ฮือฮา! พบเหล็กไหลงอกในก้อนหินบนควนเคี่ยม พร้อมเผยตำนานจุดเจอมีเจ้าที่เป็นงูบองหลา

ฮือฮา! พบเหล็กไหลงอกในก้อนหินบนควนเคี่ยม พร้อมเผยตำนานจุดเจอมีเจ้าที่เป็นงูบองหลา

เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 65 มีชาวบ้านไปเจอก้อนหินและภายในเป็นหินมีลักษณะแปลกตาคล้ายแร่บางอย่างมีสีดำมันวาว จึงไปตรวจสอบพบกับนายริน รักษ์วงศ์ อายุ 43 ปี ชาว ต.เขาดิน อ.เขาพนม กระบี่ ซึ่งเป็นคนเจอ โดยได้นำก้อนหินดังกล่าว ซึ่งมีน้ำหนักประมาณ 5 กก. สีเหลือง และด้านในกลวง ที่ผิวด้านในพบว่าเป็นแร่บางอย่างสีดำมันวาวคล้ายเหล็กไหล ประกอบกับทางนายริน ได้ถ่ายรูปส่งไปโพสต์ในกลุ่มผู้นิยมเหล็กไหลก็บอกว่า เป็นเหล็กไหลงอก ซึ่งหาได้ยากและยังมีราคาสูงด้วย

นายรินเผยว่า ตนได้เจอก้อนหินดังกล่าว เมื่อวันที่ 29 ส.ค. โดยตนได้ฝันว่ามีผู้หญิงนุ่งขาวห่มขาวบอกกับตนว่า เป็นคนเฝ้าสมบัติ แต่ตอนนี้จะกลับไปสวรรค์จึงอยากให้ไปเอาสิ่งของบางอย่างบนควนเคี่ยม ซึ่งเป็นลักษณะพื้นที่เนินสูง เป็นสวนปาล์มน้ำมัน และได้ไปเจอก้อนหินนี้ตั้งอยู่ข้างกับตอต้นเคี่ยมที่เป็นจุดที่ชาวบ้านเชื่อกันว่า เป็นที่อยู่ของเจ้าที่ ก็เลยนำกลับมาบ้าน แต่สังเกตดูแล้วพบว่าก้อนหินไม่หนักและกลวง จึงได้ลองทุบจนแตกก็เจอว่าภายในเป็นเหล็กไหลดังกล่าว ซึ่งหลังจากนั้นตนได้โพสต์ในกลุ่มเหล็กไหล ก็มีคนที่ชื่นชอบเดินทางมาที่บ้านของตนทันที และได้ขอซื้อในราคา 5 หมื่นบาท แต่ตนยังไม่ขาย ขณะนี้ได้ส่งไปให้เซียนที่อยู่ในวงการดู ก็บอกว่าเป็นเหล็กไหลของแท้ เรียกกันว่า เหล็กไหลงอก เบื้องต้นก็จะเก็บไว้ก่อนเพราะเชื่อว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเป็นมงคลด้วย

Advertisement

นายรินเผยอีกว่า สำหรับจุดที่เจอนั้นถือเป็นจุดศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านเคารพนับถือเพราะมีเจ้าที่เจ้าทางอยู่ตรงนั้น เมื่อปี 2530 หรือกว่า 30 ปีมาแล้ว พื้นที่ ม.4 บนควนเคี่ยมได้มีการสัมปทานไม้ ก็มีคนมาสัมปทานตัดไม้ที่มีหลายชนิดทั้ง ไม้เคี่ยม ไม้หลุมพอ นำออกไปขาย โดยใช้รถแบ๊กโฮขนาดใหญ่เข้ามาชักลากปรับพื้นที่ มาถึงจุดดังกล่าว ปรากฏว่าได้มีงูบองหลา (งูจงอาง) ขนาดใหญ่ออกมาขวางหน้ารถแบ๊กโฮ ทำให้ทางคนขับได้ขับไปทับ แต่งูไม่ตายเลื้อยขึ้นไปบนเนินข้างต้นเคี่ยมขนาดใหญ่กว่า 3 คนโอบ และก็ตายลงตรงจุดดังกล่าว ส่วนต้นเคี่ยมต้นนั้นคนงานได้เลื่อยจนขาด แต่ก็ไม่ยอมล้มจนผ่านมากว่า 20 ปี จึงยืนต้นตายไปเอง ส่วนการตัดไม้นั้นหลังเจองูบองหลา และทับตาย ไม่กี่วันต่อมารถคันดังกล่าวขณะลงไปในลำห้วย ก็ถูกโคลนดูดจมหายไปจนถึงปัจจุบัน ส่วนคนขับ ก็สติแตกเป็นบ้าไปด้วย ซึ่งเป็นเรื่องจริงที่ชาวบ้านในพื้นที่รับรู้มาตลอดและเล่าสู่กันมานานกว่า 30 ปีแล้วด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image