นำเงินไปลงทุนกว่า 2 ล้านบาท ก่อนหน้าที่เรื่องจะแดงว่าวงแชร์แตก นายทุนคนนี้ได้เรียกกลุ่มนักลงทุนวีไอพี ที่ลงทุนเกิน 1 ล้านบาท ประมาณ 300 คน เข้าไปพบเมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อชี้แจงปัญหาที่ไม่สามารถจ่ายเงินปันผลได้ พร้อมขอเวลา 6 เดือน จะทยอยคืนเงินให้ แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ตนไปหาที่บ้านพักอีกครั้งเพื่อนำรายชื่อคนลงทุนไปยื่นให้ ก็ไม่พบนายทุนและครอบครัวที่บ้านแล้ว เมื่อตรวจเช็กไปที่ธนาคารทราบว่าภรรยาได้ไปถอนเงินจำนวน 3 ล้านบาทออกไป แต่ยังเหลือเงินก้อนใหญ่อยู่ในบัญชีอีกราว 30 ล้านบาท

Advertisement

เบื้องต้นคาดว่าเฉพาะกลุ่มนักลงทุนวีไอพี 300 ราย วงเงินค่าเสียหายน่าจะสูงเกิน 1 พันล้านบาท เพราะแต่ละรายลงทุนหลักล้านบาทขึ้นไป และทราบว่ามีรายหนึ่งลงทุนสูงกว่า 40-50 ล้านบาท แต่หากรวมจำนวนผู้เสียหายที่มีมากกว่า 1,500 ราย มูลค่าความเสียหายน่าจะสูงเกิน 2 พันล้านบาท

ด้านเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอแจ้งว่า ขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐานและข้อมูลจากผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความ เพื่อส่งเรื่องไปยังดีเอสไอส่วนกลางพิจารณาและรับเป็นคดีพิเศษ หากมีจำนวนผู้เสียหายเกิน 300 คน และวงเงินค่าเสียหายสูงเกิน 100 ล้านบาท พร้อมฝากประชาสัมพันธ์ไปยังผู้เสียหายที่อยู่ในภาคเหนือ ให้มานำหลักฐานมาแจ้งความได้ที่ดีเอสไอได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image