จบลงด้วยดี โรงเรียนยอมคืนสนามฟุตบอลให้เด็ก ยกเลิกหลักสูตรตีกอล์ฟ ยัน ผอ.มีเจตนาดี
เมื่อวันที่ 12 กันยายน จากกรณีที่โรงเรียนชุมชนบ้านหนองย่างซี้น ต.หนองย่างชิ้น อ.เรณูนคร จ.นครพนม มีการเปิดหลักสูตรกีฬาทางเลือก ฝึกสอนให้นักเรียนไดรฟ์กอล์ฟ โดยปรับเปลี่ยนสนามฟุตบอลเป็นสนามกอล์ฟจนกระทั่งเกิดปัญหาลูกกอล์ฟพุ่งไปตกในบ้านที่อาศัยอยู่ติดกับโรงเรียน คือ บ้านของนางลัดดาวัลย์ บางศิริ อายุ 66 ปี โดยทางชาวบ้านยืนยันว่า ทางโรงเรียนไม่ได้มีการสอบถามมติชุมชน และมีการคัดค้าน เพราะมีความเห็นว่าไม่เหมาะสมในการปรับพื้นที่สนามฟุตบอล เป็นสนามกีฬากอล์ฟนั้น (อ่านข่าว ผอ.โรงเรียนดังนครพนม เปลี่ยนสนามบอลเป็นสนามกอล์ฟ ใช้เด็กปีนเสา ช่วยคนงานเทปูน)
นายศักดิ์วิวัฒน์ คำป้อง นายก อบต.หนองย่างชิ้น พร้อมด้วย นางอรทัย รัตนวงษา กำนัน ต.หนองย่างชิ้น รวมถึงชาวบ้านผู้เสียหาย คือ นางลัดดาวัลย์ และตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่ ร่วมหารือกับนายภานุวัฒน์ ธงยศ ผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนบ้านหนองย่างซี้น พร้อมคณะครูอาจารย์ คณะกรรมการสถานศึกษา เพื่อแก้ไขปัญหากรณีโรงเรียนเปิดหลักสูตรกีฬาทางเลือก ฝึกสอนให้นักเรียนไดรฟ์กอล์ฟ จนกระทั่งเกิดปัญหาขึ้น ทั้งนี้ ภายหลังการหารือได้ข้อสรุปว่า โรงเรียนได้ยินยอมที่จะยุติหลักสูตรการสอนพิเศษ เปลี่ยนเป็นกีฬาหรือกิจกรรมที่สอดคล้องกับชุมชน พร้อมยอมรับว่า การเปิดหลักสูตรกีฬาทางเลือก ฝึกสอนให้นักเรียนไดรฟ์กอล์ฟ เป็นการดำเนินการเพียงความคิดเห็นภายในโรงเรียน และเป็นการนำร่องเท่านั้น เมื่อมีผลกระทบกับชุมชน จึงยินยอมยุติการสอนกีฬากอล์ฟ ขณะเดียวกันทางด้าน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นครพนม เขต 1 ได้สั่งการให้ทางโรงเรียนยึดมติชุมชนเป็นหลัก เพื่อลดความขัดแย้ง และให้มีการยุติหากกระทบกับชุมชน
นางลัดดาวัลย์กล่าวว่า สร้างบ้านเรือนติดกับโรงเรียนมานานกว่า 50 ปี อาศัยทำมาหากินขายของมาตลอด จนกระทั่งล่าสุดไม่นานมานี้ ได้ข่าวว่า ทางโรงเรียนจะเปิดหลักสูตรการสอนตีกอล์ฟ ยังกังวลเรื่องความปลอดภัย และไม่มีการสอบถามความคิดเห็นชุมชน จนกระทั่งไม่กี่วันที่ผ่านมา มีลูกกอล์ฟปริศนาพุ่งเข้ามาในบ้านหลายลูก เฉียดถูกหัวตนและหลานสาว โชคดีไม่ได้รับบาดเจ็บ จึงไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานให้ตำรวจ สภ.เรณูนคร มาตรวจสอบ และเก็บลูกกอล์ฟไว้เป็นหลักฐาน 4 -5 ลูก อย่างไรก็ตามยืนยัน ไม่เห็นด้วยกับการเปิดกีฬากอล์ฟ เพราะเป็นสนามฟุตบอล ที่ลูกหลานเคยใช้ออกกำลังกาย เล่นกีฬา แต่สุดท้ายมาเป็นสนามตีกอล์ฟ จะต้องหลบลูกกอล์ฟทุกวัน มีเพียงตาข่ายไม่กี่เมตรนำมากั้น ไม่สามารถป้องกันได้ หากทางโรงเรียนยอมยุติก็เห็นด้วย เพราะเป็นความปลอดภัยของครอบครัว
