หนุ่มใหญ่ เมามาง้อเมีย ไม่สำเร็จ จุดไฟเผาบ้านแม่ยาย จนต้องวิ่งหนีตายรอดหวุดหวิด
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 12 กันยายน ร.ต.อ.วันชัย พุฒเอก ร้อยเวร สภ.เมืองราชบุรี พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตำบลเจดีย์หัก ตรวจสอบที่เกิดเหตุหลังได้รับแจ้งเหตุไฟไหม้บ้านไม่มีเลขที่ภายในซอยมะม่วงคู่ 5 หมู่ 4 ต.เจดีย์หัก อ.เมือง จ.ราชบุรี ที่เกิดเหตุพบว่าเพลิงได้สงบลงแล้ว แต่ตัวบ้านซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียวนั้นเสียหายทั้งหมดกระจกประตูบ้าน กระจกหน้าต่างแตกเสียหาย รวมทั้งข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านก็ถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหายทั้งหมด
นอกจากนี้ยังมีห้องข้างเคียงซึ่งเปิดเป็นร้านรับซ่อมรถจักรยานยนต์ ได้รับความเสียหายเล็กน้อย ส่วนรถจักรยานยนต์และอุปกรณ์ในการซ่อมรถนั้นถูกย้ายออกมานอกตัวบ้านจึงไม่ได้รับความเสียหายอะไร
จากการสอบถามนางพิณ อายุ 77 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว ให้การว่า คนเผาบ้านเป็นลูกเขย ขณะเกิดเหตุตนอยู่ในห้องกับลูกสาวและหลานสาว ซึ่งเป็นลูกของคนก่อเหตุเผา ได้กลิ่นน้ำมันจึงออกมาดูก็เห็นลูกเขยกำลังเทน้ำมันเบนซินราดที่หน้าห้อง จึงได้พากันวิ่งออกมาแล้วลูกเขยก็จุดไฟเผาทันที ทำให้รอดตายหวุดหวิด แต่ข้าวของเครื่องใช้โดยเฉพาะชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนของหลานถูกไฟไหม้ทั้งหมด หลังจากนี้ไปก็คงจะต้องไปหาที่อยู่ใหม่เพราะมีปัญหากับลูกเขยมานานแล้ว แต่ไม่คิดว่าจะทำกันขนาดนี้
ด้านนางสาวงามขำ อายุ 45 ปี เล่าว่า อยู่กินกับนายไพรทูรย์ อายุ 45 ปี มาประมาณ 30 ปี มีลูกด้วยกัน 4 คน โดยได้ปลูกบ้านแยกให้ลูกกันคนละหลัง ซึ่งหลังที่ถูกไฟไหม้นั้น ตนปลูกให้กับนางพิณ ซึ่งเป็นแม่ของตนเองเพื่อจะได้อยู่กันเป็นสัดส่วน โดยมีลูกสาวคนเล็กไปอยู่กับแม่ด้วย ก่อนเกิดเหตุได้มีปากเสียงกับนายไพรทูรย์ เนื่องจากชอบมาด่าว่าแม่ของตนเอง และขู่จะทำร้ายหลายครั้ง จนทำให้ตนเองนั้นทนไม่ไหว ต้องออกมานอนที่ห้องของแม่กับลูกสาว
ซึ่งนายไพรทูรย์ ก็พยายามมาง้อขอคืนดี แต่ตนเห็นว่าสามีนั้นมีอาการเมาพูดกันไม่รู้เรื่อง จึงไม่ออกมาคุยด้วย จนกระทั่งได้กลิ่นคล้ายกับน้ำมัน จึงเปิดประตูห้องออกมาดูก็พบว่าสามีกำลังราดน้ำมันและจุดไฟเผาบ้าน จึงได้รีบพาแม่กับลูกสาวหนีตายออกมา หลังจากที่จุดไฟเผาบ้านแล้วสามีก็หนีไป ซึ่งที่ผ่านมานั้นสามีติดยาและไม่ได้ทำงาน รวมทั้งดื่มเหล้าด้วย จึงทำให้มีปากเสียงกันตลอด และยังชอบมาด่าว่าแม่ของตนเองจึงทำให้ทนไม่ไหว ซึ่งครั้งนี้ก็จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะการจุดไฟเผาบ้านนั้นน่าจะเป็นเรื่องพยายามฆ่า ทั้งที่มีลูกสาวอยู่ในบ้านด้วยก็ยังจุดไฟเผา จึงยอมไม่ได้และจะต้องย้ายออกไปอยู่ที่อื่นเพราะกลัวความไม่ปลอดภัย และสงสารลูกสาวด้วยที่ยังร้องไห้ไม่หยุดเพราะอุปกรณ์การเรียนนั้นไหม้หมด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนของ สภ.เมืองราชบุรีได้ออกติดตามหาตัวนายไพรทูรย์ตามบ้านญาติแต่ยังไม่พบตัว คาดว่าอาจจะไปหลบตามบ้านเพื่อน จึงต้องไปติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
