ผจก.แบงก์ ยังพลาดโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกสุดเนียน สูญ 1.3 ล้านบ.

ผจก.แบงก์ ยังพลาดโดนแก๊งคอลหลอกสุดเนียน สูญ 1.3 ล้านบ.

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 31 สิงหาคม ที่สำนักงานทนายความคู่ใจ ถนนแจ้งวัฒนะ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี น.ส.บี (สงวนชื่อและนามสกุล) อายุ 40 ปี ผู้จัดการธนาคารชื่อดังแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว เดินทางเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากนายรณณรงค์ แก้วเพชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคมเพื่อขอให้ช่วยเหลือหลังตนเองตกเป็นเหยื่อ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยได้ทำเรื่องกู้เงินจำนวน 500,000 บาท เพื่อนำมาช่วยน้าสาวที่ต้องการใช้เงินไปลงทุนแต่สุดท้ายถูกหลอกให้โอนเงินไปจำนวน 7 ครั้ง ภายในวันเดียวสูญเงินไปทั้งสิ้น 1,360,000 บาท

นางสาวบีกล่าวว่า ได้ทำเรื่องกรอกแบบฟอร์มกับธนาคารกสิกรไว้ ระหว่างที่กรอกประมาณ 3-4 วัน มีไลน์ทักมา มีสินเชื่อส่วนบุคคล ให้ทำการสมัครลิงก์ เลยกรอกแบบฟอร์มสมัครดู และมีการโทรกลับมาใช้เวลาประมาณ 24 ชั่วโมง กรอกข้อมูลวันที่ 28 พอวันที่ 29 มีผลตอบมาอนุมัติวงเงิน 500,000 บาท จริงๆ จะกู้ทำเรื่องให้กับน้า มีการแจ้งว่าเป็นสินเชื่อส่วนบุคคลไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เนื่องจากตนเป็นลูกค้าใหม่จะต้องกันวงเงิน ไว้ 11% ของวงเงินกู้เท่ากับ 55,000 บาท ให้โอนเข้ามาในบัญชีเพื่อล็อกวงเงินไว้ ตนโอนเงินไปทั้งหมด 7 ครั้ง ครั้งแรกเวลา 11.32 น. จำนวน 55,000 บาท เป็นการกันวงเงิน 11% ครั้งที่ 2 เวลา 12.17 น. จำนวน 150,000 บาท ทางบริษัทบอกว่าทำข้อมูลผิดต้องแก้ไขข้อมูล เสียค่าใช้จ่าย 150,000 บาท ครั้งที่ 3 เวลา 12.33 น ให้โอนเงินให้อีก 150,000 บาท เนื่องจากโอนไป 150,000 บาทครั้งที่แล้ว ไม่ได้ระบุในโน้ตความจำว่าไว้สำหรับโอนเพื่ออะไร ให้โอนเพื่อแก้ไขข้อมูล ส่วนครั้งที่ 4 เวลา 12.53 น. จำนวนเงินคือ 185,000 บาท เป็นการแก้สัญญา เป็นค่าเอกสาร ครั้งที่ 5 เวลา 14.16 นาที จำนวนเงิน 215,000 บาท เขาแจ้งว่าเครดิตในระบบไม่พอต้องโอนเงินเข้าเครดิตก่อน ถึงจะถอนเงินได้ ครั้งที่ 6 เวลา 15.09 น. จำนวนเงิน 255,000 บาท แจ้งว่า บัญชีโดนล็อกต้องทำการปลดบัญชี ถึงจะถอนเงินได้ ครั้งที่ 7 เวลา 17.25 น. จำนวน 350,000 บาท เป็นรอบสุดท้ายเพื่อจะเติมเครดิตเข้าไป เพราะว่าเครดิตไม่พอ รวมแล้ว 1,360,000 บาท
“รู้สึกเสียใจมากไม่คิดว่าจะมาโดนหลอกแบบนี้ทั้งๆ ที่เป็นถึงผู้จัดการธนาคาร ยอมรับว่า แนบเนียนมากมีทั้งหลักฐาน เอกสาร ที่น่าเชื่อถือทำให้ตกเป็นเหยื่อในครั้งนี้” นางสาวบีกล่าว

Advertisement

 

ทนายรณณรงค์กล่าวว่า เบื้องต้นจะให้ผู้เสียหายไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.ชัยพฤกษ์ ท้องที่เกิดเหตุ ตนจะสอบถามไปยังธนาคาร 2 ธนาคาร ก่อนหน้านี้เนื่องจาก 3 วันก่อนมิจฉาชีพทักมา ผู้เสียหายเขาไปกรอกแบบกู้เงินธนาคารกสิกรกับธนาคารออมสิน ทำไมมิจฉาชีพรู้ว่าเขาจะใช้เงินแล้วทักมาทาง LINE ได้เพราะไม่ได้รู้จักกันทางเฟซบุ๊กด้วย ไม่รู้ว่าข้อมูลส่วนตัวเขาหลุดไปได้ยังไง ธนาคารแห่งประเทศไทยต้องรับผิดชอบ เบื้องต้นจะไปแจ้งความข้อหาฉ้อโกงกับข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ก่อน เนื่องจากถูกมิจฉาชีพเอาบัญชีนี้ มีชื่อบัญชีแต่ไม่รู้ว่าเป็นบัญชีม้าหรือบัญชีจริง อยากเตือนไว้ก่อนการรับจ้างเปิดบัญชีมีความผิด ถ้าสามารถตามไปถึงที่ทำการของแก๊งได้สามารถนำเงินคืนได้อยู่ที่การทำงานของตำรวจภูธรภาค 1 ว่าจะพิสูจน์ฝีมือได้หรือไม่ ที่นั่งอยู่ข้างๆ ป็นถึงผู้จัดการธนาคารยังถูกมิจฉาชีพหลอกได้ เพราะว่าเขามีการปลอมข้อมูลทางธนาคารแห่งประเทศไทยมาหลอก ต้องฝากถึงหน่วยงานภาครัฐหามาตรการช่วยเหลือประชาชนเพราะแยกไม่ออกถ้าเป็นเหยื่อหน่วยงานรัฐต้องคุ้มครอง

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image