ด้าน นายภานุวัฒน์ ผอ.โรงเรียน กล่าวว่า สำหรับหลักสูตรกอล์ฟ เป็นหลักสูตรกีฬาทางเลือกที่คิดกันภายในผู้บริหาร คณะกรรมการสถานศึกษา เพื่อเป็นทางเลือกส่งเสริมลูกหลาน ได้มีโอกาสในการเล่นกีฬาเป็นอาชีพในอนาคต แต่เป็นเพียงการนำร่อง ทดลองใช้พื้นที่สนามฟุตบอลของโรงเรียนบางส่วน เป็นสนามไดรฟ์กอล์ฟ ยอมรับยังไม่ได้สอบถามความคิดเห็นชุมชน แต่ได้พยายามหาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายกับชาวบ้าน และมีบางส่วนเกิดความผิดพลาดน้อมรับในปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมที่จะแก้ไขปัญหา และขอให้เป็นมติชุมชน หากชุมชนไม่เห็นด้วยและไม่ต้องการ จึงขอยุติหลักสูตรดังกล่าว และเปลี่ยนแปลงหาหลักสูตรเสริมที่สอดคล้องกับชุมชน ขอให้ชาวบ้านในพื้นที่อุ่นใจ ทางโรงเรียนเอาชุมชนเป็นหลัก หากดำเนินโครงการไหนที่กระทบต่อชุมชน จะไม่มีการดำเนินการอย่างแน่นอน
ขณะที่ นายศักดิ์วิวัฒน์กล่าวว่า คณะผู้บริหารสถานศึกษา และตัวแทนชาวบ้าน ได้ข้อยุติ ทาง ผอ.โรงเรียน ยิมยอมที่จะยกเลิกการเปิดสอนหลักสูตรพิเศษตีกอล์ฟ เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งกับชุมชน และต้องการให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการสนามกีฬาฟุตบอลให้ลูกหลานได้ใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ร่วมกัน ทั้งนี้ยอมรับผู้อำนวยการโรงเรียนมีเจตนาดี ในการอยากสร้างโอกาสให้กับลูกหลานเยาวชน แต่เมื่อเกิดปัญหาจึงยินยอมที่จะหาข้อยุติจบด้วยดี และยอมคืนพื้นที่ให้กับลูกหลานเยาวชน และชุมชน ลดความขัดแย้ง
ทางด้าน นางอรทัย รัตนวงษา อายุ 51 ปี กำนันตำบลหนองย่างชิ้น เปิดเผยว่า ยอมรับในเจตนาของผู้อำนวยการโรงเรียนที่มีความตั้งใจอยากให้กีฬากอล์ฟเป็นโอกาส เป็นทางเลือกในการส่งเสริมกีฬาให้ลูกหลานเยาวชนได้มีโอกาสเล่นกีฬากอล์ฟ ก้าวสู่นักกีฬาอาชีพในอนาคต แต่เกิดปัญหาเนื่องจากพื้นที่ไม่เหมาะสม เพราะใช้สนามฟุตบอลในการเปิดการสอน และเสี่ยงเกิดอันตรายต่อชาวบ้าน ดังนั้นจึงได้หารือตกลงหาข้อยุติกันจนลงตัว เพราะก่อนนี้ไม่มีการหารือความเห็นชาวบ้าน และชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย จึงต้องขอให้งดเปิดการสอน โดยทางคณะผู้บริหารโรงเรียนรวมถึงชาวบ้าน เข้าใจกันดี และหาข้อสรุปคือทางโรงเรียนของงดการสอนให้ใช้สนามกีฬาฟุตบอลตามปกติ
